นอกจากเรื่องรถไฟญี่ปุ่นแล้ว ขอแทรกเกร็ดความรู้หลายๆ อย่างเกี่ยวกับระบบรถรางในญี่ปุ่นไว้ตอนท้ายนี้ และจะขอเน้นเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงนะครับ
นอกจากเรื่องรถไฟญี่ปุ่นแล้ว ขอแทรกเกร็ดความรู้หลายๆ อย่างเกี่ยวกับระบบรถรางในญี่ปุ่นไว้ตอนท้ายนี้ และจะขอเน้นเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงนะครับ

ก่อนอื่นขอแนะนำถึงสายของรถชินคันเซ็นที่วิ่งพล่านกันทั่วประเทศญี่ปุ่นก่อน โดยญี่ปุ่นมีเส้นทางชินคันเซ็นสายหลักดังนี้คือ
1. Tokaido Shinkansen เส้นทางจากโตเกียวสู่โอซาก้า ระยะทาง 515 km เปิดใช้งานในปี 1964 สายแรกและสายยอดนิยมที่มีคนขึ้นเยอะที่สุดคือ 151 ล้านคนต่อปี
2. Sanyo Shinkansen เส้นทางจากโอซาก้าต่อจาก Tokaido ไปตอนใต้ของประเทศ ระยะทาง 553 km เปิดใช้งานครบในปี 1975
3. Nagano Shinkansen วิ่งจากใกล้ๆ โตเกียวไปยังเมืองนากาโน่ ระยะทาง 117 km เปิดใช้งานในปี 1997 สายนี้กำลังต่อขยายไปทางตะวันตก
4. Joetsu Shinkansen อันนี้เชื่อมกับกลางๆ เส้น Nagano ไปจบที่เมือง Niigata ระยะทาง 269 km เปิดใช้งานปี 1982
5. Tohoku Shinkansen เป็นเส้นที่วิ่งจากโตเกียวขึ้นทางเหนือไปที่อาโอโมริ ระยะทาง 674 km (ยาวที่สุด) เปิดใช้งานครั้งแรกปี 1982 และก่อสร้างต่อเรื่อยมาจนเสร็จในปี 2010
6. Kyushu Shinkansen เป็นสายที่ต่อจาก Sanyo อีกทีไปยังเกาะคิวชูด้านใต้สุดของ 4 เกาะหลัก ระยะทาง 256 km ก่อสร้างเสร็จเมือปี 2011 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับระบบราง รู้หรือไม่ว่าระบบทางส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นนับเป็นแบบรางแคบ 1.067 เมตร ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางระหว่างเมืองหรือรถวิ่งในเมือง (ส่วนไทยใช้แบบ 1.000 เมตรพอดี) ส่วนระบบรางมารตฐาน 1.435 เมตร มีใช้กันในรถไฟความเร็วสูงทำให้ได้ Top speed ที่มากขึ้น (และเนื่องด้วยความเร็ว เพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งที่อาจขึ้นมาเพ่นพ่านบนราง รางชินคันเซ็นทั้งหมดจึงเป็นรางแบบยกระดับหรือกั้น ไม่มีถนนตัดผ่าน) แต่รางแคบของญี่ปุ่นก็ไม่ได้ช้าอืดอาด แต่สามารถทำความเร็วได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

จากตอนแรกที่กล่าวไปว่า ชินคันเซ็นรุ่นแรกหรือ 0 Series ก็สามารถวิ่งได้ถึง 210 km/h แล้ว แต่ไม่จบแค่นั้นเพราะของมันต้องพัฒนา ชินคันเซ็นได้ถูกพัฒนาต่อไปอีกมากมายหลายรุ่นจนกล่าวไม่หมด จึงขอยกรถรุ่นเด็ดๆ มาให้ดูแค่สองรุ่น

N700 Series Shinkansen
เริ่มสร้างในปี คศ 2005 และนำมาใช้งานในปี 2007 บนเส้นทาง Tokaido, Sanyo และ Kyushu ผลิตโดย Hitachi, Kawasaki Heavy Industries, Kinki Sharyo, Nippon Sharyoสามารถทำความเร็วสูงสุดบนรางสาย Sanyo ที่ความเร็ว 300 km/h และ 260-270 km/h บนเส้นทางอื่น


E5 Series Shinkansen
รุ่นนี้เป็นสุดยอดตัวท็อปใหม่ล่าสุด เริ่มสร้างในปี 2009 และเพิ่งนำมาออกวิ่งเดือนมีนาคมปีที่ 2011 ผลิตโดย Hitachi และ Kawasaki เป็นรุ่นที่ญี่ปุ่นเค้า proudly present มาก เดินไปสถานีไหนก็ติดโปสเตอร์โฆษณารถไฟนี่เต็มไปหมด อย่างรูปเปิดกระทู้ก็คือคันขวาสุด รุ่นนี้สามารถ Design มาให้ทำ Top speed บนรางจริงได้ถึง 320 km/h (แต่ตอนนี้ยังวิ่ง max แค่ 300) วิ่งบนสาย Tohoku และที่พิเศษกว่าชาวบ้านเค้าคือที่นั่งมี 3 ระดับ แบ่งเป็น Ordinary seat, Green seat และ Gran seat (เหมือนชั้น 3 ชั้น 2 ชั้น 1 บ้านเรา) ซึ่งปกติชินคันเซ็นอื่นๆ จะไม่มี Gran seat ซึ่งหรูสุดยอดนั่นเอง ทั้งขบวนมีแค่ 18 ที่นั่งเท่านั้น (ส่วน Green คือหรูธรรมดา เก้าอี้ใหญ่กว่าปกติ)

จบเรื่องรุ่นไปแล้ว ขอกล่าวถึงข้อมูลทางเทคนิคของชินคันเซ็นซักเล็กน้อย รถไฟชินคันเซ็นนั้นให้พลังงานไฟฟ้าจากสายไฟเหนือรถที่มีตลอดความยาวราง โดยใช้ไฟกระแสสลับ 25,000 Volt 50 Hz ก็ถือว่ากิน Volt สูงกว่ารถปกติมาก ซึ่งรถแบบรางแคบวิ่งทั่วไปของเค้าจะใช้ไฟประมาณ 1,500 Volt DC ไปจนถึง 20,000 Volt AC ขึ้นอยู่กับชนิดและประเภท รางที่ใช้ก็คือรางมารตฐาน 1.435 เมตร ความเร็ว ณ ปัจจุบันก็ ทะลุ 250 km/h ไปกันเกือบหมดแล้ว แต่ถ้าวัดความเร็วเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มยันจบจากโตเกียวไปโอซาก้า แวะหยุดสามสถานี จะอยู่ที่ประมาณ 160 km/h ส่วนแบบหยุดแค่ต้นทางและปลายทางบนสาย Sanyo สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 250 km/h

นอกจากเรื่องความเร็วแล้ว ชินคันเซ็นยังยอดเยี่ยมในด้านความปลอดภัยและความตรงต่อเวลา ซึ่งนับแต่มีชินคันเซ็นมา ผู้โดยสารรวม 7,000 ล้านคน ยังไม่เคยเกิดเหตุรถไฟชนกันเลย และยอดผู้เสียชีวิตจากการชนกันหรือตกรางเป็น 0 (แต่มีผู้เสียชีวิต 1 รายเนื่องจากโดนประตูหนีบและสัมภาระหล่นทับ) อุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุดของชินคันเซ็นคือการตกรางเนื่องจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2004 ทำให้ 8 ตู้ขบวนจาก 10 หลุดออกจากรางแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และเดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นก็ได้พัฒนาความปลอดภัยมากขึ้นโดยมีระบบตรวจจับแผ่นดินไหวที่รุนแรงและหยุดรถโดยอัตโนมัติ แม้ไม่มีอุบัติเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแต่ก็มีหลายคนมาฆ่าตัวตายโดยโดดไปให้รถไฟชน (เป็นวิธีฆ่าตัวตายที่พบบ่อยที่ญี่ปุ่น)

สำหรับความตรงต่อเวลา ก็มีสถิติที่น่าสนใจจากการเก็บข้อมูลการวิ่งของชินคันเซ็น 160,000 เที่ยว เก็บข้อมูลในปี 2003 พบว่าโดยเฉลี่ยชินคันเซ็นจะมีความคลาดเคลื่อนจากตารางเวลาไม่เกิน 6 วินาที !!!!! โดยสถิตินี้รวมข้อมูลการล่าช้าจากอุบัติเหตุและภัยพิบัติต่างๆไว้แล้ว!!!!!!! ซึ่งข้อมูลที่เก็บใบปี 2003 นี้ก็พัฒนาจากทีเก็บข้อมูลในปี 1997 ที่มีความล่าช้าเฉลี่ยอยู่ที่ 18 วินาที
จากข้อมูลพวกนี้ ก็ทำให้เราเห็นว่ารถไฟญี่ปุ่นนั้นเร็วเพียงใด แต่เขาไม่หยุดอยู่แค่นั้น มีอีกสิ่งที่จะเหนือกว่าชินคันเซ็นทั่วไปอีก สิ่งนั้นก็คือ รถไฟ Maglev! ซึ่งเรื่องนี้ ไว้ผมจะเขียนในกระทู้หน้านะครับ สำหรับวันนี้ขอจบไว้เพียงเท่านี้ครับ หากมีข้อผิดพลาดตรงไหนรบกวนบอกด้วยนะครับ และขอขอบคุณทุกท่านที่มาติดตามอ่านกันนะครับ ^^
ที่มา : www.pantip.com
อ้างอิง:
http://en.wikipedia.org/wiki/History_of_rail_transport_in_Japan
http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_Government_Railways
http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_National_Railways
http://en.wikipedia.org/wiki/Japan_Railways_Group
http://www.rtri.or.jp/rd/division/rd79/yamanashi/english/
http://www.railway.co.th/home/srt/about/history.asp
http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12028816/X12028816.html