นอกจากอาหารการกิน เสื้อผ้าหน้าผม ประเพณี วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกแล้ว สุนัขญี่ปุ่น (日本犬) ก็เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกด้วยเช่นกัน เรามาทำความรู้จักสุนัขญี่ปุ่นกันคร่าวๆ ดีกว่าค่ะ
นอกจากอาหารการกิน เสื้อผ้าหน้าผม ประเพณี วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกแล้ว สัตว์บางชนิดก็เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกด้วยเช่นกัน อย่างเช่น สุนัขญี่ปุ่น (日本犬) เรามาทำความรู้จักสุนัขญี่ปุ่นกันคร่าวๆ ดีกว่า สายพันธุ์ที่จัดให้เป็นสัตว์สงวนมีอยู่ด้วยกัน 6 สายพันธุ์ แบ่งออกเป็นสามประเภทที่มีขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก กำหนดโดยสมาคมเพื่อการอนุรักษ์สุนัขญี่ปุ่น (nihonken-hozonkai) มาดูกันว่ามีสายพันธุ์อะไรกันบ้าง
สายพันธุ์ Akita (秋田犬) เป็นสุนัขขนาดใหญ่ ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนสายพันธุ์แรกเมื่อปี ค.ศ. 1931
ถิ่นกำเนิด จังหวัด Akita (秋田県) ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคโทโฮคุ
ลักษณะนิสัย เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรงชอบความเป็นอิสระ และโดดเด่นในเรื่องความฉลาด เรียนรู้ง่าย ไม่ชอบเข้าใกล้คนแปลกหน้า แต่รักใคร่สมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างมาก มีนิสัยกล้าหาญและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ มีความสุภาพ มีโลกส่วนตัวสูง เงียบขรึม จะเห่าก็ต่อเมื่อรู้สึกถึงศัตรูเท่านั้น รักสะอาด ทนต่อความหนาว ไม่ชอบอากาศร้อนๆ เพราะมีขนสองชั้น ขี้เบื่อง่าย
ความสามารถ ในสมัยก่อนใช้ล่าสัตว์ แข่งขันต่อสู้ เป็นสุนัขอารักขาได้ดี ปัจจุบัน เฝ้าบ้าน เป็นสุนัขตำรวจ เป็นผู้นำทางให้คนตาบอด เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ได้ด้วยนะ
ความเป็นมา บรรพบุรุษของสุนัขพันธุ์ Akita ก็คือสุนัขพันธุ์ Akita Matagi ซึ่งเป็นสุนัขขนาดกลาง ล่าหมี ล่ากวาง บนภูเขา สุนัขพันธุ์ Akita เกือบจะสูญพันธุ์ไปในยุคสงครามที่เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร เกิดโรคระบาด ผู้คนเจ็บป่วยล้มตาย แล้วอาคิตะที่แสนจะตัวโตก็ต้องอดอยากตามไปด้วย มีการประกาศให้กวาดล้างสุนัขให้หมดสิ้นเหลือไว้เพียงแต่สุนัขของทหารเท่านั้น ห้ามให้อาหารสุนัข และขนอาคิตะก็คือเสื้อกันหนาวชั้นดีของผู้คนในสมัยนั้นอีกด้วย เมื่อสงครามจบสิ้นมีอะคิตะเหลือเพียงไม่กี่ตัวที่ถูกช่วยเหลือให้อยู่รอดจนมีรุ่นลูกรุ่นหลานให้เห็นกันจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันสุนัขพันธุ์อาคิตะ มีสองสายพันธุ์หลักๆ ก็คือ Japanese Akita และ American Akita ซึ่งสายพันธุ์ของอเมริกาจะตัวใหญ่กว่าสายพันธุ์ญี่ปุ่น และเป็นพันธุ์ที่ผสมกับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมมาตั้งแต่สมัยสงครามแล้ว หน้าตาของทั้งสองสายพันธุ์นี้จึงดูไม่ค่อยเหมือนกันเลยซะทีเดียว
วิธีการเลี้ยงดู พาออกกำลังกายสม่ำเสมอ สิ่งที่สำคัญคือการดูแลขน เพราะอาคิตะจะผลัดขนปีละสองครั้ง และจะขี้ร้อนพอตัวเพราะขนจะหนามาก อีกอย่างยังเป็นสุนัขที่แรงเยอะมากอีกด้วย
สายพันธุ์ Kaiken (甲斐犬) หรือ สุนัขคาอิ ใครเคยอ่านการ์ตูนเรื่อง เขี้ยวเงิน ต้องเคยเห็นสุนัขลายเสือแน่นอน เป็นสุนัขขนาดกลาง ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนสายพันธุ์ที่สองเมื่อปี 1934
ถิ่นกำเนิด จังหวัด Yamanashi (山梨県) ตั้งอยู่ในภาคจูบุ
ลักษณะนิสัย เป็นมิตรกับเจ้าของ รักความสงบ เด็ดเดี่ยวและทำงาน (ล่าเนื้อ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสามารถ เป็นสุนัขล่าเนื้อชั้นดี เช่น กระต่าย นก กวาง และหมูป่า
ลักษณะพิเศษ ขนสีน้ำตาล สีดำ และสีแดง ที่ผสมผสานกันเป็นลายเสือ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษของสุนัขสายพันธุ์นี้เลยทีเดียว เมื่อมีอายุมากขึ้น ลายก็จะยิ่งเด่นชัดมากขึ้น
สายพันธุ์ Kishu (紀州犬) เป็นสุนัขขนาดกลาง ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนสายพันธุ์ที่สามเมื่อปี 1934
ถิ่นกำเนิด จังหวัด Wakayama (和歌山県) อยู่ในภูมิภาคคันไซ
ลักษณะนิสัย ไม่ชอบการบังคับมากนัก ใจดี อัธยาศัยดี อดทนสูง ซื่อสัตย์ กล้าหาญ สามารถเข้ากับเด็กเล็กๆ ได้ดี ไม่ทำร้ายใครก่อน เห่าน้อย แต่สู้ไม่ถอย
ความสามารถ เป็นสุนัขซุ่มล่าหมูป่าและสัตว์ใหญ่ได้อย่างดีเยี่ยม ในปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน
ลักษณะพิเศษ สุนัขพันธุ์ Kishu นั้น คือมีสีขนอยู่หลายสี ดังนี้ สีแดง สีขาว สีงาดำ ลายเสือก็มี หากเลี้ยงไว้ล่าหมูป่ามักนิยมเลี้ยงสีขาวเพราะง่ายต่อการแยกแยะในขณะที่ล่าอยู่
วิธีการเลี้ยงดู พาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ฝึกได้ แต่อย่าไปบังคับมาก
สายพันธุ์ Shiba (柴犬) เป็นสุนัขขนาดเล็ก ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนสายพันธุ์ที่สี่เมื่อปี 1936
ถิ่นกำเนิด จังหวัด Shiba (千葉県) อยู่ในภูมิภาคคันโต
ลักษณะนิสัย ร่าเริง ฉลาด เอาแต่ใจนิดหน่อย คล่องแคล่ว อ่อนโยน เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ได้ดี นิสัยออกแนวเด็กๆ ซุกซน ยิ้มเก่งอีกด้วย
ความสามารถ เป็นหมาที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เลี้ยงเพื่อล่าสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น นก กระต่าย เป็นต้น ปัจจุบันเลี้ยงไว้เป็นเพื่อเฝ้าบ้านหรือเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ดีทีเดียว
ลักษณะพิเศษ เป็นสายพันธุ์ตระกูลเดียวกับพันธุ์อาคิตะ แต่จะตัวเล็กกว่าเกือบครึ่งหนึ่ง มีดวงตาเหมือนจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ มีขนสีดำ แดง น้ำตาล สีงาดำ สีครีม
วิธีการเลี้ยงดู พาออกกำลังกายสม่ำเสมอ เอาใจใส่มากหน่อยเพราะขี้น้อยใจเล็กน้อย โดยเฉลี่ยสุนัขญี่ปุ่นจะมีอายุขัยประมาณ 12 – 15 ปี แต่มีชิบะอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า Pusuke เพราะเจ้านายพาไปออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอทำให้มีอายุถึง 26 ปีและได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปลายปี 2011
สายพันธุ์ Shikoku (四国犬) เป็นสุนัขขนาดกลาง ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนสายพันธุ์ที่ห้าเมื่อปี 1937
ถิ่นกำเนิด เกาะ Shikoku (四国) พบมากในจังหวัดโคจิ (高知県) สมัยก่อนเรียกว่าจังหวัดโทสะ ทำให้สุนัขชิโกะกุในสมัยก่อนถูกเรียกว่า สุนัขโทสะ เพราะตั้งชื่อตามชื่อจังหวัด และมาเปลี่ยนเอาทีหลังเป็น สุนัขชิโกะกุ เพราะชื่อโทสะไปซ้ำกับ สุนัขพันธุ์โทสะที่เป็นสุนัขพันธุ์ผสมหลายสายพันธุ์มาก เลี้ยงไว้สำหรับแข่งขัน ลากของ เฝ้ายาม เป็นสุนัขตัวโต บ้าพลัง หวงเขตแดนมาก เลี้ยงยากนิดนึง
ลักษณะนิสัย ขี้เล่นเล็กน้อย ชอบอิสระ แข็งแกร่ง ฉลาด สุภาพ รักเจ้าของและอาจจะก้าวร้าวกับคนแปลกหน้า
ความสามารถ เป็นสุนัขล่าสัตว์ เช่น กวาง หมูป่า กระต่าย เป็นต้น มีความอดทนสูง หรือเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน
ลักษณะพิเศษ หน้าตาจะคล้ายหมาป่า มีสีดำ สีแดง สีงาดำ
วิธีการเลี้ยงดู พาออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากนำมาเฝ้าบ้านควรฝึกให้ดี เพราะถ้าไม่ชอบคนแปลกหน้ามากๆ อาจจะถูกกัดเอาได้
สายพันธุ์ Hokkaido (北海道犬) หรือสุนัขไอนุ เป็นสุนัขขนาดกลาง ถูกกำหนดให้เป็นสุนัขสงวนสายพันธุ์ที่หกเมื่อปี 1937
ถิ่นกำเนิด Hokkaido (北海道) อยู่ในภูมิภาคฮอกไกโด
ลักษณะนิสัย ชอบว่ายน้ำ เล่นน้ำ เจ้าอารมณ์ กล้าหาญ มีความตั้งใจจริงจังสูง ฉลาด
ความสามารถ ทนอากาศหนาวได้ดี เป็นสุนัขล่าเนื้อ ล่าหมี และล่ากวาง หรือเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน
ลักษณะพิเศษ ขนหนานุ่ม มีสีน้ำตาลแดง สีขาว สีดำ
วิธีการเลี้ยงดู พาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรมีพื้นที่ให้เค้าอยู่ได้สบาย จะได้ไม่หงุดหงิด
ได้รู้จักสุนัขญี่ปุ่นสายพันธุ์หลักๆ ไปกันแบบคร่าวๆ แล้ว เกิดอยากเลี้ยงน้องหมากันบ้างมั้ยเอ่ย? จริงๆ แล้ว สุนัขญี่ปุ่นมีอีกหลายสายพันธุ์ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงอีกนะ.. แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของการนำเสนอทรัพยากรในประเทศของเค้า แม้จะเป็นสุนัขพื้นบ้านธรรมดาของญี่ปุ่น ก็สามารถกลายมาเป็นไอดอลของคนทั่วโลกได้เหมือนกัน การหยิบยกเรื่องราววีรกรรมของน้องหมาบางตัวขึ้นมาสร้างเป็นนิยาย เป็นละคร เป็นภาพยนตร์ และแม้กระทั้งในมังงะบ้างเรื่องที่นำเสนอเรื่องของน้องหมาล้วนๆ ได้ทำให้สุนัขญี่ปุ่นกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มารู้จัก สุนัขญี่ปุ่น ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายกันดีกว่า
พันธุ์ Akita ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักก็คือ เจ้า Hachiko เป็นที่รักของคนทั่วโลกก็เพราะความซื่อสัตย์ที่เฝ้ารอเจ้านายจนถึงวินาทีสุดท้าย เรื่องราวของฮะจิเป็นที่เล่าขานและถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งในและนอกประเทศ แถมยังมีอนุเสาวรีย์ที่ย่านชิบุย่าเพื่อให้รำลึกถึงเจ้าตัวอีกต่างหาก
พันธุ์ Akita ตัวโต อ้วน หน้าตาขี้เหร่ ชื่อว่า Wasao พระเอกหนังว่าด้วยเรื่องของตัวมันเอง ที่คนญี่ปุ่นตกหลุมรักขนฟูๆ เหมือนสิงโต สีขาวปุย ช่างน่ารัก น่าเอ็นดู จากน้องหมาข้างถนนที่ถูกเก็บมาเลี้ยง จนกลายมาเป็นดารา และมีผลงานทั้งออกรายการทีวีและถ่ายภาพลงนิตยสาร อีกทั้งงานโฆษณา และโฟโต้บุ๊ค และอื่นๆ อีกมากมาย
พันธุ์ Hokkaido ที่โด่งดังอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เจ้าของผลงานโฆษณา Softbank รับบทบาทเป็นOtousan คุณพ่อในรูปร่างของสุนัขพันธุ์ฮอกไกโดสีขาวนวล
มังงะ เรื่อง Ginga Densetsu Wido หรือ ไอ้เขี้ยวเงิน ผลงานของอาจารย์ Yoshihiro Takahashi นี่ก็เป็นมังงะที่มีแต่เรื่องของน้องหมาเต็มเลย ตัวเอกเป็นพันธุ์ Akita ซะด้วยนะ
ภาพยนตร์เรื่อง Yamakoshi-mura no Mari to Sanbiki no Koinu หรือ A tale of Mari and three puppies สร้างจากเรื่องจริง ที่ญี่ปุ่นในปี 2004 ได้เกิดแผ่นดินไหวและถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นว่า “แผ่นดินไหวชูเอ็ทสึ จังหวัดนีงาตะ” กับวีรกรรมสุดประทับใจของเจ้าหมาตัวน้อยที่ชื่อ “มาริ” ที่รอดจากแผ่นดินไหวนั้นทำให้ผู้ชมต้องหลั่งน้ำตา ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือที่มียอดขายมากกว่า 200,000 เล่ม แน่นอนว่าผู้เขียนได้เสียน้ำตากับเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว T^T
นอกจากนี้ สุนัขสายพันธุ์ Akita ยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี สุขภาพดี คนญี่ปุ่นจึงมักจะส่งรูปปั้นน้องหมาอาคิตะให้กับคนป่วยเพื่อแทนคำอวยพรให้หายป่วยโดยเร็วไวอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.unsere-nordischen.de/rassen/hokkaido.htm
http://ja.wikipedia.org/wiki/%E6%97%A5%E6%9C%AC%E7%8A%AC
http://jkdramas.com/movies/japan/ATaleOfMariAndThreePuppies/index.htm
http://www6.plala.or.jp/junji88/collection/image/tennen/tennen13.jpg
http://www.nihonken-hozonkai.or.jp/
http://xni.in/?0jqcsu
http://waken-gallery.jp/
http://www.letocar.com/en/kishu/
http://kakaku.com/item/55100210121/