ตะลุยกำแพงหิมะ…ไฮไลท์ของวันนี้อยู่ที่ กำแพงหิมะ การขึ้นโรปเวย์ แล้วไปเขื่อนคุโรเบะ แต่ว่ากองทัพที่ดีต้องเดินด้วยท้อง 555 ตลอดอ่ะ อิ่มละพร้อมค่ะ ร่างพร้อม ใจพร้อม!ก็ลุยเลย
ความเดิมจากตอนก่อนคือเราไปเที่ยวที่ทาคายาม่า ชิราคาว่าโกะ แล้วก็จัดเต็มกินอาหารเย็นกันที่สถานีโทยามะ จากนั้นเช้ามาเราก็กินอาหารบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมไดว่า รอยเน็ตโทยามะ

เอาหล่ะ เมื่อเราอิ่มอร่อยแล้วก็ต้องเริ่มต้นการผจญภัยแล้วสิ ไฮไลท์ของวันนี้อยู่ที่ กำแพงหิมะ การขึ้นโรปเวย์ แล้วไปเขื่อนคุโรเบะ แต่ว่ากองทัพที่ดีต้องเดินด้วยท้อง 555 ตลอดอ่ะ อิ่มละพร้อมค่ะ ร่างพร้อม ใจพร้อม!
ทริปนี้ใครสนใจรายละเอียดจัดที่ลิงค์นี้เลยค้าาาาาา>>http://goo.gl/CnQK8v
คอนเซปของอีฮั้นเองค่ะ → นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน เที่ยวเป็นหลงระเริง ลงจากบัสเป็นซื้อ
เอาหล่ะ เรานอกเรื่องละ 55 เข้าเรื่องกันต่อเลยจ้าาาา เรามาถึงสถานีทาเทยาม่า (Tateyama : 立山) กันแล้วก็ต้องรอประมาณ 15 นาทีในการขึ้นรถเคเบิ้ลคาร์ โอ้วววว ตื่นเต้นนะ เอาจริงๆ
วันนี้เราก็ฝากชีวิตไว้กับคุณไกด์คนนี้หล่ะค้าาาาา

เมื่อถึงสถานีทาเทยาม่าแล้ว ไกด์ก็บอกให้เราซื้อของเล่นไปก่อน ประมาณ 15 นาทีให้มารวมตัวกันที่ช่องเดินทางหมายเลข 2 ซึ่งเป็นที่รวมพลของกรุ๊ปทัวร์ แต่เราจองไว้แล้วว่าจะไปรอบนั้น ก็เลยสบายๆ เป็นจุดที่จะเข้าไปขึ้นรถเคเบิ้ลคาร์!

สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือการไปเอาโบร์ชัวร์ที่มีแสตมป์ด้วยมาประทับเล่นไปพลางๆ ซื้อขนมและนมของที่นี่ทานรองท้องเล็กน้อย 555 แล้วก็รวมถึงเช็คราคาสิว่าผ้าพันคอ หมวกไรนี่เค้าราคาแพงมั๊ย เพราะสำหรับบางคนที่ไม่ได้เตรียมมาก็คงจำเป็น อากาศค่อนข้างเย็น แต่แนะนำเลยว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้คือแว่นกันแดดค่ะ เพราะหิมะขาวจนเรามองอะไรลำบากมากๆ เลยจริงๆ ถ้าไม่ได้เอาพกไปนี่ มีมึนอ่ะนะ เอาจริงๆ

ระหว่างนั้น ไกด์ก็ทำการแจกตั๋วเป็นป้ายแท็กเข็มกลัดให้เราทำการติดทุกๆ คนเพื่อเป็นสัญลักษณ์เมื่อเราเข้าช่องไหนแล้วจะได้เข้าฟรี เพราะไกด์ได้ทำการจ่ายทุกอย่างไว้ให้เราล่วงหน้าแล้ว เพราะฉะนั้นรักษามันให้ดีๆ นะคะ มันคือตั๋วค้าาาา!!

ก่อนเราจะออกเดินทางเรามาบอกเล่า เก้าสิบขั้นตอนการเดินทางวันนี้ เอาจริงๆ ต่อรถสิบรอบอ่าาาา 555 ก็เผื่อบางคนที่ต้องการเดินทางมาเองนะคะ ก็ดูอันนี้พอเป็นแนวได้บ้าง นี่เราเริ่มการเดินทางจากสถานีทาเทยาม่าค่ะ เราจะเดินทางตามภาพเลยนะ การเสียค่าใช้จ่ายในแต่ละท่อนเนี่ย ค่อนข้างแพงจริงๆ ค่ะ เพราะมันหลายต่อหลายต่อจริงๆ อย่างในภาพคือค่าใช้จ่ายจากกำแพงหิมะ ไปยังที่ต่างๆ ก็ยังแพงเลยค่ะ ส่วนใครที่จองทัวร์ก็รวมหมดแล้ว มีบางคนถามว่าอยากเอารถขึ้นไปเองค่ะ จะขึ้นได้มั๊ย อยากให้ทุกคนนึกภาพง่ายๆ ว่าเราจะขับรถขึ้นภูกระดึงก็ไม่ไหวใช่ป่ะคะ มันสูงอ่ะค่ะ

สำหรับการเดินทางที่เราต้องใช้รถแบบ public transportationจะมีขั้นตอนดังนี้
รถบัสของเจทีบีจะส่งให้ท่านเริ่มต้นเดินทางกับไกด์จาก :
สถานี Tateyama โดยการขึ้นเคเบิ้ลคาร์ → จาก Bijodaira โดยสารบัสผ่าน Midagahara → จาก Murodo กำแพงหิมะ จากนั้นขึ้นบัสราง (trolley bus) → Daikanbo กระเช้าโรฟเวย์ → Kurobedaira เคเบิ้ลคาร์ → Kurobeko → เดินที่เขื่อน Kurobe Dam ประมาณ 500 เมตร → นั่งรถบัสราง (trolley bus) ไปยัง Ogizawa → รถบัสของบริษัท JTB จอดรอที่นั่น
คราวนี้ไม่แปลกใจแล้วใช่มั๊ยคะว่าทำไมทัวร์ถึงมีราคาสูง เพราะถ้าไปเองโอกาสงบบานปลายกว่าซื้อทัวร์เป็นไปได้แน่นอน แล้วจังหวะรอถ้าไปเอง เจอกับคนเยอะจะค่อนข้างเหนื่อยหน่อย
เอาหล่ะมาถึง Bijodaira กันละค่ะ สูงมาก เราใต้มาอยู่ที่ความสูง 977 เมตรจากระดับน้ำทะเลแล้วนะคะ รู้สึกหูจะวึ่งๆ นิดๆ
ระหว่างที่นั่งรถรางนี่แอบลุ้นตลอดเวลา 555 คือแรกๆ นั่งมันจะกัวนิดนึงค่ะ

แล้วเราก็มาต่อบัสค่ะ เพื่อจะไป Morodo แต่ว่าจะต้องผ่าน Midagahara ด้วยความสูง 1,930 เมตร จากนั้นเมื่อถึง Murodo ตัวกำแพงหิมะเราจะสูงถึง 2,450 เมตรกันเลยทีเดียว ระหว่างเดินทางไปก็ชมเขาและไปทิวทัศน์ข้างทาง หิมะตกลงมาเฉยเลยอ่ะ ทุกคนกรี๊ดดดดด กันใหญ่

ถึง Murodo กำแพงหิมะแล้วค่ะ!!! ขอกรี๊ดดดดดด สักที ในที่สุดเราก็ไต่กันมาถึงจนได้ ดีใจสุดๆ
ภาษาญี่ปุ่นเรียกกำแพงหิมะว่า ยูคิ โนะ โอะตานิ (Yuki no Otani) นะเผื่อเพื่อนๆ ได้ยินเค้าพูดจะได้อ่อ! เข้าใจละ
แต่มันยังมืดๆ เพราะหิมะตก แล้วคนก็เยอะมากเลยนะคะเราเลยแวะทานข้าวรอฟ้าเปิดก่อนแล้วค่อยออกเดินจะดี กว่าค่ะ เพราะดูพยากรณ์อากาศบอกว่าหลังจากนี้หิมะจะหยุด เราเลยไปแอบดูด้านนอก บรรยากาศไม่ค่อยเวิร์คค่ะ มืด เดี๋ยวรอทานเสร็จก่อนแล้วรู้กัน พยากรณ์ญี่ปุ่นจากไอโฟน จะแม่น ไม่แม่น!
ดูจากภาพแล้วแสบตาจริงๆ นะคะ มันขาวจนไม่เห็นอะไร แต่ก็แอบมืด ดูแล้วฟ้าไม่น่าจะเปิดเลยนะ
ทาง ด้านอาหารเราเลือกคอร์สอาหารจากไกด์เพราะว่าไม่อยากไปเบียดกับคนอื่นๆ แต่อาหารจะแพงหน่อยค่ะ 1,600 เยน เป็นเซ็ทเนื้อ แล้วมีซุปผักกับโมจิ อร่อยดีเหมือนกันค่ะ ซุปร้อนๆ กับบรรยากาศหนาวๆ

เอาจริงๆ ตอนนั้นยังไม่หิวเท่าไหร่เลย เพราะยังไม่เที่ยง แล้วเพิ่งจัดเต็มที่โรงแรมมา แต่ต้องทานเพราะถ้าเที่ยงคนจะเยอะ แล้วก็เป็นตามคาด แล้วอีกอย่างเราซื้อเวลารอฟ้าเปิดด้วย จากนั้นเราไปเดินเล่นบนดาดฟ้าเพื่อชมวิว มันดีงามมากนะ ไปถ่ายรูปมาด้วย กับนก แล้วก็ป้ายเขียนว่าเราได้มาถึงความสูง 2,450 เมตรแล้วอ่ะ! สุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นไปยังร้านของฝากที่อะไรๆ ก็มีแต่นกธันเดอร์เบิร์ดเนี่ย นกเนี่ยมีชื่อเรียกว่า raicyo 「雷鳥」 นะคะ นางชอบอากาศหนาวๆ อาศัยอยู่แถบนี้แหล่ะ ตามเขื่อนคุโรเบะบ้าง ตามยูคิโนะโอตานิบ้าง น่ารักดีนะ!!!


เอา หล่ะเราเริ่มเดินออกมาที่กำแพงหิมะแล้ว ตอนนี้มีทางแยกค่ะ มีทางแยกที่เขียนว่าไปดูพาโนราม่า ที่กำแพงหิมะนะ มีชื่อใครต่อใครสลักไว้เต็มอ่ะ เรานับถือนะ แข็งจะตาย ทำไปได้ 555

แต่ยังไม่ค่อยมีอะไร คาดว่ายังไม่ค่อยปลอดภัยเค้าเลยเอาเชือกกั้น

เราเดินยังไม่ได้ได้ถึงจุดที่สูงที่สุดเท่าไหร่ เกือบๆ จะถึงแล้วแต่น้ำเริ่มนองเยอะ เราเลยหยุดเดินค่ะ แล้วกลับ


จากนั้นเราก็รอเวลาแล้วเดินทางต่อ คราวนี้เราต้องมุดเข้าไปขึ้นเจ้ารถบัส trolley bus เพื่อจะไปยัง Daikanbo แล้วต่อกระเช้าโรปเวย์กัน มันส์ละ เพราะต่อจากนี้เราจะไล่ลำดับจากสูง ไปต่ำบ้าง มุมที่เราเห็นจะได้เห็นหลากหลาย แล้วฟ้าใสแล้วด้วย
โฉมหน้าบัสราง!!
บัสจะมีหลายคันค่ะ เราขึ้นไปก่อนนะคะ คันไหนก็ได้ ไม่ต้องขึ้นคันเดียวกับไกด์เพราะพอถึงจุดหมายไกด์จะรอเราค่ะ ต้องรอให้ครบแล้วถึงจะไปเท่านั้นค่ะ



ถ้าใครร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงไม่ไหวเดินขึ้นมาด้านล่างก็สวนอยู่ค่ะ เพราะบันไดค่อนข้างแคบ นักท่องเที่ยวเยอะ ต้องระวังเวลาเดินด้วยนิดนึง



จุดนี้น่าจะเรียกว่าชอบที่สุดเลยค่ะ มันสวย แล้วก็รู้สึกว่ามันพิเศษอ่ะ คือมันอดทนมาถึงขนาดนี้ การเดินขึ้นบันไดเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ นะ นึกถึงสมัยรุ่นลุง ป้า น้า อา เราเค้าฮิตมากที่จะไปกำแพงเมืองจีน มันคงอารมณ์เดียวกัน อยากให้เสร็จภารกิจ อยากทำให้มันสำเร็จอะไรแบบนี้เลย แต่ปลื้มมากนะ เอาจริงๆ


จากนั้นเราก็มีเดินชมวิวรอบๆ ได้ถ่ายรูปมาเยอะแยะอีกอ่ะ แต่แนวๆ เดียวกันแหล่ะ ไม่มีจุดไหนจะสวยเท่าตอนรอขึ้นโรฟเวย์แล้วแหล่ะนะ
เอาหล่ะไปขึ้นเคเบิ้ลคาร์ ไปเขื่อนกันแร้วววว
และแล้ว เราก็ถึงเขื่อน

ตามจริงแล้วตอนยังมาไม่ถึงเขื่อนนี่ก็ยังเฉยๆ นะ เค้าว่ากันว่าเขื่อนนี้ใหญ่สุดในญี่ปุ่นเลย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,470 เมตร
ในขณะสร้างเขื่อนนั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 171 ท่าน จึงทำให้มีอนุสาวรีย์รำลึกถึงผู้คนเหล่านั้นด้วย แล้วช่วงที่เขื่อนสวยสุดๆ น่าจะเป็นหน้าร้อนค่ะ เป็นจุดท่องเที่ยวที่คนญี่ปุ่นชอบกันมาก แต่คนต่างชาติยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ เค้าว่าตอนปล่อยน้ำที่นี่อลังการณ์งานสร้างมากๆ ค่ะ


เมื่อเราเดินเล่น ทานแกงกระหรี่เขื่อนที่เป็นสิ่งขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว ก็ต้องถึงเวลากลับแล้วนะคะ

เราต้องนั่งรถบัสรางนี่ไปอีกแล้วค่ะ อารมณ์ของการมุดท่อมาอีกแล้วเรา มันสนุกมากๆ ค่ะ มุดๆ ไปแล้วก็จะไปเจอวิวด้านนอกก็มีนะคะ

นี่ไง มีวิวให้ชมบ้างเป็นระยะๆ เรียกได้ว่าคนญี่ปุ่นนี่สุดยอดของการขุดเส้นทางคมนาคมเลยค่ะ หลายท่านดูแล้วคงเข้าใจแล้วชิมิ ว่าทำไมเราถึงขับรถขึ้นไปยังกำแพงหิมะเองไม่ได้ อาจจะมีบางคนติดภาพว่ามีบัสผ่านไง บัสของเค้านะ ไม่ใช่บัสเรา บัสเค้าวิ่งแบบชินเส้นทางแล้วจอดรับคนจากจุดหนึ่งไปอึกจุดหนึ่ง ไปแบบนี้แหล่ะค่ะ เราจะได้แข็งแกร่งขึ้น 555 ปลอบใจตัวเอง กลับบ้านเอาเอาแช่โอฟุโระเป็นชั่วโมง แนะนำค่ะ ควรแช่ออนเซ็นหลังตะลุยกำแพงหิมะค่ะ

เอาหล่ะ เราจบการเดินทางร่วมกับผู้อื่นที่นี่ นี่พวกเราเองก็ทำจนบรรลุคอร์สเค้า เรียกว่าโอเคแล้วนะ งั้นอีฮั้นขอกล่าวคำว่า “โอซึคาเรซามะ” お疲れ様!เป็นการกล่าวใช้ได้ทั้งขอบคุณ หรือทั้งกล่าวหลังจากเสร็จงานเสร็จภาระกิจ ของคนญี่ปุ่นเค้าค่ะ

สำหรับวันนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ ลองดูนะคะ เผื่อใครอยากไปก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้าง ขอบคุณค้าาาาาา
ดูความเดิมวันที่ 1 ของการเดินทางภาคกลางวันได้ที่นี่ >> https://www.marumura.com/japan-snow-wall-trip-1/
ดูความเดิมวันที่ 1 ภาคกลางคืน โทยามะได้ที่นี่ >> https://www.marumura.com/japan-snow-wall-trip-2/
ดูรายละเอียดทัวร์ที่เดินทางไปกำแพงหิมะและเส้นทางอัลไพล์รูททั้งหมดได้ที่นี่ >>http://goo.gl/FeBUL0
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่>>>Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
เรื่องแนะนำ :
– ตะลุยกำแพงหิมะกับทริป 2 วัน (จากชินจุกุ) : ภาควันที่ 1 นากาโน่-ทาคายาม่า-ชิราคาว่าโกะ
– ตะลุยกำแพงหิมะกับทริป 2 วัน เดินทางออกจากชินจุกุ:ภาควันที่ 1 รอบกลางคืนที่โทยาม่า
– 20 สรรพสิ่งของใช้ในครัวที่บางทีก็ต้องยอมเค้าเลยว่ามีด้วยเหรอ
– สุขให้สุดๆ ใช้ชีวิตติดปีก ชิลๆ ที่นี่โอกินาว่า
– สนุกกับการช้อปของแต่งบ้านได้ที่ NITORI