เที่ยว North Hokkaido … กลับมาเที่ยวกันต่อ ในช่วงสุดท้าย ขากลับจาก ตอนเหนือสุดของเกาะฮอกไกโด เราแวะเที่ยวกันที่เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) นั่นคือเมือง “Rumoi”
กลับมาเที่ยวกันต่อ ในช่วงสุดท้าย ขากลับจาก ตอนเหนือสุดของเกาะฮอกไกโด เราแวะเที่ยวกันที่เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) นั่นคือเมือง “Rumoi”
จากครั้งที่แล้ว เราเดินทางกลับลงมาจาก Wakkanai เมืองที่อยู่ทางเหนือสุดของเกาะฮอกไกโด ก่อนที่จะเลาะทะเลญี่ปุ่น กลับลงมาทางใต้ จนมาถึงเมือง Toyotomi เพื่อใส่ Snowshoes เดินเล่นกลางทุ่งหิมะที่ Sarobetsu Wetland ก่อนที่เราจะล่องใต้ลงมาอีกนิดหน่อย และพักผ่อนกันแถบ Tomamae ที่โรงแรม Haboro Onsen Sunset Plaza เป็นที่พักสไตล์เรียวกัง แต่ก็ยังมีความเป็นโมเดิร์นอยู่ด้วย วิวพระอาทิตย์ตกก็เลอค่าไม่แพ้ที่พักริมทะเลอื่นๆ ในฝั่งนี้ของเกาะฮอกไกโด และแน่นอนว่ามีห้องอาบน้ำแร่รวม (ออนเซ็น) ด้วยล่ะ มีหลากหลายบ่อให้แช่ ทั้ง Reclining Bath, Hot Jacuzzi Bath, Waterfall Bath, และ Sauna Bath อาหารค่ำในโรงแรมก็แบบว่าจัดเต็มอาหารตามฤดูกาล โชว์ความเป็นเมืองออนเซ็นชายทะเลกันแบบเต็มที่ทีเดียว
Haboro Onsen Sunset Plaza
ที่ตั้ง : 1-29 Kita-3-Jo, Haboro-cho, Tomamae-gun, Hokkaido 078-4113
การเดินทาง : นั่ง shuttle bus จากสถานี JR Rumoi สู่เมือง Haboro (ประมาณ 90 นาที) แล้วเดินต่ออีก 5 นาทีก็ถึงโรงแรม
ข้อมูลเพิ่มเติม >> https://goo.gl/j9swgZ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราถึงล่องใต้ลงมากันอีกหน่อย ไม่นานก็ถึงตัวเมือง Rumoi (รูโมอิ) เมืองเล็กๆ ที่สวยงามชายทะเลญี่ปุ่น มีประชากรเพียงแค่สองหมื่นกว่าคน แต่ก็มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ทำให้มีความหลากหลายในหลายๆ เรื่อง ทั้งอาหารการกิน การประกอบอาชีพของคนพื้นถิ่น รวมทั้งกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ว่าแล้วก็มาดูกันต่อเลยว่า ที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง …
ที่แรกที่เราแวะไปกันก็คือ ร้านผักดอง!! ฟังดูเหมือนจะเป็นแค่ร้านขายของธรรมดาๆ ใช่ไหมล่ะ แต่เปล่าเลย Tanaka Seika เป็นร้านผักดอง ที่มีชื่อเสียงมาก มีออเดอร์ส่งไปยังที่ต่างๆ เยอะแยะเลยล่ะ และพอได้ชิมแล้ว… โอ้ย! บอกเลยว่า อยากเปลี่ยนอาชีพเป็นแม่ค้าขายผักดอง อยากเอามาขายเมืองไทยเลยทีเดีย มันอร่อยมาก ทั้งผักดองแบบมาตรฐาน ที่รสชาติเกินมาตรฐาน รวมไปถึงผักดองที่ใช้ผักและผลไม้อื่นๆ มาช่วยทำให้รสล้ำเลิศมากขึ้น ที่ถูกปากเรามากๆ ก็จะเป็นพวก หัวไชเท้าหมักองุ่น ผักกาดขาวหมักกับปลา กล้วยหมักกับพริกก็มี มันเป็นความไม่น่าเข้ากันได้ แต่ลงตัวแบบสุดๆ อยากให้มาลองชิมกันมากๆ เลยล่ะ เสียดายที่เป็นอาหารที่ทำสด ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ส่วนใหญ่..ถ้าซื้อกลับ ก็จะคงความอร่อยไว้ได้ไม่เกิน 15 วันเองล่ะ (><)
ไปต่อกันที่ Rushin Fureai Park เป็นเหมือนศูนย์ข้อมูลของเมือง Rumoi มีส่วนที่เป็นสวนสาธารณะ ส่วนที่ใช้จัดกิจกรรมทั้งแบบอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ มีร้านกาแฟ สามารถมาเช่าอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจักรยาน และยังเป็นจุดให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะ
Rushin Fureai Park
ที่ตั้ง : 114, 2 chome, Funaba-cho, Rumoi City, Hokkaido, 077-0005
เวลาเปิด/ปิด :
พฤษภาคม และ กันยายน 09.00 – 18.00 น.
มิถุนายน – สิงหาคม 09.00 – 19.00 น.
ตุลาคม – เมษายน 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : อยู่ติดกับสถานี JR Rumoi เลยจ้า (แต่ถ้าเข้าอาคารอาจจะต้องเดินนิดนึง
เว็บไซต์ :
https://funaba.info
https://funaba.info/wp-content/uploads/2017/09/funabapark-guide-eng.pdf
มื้อเที่ยงล่ะ… คนรูโมอิ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร หรือไม่ก็เป็นชาวประมง พืชผักของที่นี่ และอาหารทะเลจึงมีความสดใหม่ รสชาติดี โดยเฉพาะปลา หอยเชลล์ หมึกยักษ์ กุ้งน้ำลึก ที่นี่เด่นมากๆ ดังนั้นเราก็ขอจัดบาร์บีคิวริมทะเลกันที่ Ogonzaki Seaside Park เป็นสไตล์ Hamayaki-seafood barbecue กลายเป็นปาร์ตี้เม้าท์มอย หน้าอุ่นๆ ไปกับเตาร้อนๆ แต่ได้ลมหนาวๆ ริมทะเลพัดมาช่วยให้รู้สึกดี เม้าท์ไปกินไป ยาวไป… ปกติที่ Ogonzaki Seasie Park นี่เป็นที่นิยมในการตั้งแคมป์แหล่ะ (เปิดแค่กลางเมษายน – กลางตุลาคม แต่ปิดช่วงหน้าหนาว)
Ogonzaki Seaside Park
ที่ตั้ง : 2 Chome Omachi, Rumoi, Hokkaido 077-0048, Japan
การเดินทาง : อยู่ห่างจากตัวเมือง Rumoi เพียงประมาณ 1 กม. เท่านั้นจ้า
เว็บไซต์ : http://rumoi-rasisa.jp/rumoide/archives/branch/ougonmisaki/
จากนั้นเราก็ไปล้างปากกันด้วยของหวานแสนอร่อย ที่ร้าน Le monde ร้านขนมหวานที่มีลูกค้าเข้ามาต่อเนื่องไม่หยุด ขนมหวานแบบตะวันตกที่ปรับรสชาติมาเป็นสไตล์ญี่ปุ่นน่าอร่อยเยอะมากเลยล่ะ แต่มาฤดูหนาวๆ แบบนี้ เมนูที่มีสตรอเบอรี่จะเด่นมาก ต้องชิมกันนะ กินขนมหวานรสชาติดีงามไป จิบกาแฟเข้มๆ ไป … มันคือดีนะ
Le Monde Confectionery
ที่ตั้ง : 3-1-6 Nishikicho, Rumoi, Hokkaido 077-0044
การเดินทาง : อยู่ไม่ไกลจากสถานี JR Rumoi นัก ประมาณ 2 กม. เดินไปได้ หรือจะแท็กซี่ก็แล้วแต่สะดวก
อีกจุดหนึ่งที่เราแวะไปกันก็คือ Kunimare Sake Brewery ที่นี่เปิดมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม วิธีการผลิต ความผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น เรียนรู้ธรรมเนียมปฎิบัติและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่เกี่ยวพันกับสาเกด้วย
ด้านในก็มีความเป็นพิพิธภัณฑ์ รวบรวมสิ่งละอันพันละน้อย เก่าๆ เก๋ๆ ทั้งนั้นเลยล่ะ
Kunimare Sake Brewery
ที่ตั้ง : 1-17 Inabacho, Mashike, Mashike, Hokkaido 077-0204
เวลาเปิด/ปิด : ทัวร์โรงงาน 09.00 – 16.30 น. (ปิดช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่)
การเดินทาง : จากซัปโปโร นั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Rumoi (ต่อรถไฟที่สถานี Fukagawa) แล้วนั่งรถเมล์ต่อไปลงป้าย Mashike รวมๆ แล้ว ประมาณ 2 ชม. ครึ่ง
เว็บไซต์ : http://kunimare-world.jp/index.html
ก่อนจะอำลาเมือง Rumoi เพื่อเดินทางเข้าสู่ซัปโปโร ขอแวะอีกสักที่ Former Maruichi Honma Residence ที่นี่อนุรักษ์เอาไว้ได้อย่างดี คงความสวยงามได้เสมือนเมื่อราว 100 ปีก่อนเลยทีเดียว เป็นบ้านนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนที่ทำกิจการค้าจนรุ่งเรือง ปัจจุบันก็เปิดเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านนี้ในสมัยก่อน ซึ่งน่าสนใจ (และแอบไฮโซมากเลยนะ) ซึ่งโดยปกติแล้ว เปิดให้เข้าชมเฉพาะในฤดูกาลอื่นๆ เนื่องจากที่นี่จะไม่มีการปรับอุณหภูมิเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวนะจ้ะ แต่แนะนำเลยว่าน่ามาชม ได้เรียนรู้เรื่องราวของคนยุคก่อนในแถบนี้ได้ดีนะ
Former Maruichi Honma Residence
ที่ตั้ง : 1-27 Bentencho, Mashike Town, Hokkaido, Japan
เวลาเปิด/ปิด : 10.00 – 17.00 น. (ตั้งแต่ปลายเมษายน ถึงต้นพฤศจิกายนเท่านั้น) และปิดทุกวันพฤหัส ถ้าตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะปิดวันพุธแทน และปิดบริการในช่วงฤดูหนาว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 200 เยน
การเดินทาง : เดินประมาณ 3 นาที จากสถานี Mashike
ได้เวลาเข้ากรุงกันแล้ว คืนสุดท้ายของทริปนี้ เราเข้าพักกันที่ Hotel Resol Trinity ตั้งอยู่ริมสวนสาธารณะ Odori … เคยมาพักแล้วล่ะ พูดเลยว่าติดใจในโลเคชั่น ความสะดวกสบาย ห้องพัก และบริการของพนักงาน ถ้ามาซัปโปโรจะให้มาพักอีกกี่รอบก็ไม่มีเบื่อ 😉 และในช่วงที่มานี้ ใกล้วันจัดงานเทศกาลหิมะที่ซัปโปโร งานยิ่งใหญ่ของเมืองนี้ เลยได้เห็นบรรยากาศของคนมาเตรียมงานกันด้วย มองจากบนห้องพักลงมา ก็ได้เห็นประติมากรรมใหญ่ๆ หลายอัน สร้างเกือบเสร็จแล้ว น่าตื่นเต้นชะมัด นี่ถ้ามาพอดีช่วงเทศกาลฯ นะ แล้วพักที่นี่ด้วยนะ เรียกว่าดีงามสุดๆ อ่ะ
Hotel Resol Trinity Sapporo
ที่ตั้ง : 5-3 Odori Nishi, Chuo-ku, Sapporo-shi, Hokkaido
การเดินทาง : จากสถานี JR Sapporo นั่งใต้ดินสาย Namboku ไปลงที่สถานี Odori เดินออกประตู 2 แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม >> https://goo.gl/bJtFqS
ส่วนมื้อค่ำ เดินไปแถวๆ ถนนซูซูกิโนะ ประมาณ 5 นาที ก็ถึงร้านอาหารที่เราจะกินกันแล้ว เป็นสไตล์อิซากายะ (ร้านกินดื่มหรือร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น) เป็นการส่งท้ายค่ำคืนวันสุดท้ายก่อนกลับได้อย่างดีเลยล่ะ แถมร้านนี้ก็อยู่ใกล้ร้าน Donki บริเวณถนนช้อปปิ้ง Tanukikoji ด้วย กินอิ่มแล้ว แวะมาช้อปต่อได้เลย เพราะร้านนี้เปิด 24 ชม. หุ หุ (แถวๆ ซูซูกิโนะ และทานูกิโคจิ มีร้านอาหารแบบนี้เยอะมาก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยนะ)
เป็นอย่างไรกันบ้าง ทริป North Hokkaido ตะลุยภาคเหนือของเกาะฮอกไกโดของเรา เห็นไหมคะว่าฮอกไกโด ยังมีอะไรที่น่าสนใจ น่าเที่ยวชม อีกเพียบ … แล้วคราวหน้าจะพามาเที่ยวกันอีกนะคะ รอติดตามกันได้เลยค่ะ (^^)/
สนับสนุนการเดินทางโดย :
องค์กรการท่องเที่ยวฮอกไกโด
(Hokkaido Tourism Organization)
http://th.visit-hokkaido.jp/
JAPANiCAN
(จองที่พักและทัวร์ในญี่ปุ่นสะดวกสบายที่ JAPANiCAN)
https://www.japanican.com/
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยว North Hokkaido เหนือสุดดินแดนอาทิตย์อุทัย : Wakkanai
– เที่ยว North Hokkaido เหนือสุดดินแดนอาทิตย์อุทัย : Asahikawa
– เที่ยวญี่ปุ่น : ภูมิภาคชูบุกับ ใบไม้แดง ซากุระ และ Illumination ตอนที่ 3
– เที่ยวญี่ปุ่น : ภูมิภาคชูบุกับ ใบไม้แดง ซากุระ และ Illumination ตอนที่ 2
– เที่ยวญี่ปุ่น : ภูมิภาคชูบุกับ ใบไม้แดง ซากุระ และ Illumination ตอนที่ 1
– หลง รัก Okinawa … ขับรถเที่ยวไหนดี ขับรถ เที่ยว ช้อป รอบเกาะโอกินาว่า (1)