เอาเป็นว่า อาทิตย์ก่อน ดิฉันไป “ทำงาน” ที่เมืองโกเบ แล้วเผอิญเดินผ่านร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง ป้ายตั้งตระหง่านว่า “คาเฟ่นกฮูก” ดิฉันเคยอยู่เมืองนี้มา 7 ปี แต่ไม่ยักทราบว่ามีร้านอะไรแบบนี้ด้วย (สืบทราบทีหลังว่าเขาเพิ่งเปิดใหม่)

เมืองไทยมีคาเฟ่แมว คาเฟ่คิตตี้….ฉันใด
เมืองญี่ปุ่นมีคาเฟ่นกเค้าแมว…ฉันนั้น
ประโยคด้านบน เป็นคำทู่ (ตรงข้ามกับคำคม) ตรรกะมั่วซั่วของนักเขียนมึนๆ คนหนึ่ง อย่าไปใส่ใจค่ะ
เอาเป็นว่า อาทิตย์ก่อน ดิฉันไป “ทำงาน” ที่เมืองโกเบ แล้วเผอิญเดินผ่านร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง ป้ายตั้งตระหง่านว่า “คาเฟ่นกฮูก” ดิฉันเคยอยู่เมืองนี้มา 7 ปี แต่ไม่ยักทราบว่ามีร้านอะไรแบบนี้ด้วย (สืบทราบทีหลังว่าเขาเพิ่งเปิดใหม่)
เอาเป็นว่า ดิฉันเผอิญเดินผ่านโดยไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน เห็นป้ายปุ๊บ หยุดชะงักปั๊บ หน้าร้านมีป้ายชื่อนกเค้าแมวเต็มไปหมด โอ้วววว ดิฉันหยุดคิด 2 วิ. แล้วก็ตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้าร้านไปเลยค่ะ (สองวินาทีที่เสียไปคือ การเช็คดูราคาค่าเข้า และพบว่าอยู่ในขอบข่ายที่ตนเองยินยอมจะจ่ายได้)


ก่อนจะเข้าไปในร้านนั้น เราต้องซื้อตั๋วก่อนค่ะ ราคาค่าเข้าก็ 1,000 เยน แถมซอฟท์ดริงค์ 1 แก้ว เขามีให้เลือกตั้งแต่ ชาอูหลง น้ำส้ม ชาร้อน กาแฟ โค้ก จนถึงเบียร์ (ราคา 1,200 เยน) ก็กดปุ่มเครื่องซื้อตั๋วด้านหน้าตามจิตกุศล ถ้าอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ก็เปิดประตูร้านไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานก็ได้ค่ะ
ด้วยความที่ดิฉันตื่นเต้นมากที่จะได้เจอนกฮูกทั้งหลาย เลยลืมถ่ายรูปเครื่องซื้อตั๋ว ลืมถ่ายรูปตั๋ว (มันก็เป็นแค่เศษกระดาษธรรมดาอ่ะนะ) ขอโทษด้วย….. เครื่องซื้อตั๋ว มีในรูปบนนิดหน่อย แต่ดิฉันเชื่อมั่นในระดับไอคิวของคุณผู้อ่านค่ะ ถ้าใครไปถึงคงรู้แหละว่า ซื้อตั๋วที่ไหน เอาเป็นว่าเข้าไปในร้านกันดีกว่า
ชั้น 1 เป็นที่ขายของที่ระลึกเกี่ยวกับนกฮูกต่างๆ นานา เพื่อนๆ เห็นอะไรในภาพข้างล่างไหมคะ ☺

ตอนแรกดิฉันไม่รู้สึก ยืนดูของกระจุ๊กกระจิ๊กแบบมึนๆเหม่อๆ จนพนักงานร้านชี้ให้ดูแล้วบอกว่า “จับได้นะคะ” พอก้มลงไปดู ตกใจมาก…. นางนั่งเงียบสงบสยบการเคลื่อนไหว ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับแขกผู้เข้ามาเยือน

ตานางสีส้มแป๊ดเลยค่ะ ยิ่งดูยิ่งเหมือนของปลอม 55
ชั้น 1 มีนางพญานกฮูกบักเอ้กอยู่แค่ตัวเดียว (ซึ่งดิฉันก็เกือบจะเมินไปเสียแล้ว) จากนั้น พนักงานร้านก็บอกให้ดิฉันขึ้นไปชั้น 2 พร้อมเตือนว่า บันไดแคบและชันนะคะ ระวังด้วย
สารภาพว่า ตอนแรก ดิฉันจินตนาการไม่ออกจริงๆ ว่า คาเฟ่นกฮูกจะเป็นอย่างไร เรานั่งจิบชาไป มีนกฮูกบินไปบินมาเหรอ คุณผู้อ่านคิดเหมือนดิฉันไหมคะ
แต่พอก้าวขึ้นไปชั้น 2 ก็เก๊ทค่ะ ชั้น 2 เป็นชั้น “เตรียมใจ” ก่อนได้เจอน้องนกฮูก เราต้องนั่งดื่มเครื่องดื่มที่นี่ ไม่มีการถือถ้วยชาแล้วเดินไปเล่นกับน้องนกฮูก จะดื่มจะกินอะไรก็ทำที่ชั้นนี้ ถ้าจะเล่น ถึงค่อยลงไปชั้น 1 หรือขึ้นไปชั้น 3

มีลุงเจ้าของร้านนั่งวัดพื้นอะไรของแกไม่รู้คนเดียว
เขาจะมีอ่างล้างมือเล็กๆ แล้วก็แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้เราล้างมือ

บนเคาน์เตอร์ มีแผ่นกระดาษอธิบายให้เราเข้าใจก่อน ใจความที่สำคัญๆ ได้แก่
1. ห้ามใช้แฟลชถ่ายภาพ
2. มีเวลาจำกัดแค่ 1 ชั่วโมง
3. ให้วางของและสัมภาระไว้ที่ชั้นนี้ นำแค่ของมีค่าติดตัวไป

พลิกมาด้านหลัง มีคำอธิบายวิธีการแตะน้องฮูก
วิธีการแตะ (แปลโดยเกตุวดี)
1. เวลายื่นมือไปแตะ ให้ค่อยๆ ยื่นจากด้านบนหัวนก อย่ายื่นมือเข้าไปจากด้านล่าง ฮูกอาจจิกได้!
2. ค่อยๆ ลูบหัวเบาๆ
3. ลูบแค่บริเวณหัวนกเท่านั้น อย่าจับคอ หลัง หรือหาง ฮูกไม่โปรด
เอาล่ะค่ะ เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ลุยกันเล้ย!!!
เกตุวดีบุกไปชั้น 3 ซึ่งเป็นที่อยู่ของนกฮูกทั้งหลายกว่าสิบชีวิต บรรยากาศประมาณนี้ค่ะ!
เมื่อกวาดตามองไปทางซ้าย…..

เมื่อมองไปตรงกลางห้อง…

เจอนกฮูกที่เป็นพี่น้องกับ Hedwig ในเรื่อง Harry Potter เขม่นมาเช่นกัน… เกตุวดี …. สาวน้อยจากสยามเมืองยิ้มก็ชักกลัวๆ ตอนถ่ายรูปเลยไม่กล้าถ่ายพี่แกจังๆ หน้า ต้องหลบมุมกล้องถ่ายนิดนึง สุดท้ายดิฉันตัดสินใจมองมาทางขวาของห้องบ้าง….

แต่ดิฉันถือคติใจดีสู้เสือ ลองบุกประชิดตัวเข้าไปลูบหัวพี่ฮูกดูบ้าง

แต่จะบอกว่า ใครลังเลหรือไม่กล้าจับ เข้าไปจับเถอะค่ะ ขนนกฮูกนิ่มมากกกกก ขอออกตัวก่อนว่า ตั้งแต่เกิดมา อย่างน้อยดิฉันเคยสัมผัสนกกระจอก นกแก้ว นกพิราบ เลิฟเบิร์ด ห่าน หงส์ ฯลฯ มาแล้ว (เกือบทั้งหมดนี้ สามารถสัมผัสได้เมื่อคุณไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียว) ดิฉันพบว่า ขนนกฮูกนิ่มที่สุดในบรรดานกๆ ทั้งหลายค่ะ ขนนางนุ่มเลอค่าเหมือนขนตุ๊กตาหมีราคาแพงๆ ตามห้าง

พอหยุดลูบก็จะลืมตาโตๆ มามองปริบๆ บังคับให้ทาสมนุษย์ลูบหัวให้ต่อไป

ไม่รู้แปลว่าอะไร … “เอามือออกไปจากหัวกรูที” หรือ “กรูรู้สึกดี”
(ถามสต๊าฟแล้ว เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน..55)


(ดูรูปหนูคนนี้ทีไร ขำทุกที 55)

(แต่แน่นอน ขนนุ่มมากเช่นกัน)

(นางไม่ยอมมองกล้องเลย อั๊ย)

คุณจะรู้สึกซาบซึ้งกับความง่ายดายในการ Selfie กับเพื่อนมนุษย์ธรรมดาๆ ขึ้นมาทันที…ดิฉันพร่ำบอกนกฮูกว่าให้มองกล้อง บอกเป็นภาษาไทยก็แล้ว ญี่ปุ่นก็แล้ว นางก็ยังทำหน้าแบ๊วตาลอย สุดท้าย ภาพที่ดีที่สุดก็คือภาพนี้…แง่ง
ใครอยากไปสัมผัสนกฮูกแบบประชิดตัวถึงใจ จับได้ลูบได้ ลองมาที่นี่ดูนะคะ ถึงแม้ว่า Reaction พวกนางจะไม่ค่อยเด่นชัดเท่าสุนัขหรือแมว ที่ดูท่ายกหาง เสียงร้อง ก็รู้ว่าเขาสบอารมณ์หรือไม่ แต่นกฮูกเขาก็มีมุมเงียบๆน่ารักๆของเขาค่ะ ดิฉันชอบดูเวลาเขาเอียงคอไปมา กระพริบตาปริบๆ ฟังเสียงร้องของเขา (กรูวววววว…ร้องเสียงเล็กๆ แหลมๆ บางตัวก็ร้องแอ๊ว แอ๊ว) เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสนุกดีค่ะ ☺
ชื่อร้าน: Bibi & George
ที่อยู่: 1 Chome-2-14 Sakaemachidōri, Chūō-ku, Kōbe-shi, Hyōgo-ken
Link: http://kobefukuroucafe.com/access/index.html
วิธีไป: ลงสถานี Motomachi เดินไป 10 นาที (อยู่กลางไชน่าทาวน์เลย)

เดินเข้าไชน่าทาวน์ ไปตรงสี่แยกใจกลางไชน่าทาวน์ มันจะมีเก๋งจีนกับสิงโตหิน หันหลังให้เก๋งจีน แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ ค่ะ (ทิศทางแบบ…บอกเลิกแฟนเสร็จแล้วเดินสะบัดบ๊อบจากนางไปอย่างสวยๆ ปล่อยให้อดีตแฟนยืนอ้าปากค้าง เข้าใจไหมคะ? หรืองงกว่าเดิม?) สังเกตป้ายธนาคาร りそな銀行 (Risona Ginko) ร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม (ตรงลูกศรสีน้ำเงินในภาพ) ค่ะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Facebook เกตุวดี
ผักกาด! ดิฉันเริ่มพอจะเล่นทวิตเตอร์เป็นแล้ว 555 ใครเล่นทวิตเตอร์ มาติดตามความเวิ่นเว้อของเกตุวดีกันได้ที่นี่เลยจร้า https://twitter.com/Gadewadee_Maru

เพื่อนๆ ทราบหรือยังว่า คอลัมน์ Japan Gossip ของพวกเราถูกรวมเล่มเป็นหนังสือแล้ว!!! ชื่อ “Japan Gossip: เม้าท์ญี่ปุ่นให้คุณยิ้ม” มีแทรกการ์ตูนและเกร็ดเรื่องเล่าญี่ปุ่นเพิ่มด้วย

การ์ตูนปกน่ารักมาก แต่ยืนยันว่า เกตุวดีตัวจริงสวยและเซ็กซี่กว่า

ใครสนใจ ลองหาไว้วางในห้องน้ำเพื่อนั่งอ่านให้ขำยามเช้าตอนประกอบภารกิจ หรือจะซื้อฝากคนที่จะไปเที่ยว/เรียนญี่ปุ่นก็ได้ เราไม่ว่ากัน หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป เช่น ซีเอ็ด นายอินทร์ เลยค่ะ เล่มละ 180 บาท