กระแสความนิยม EV รถไฟฟ้าในญี่ปุ่น
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
ปัจจุบันคนญี่ปุ่นนิยมรถไฟฟ้ากันมากแค่ไหน…
เดือนมิถุนายนปีค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา เปอร์เซนต์การขายรถไฟฟ้าอยู่ที่ 3.94% จากยอดขายรถทั้งหมดทั้งเดือน
รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าว่าให้มีเปอร์เซนต์การขายรถไฟฟ้าอยู่ที่ 100% ที่ปีค.ศ. 2035
และตั้งเป้าว่าจะตั้งแท่นชาร์จไฟไว้ที่ 150,000 แท่น (โดยในตัวเลข 150,000 นี้มีแท่น fast charge ที่ 50,000 แท่น) ไว้ที่ปี 2030
ยอดขายของรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นเริ่มสูงขึ้นในปีค.ศ. 2022 จากการวางขายรถนิสสันรุ่น ซากุระ จากการประกาศขายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 ผ่านไปสองเดือนมียอดออเดอร์อยู่ที่ 22,000 คัน ส่วนเดือนพฤศจิกายน 2022 ยอดออเดอร์อยู่ที่ 33,000 คัน ถึงขั้นต้องรอรถส่งข้ามปีเลยทีเดียว
Nissan Sakura
อีกอย่างหนึ่งคือนโยบายจากรัฐบาลในการช่วยเหลือซื้อรถไฟฟ้า ที่ได้รับการขยายเวลา ที่ส่งผลช่วยให้ยอดขายรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
โตเกียวตั้งเป้าหมายว่าจะจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นให้อยู่ที่ 1.5℃ และลดการปล่อยก๊าซCO2 ด้วยโครงการ Zero Emission Tokyo และมีการสนับสนุนให้ผู้คนหันมาใช้รถ EV โดยตั้งเป้าไว้ว่าภายในปีค.ศ.2030 ยอดขายรถโดยสารเป็นรถที่ไม่ใช้น้ำมันอยู่ที่ 100% ซึ่งการที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้ ต้องอาศัยเงินช่วยเหลือ และ การสร้าง Infrastructure อย่างแท่นชาร์จไฟ
และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนศึกษาว่าจะออกกฎหมายบังคับให้อาคารสิ่งปลูกสร้างใหม่ต้องมีแท่นชาร์จด้วย
แล้วทีนี้ รถยนต์ EVในญี่ปุ่นจะเป็นที่นิยมไหม เป็นคำถามที่น่าคิด หนึ่งก็เนื่องด้วยรถยนต์ EV ส่วนใหญ่จะราคาแพงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ก็เป็นเหมือนเป็นปัจจัยหลักให้ผู้คนไม่กล้าหันมาใช้รถ EV
และการเปรียบเทียบว่าค่าน้ำมันกับค่าไฟฟ้าที่ชาร์จรถ อย่างไหนถูกกว่ากัน ก็ยังมองไม่ออกสะทีเดียว ด้วยค่าไฟที่เริ่มสูงขึ้นในระยะหลังๆเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา
สำหรับประเทศในแถบยุโรปที่มองว่า คนที่ใช้รถ EV นั้นเป็นคนที่รักโลกเพราะรถไม่ปล่อยควันพิษ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วอาจจะไม่มีความรู้สึกแบบนั้น เพราะต่อให้เป็น EV แล้ว ไฟฟ้าที่เอามาชาร์จนั้นก็เป็นไฟฟ้าที่ผลิตมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง การจะบอกว่า EV = ปล่อยมลพิษน้อยลง ก็คงจะไม่ถูกต้องสะทีเดียว
ด้วยสาเหตุเหล่านี้การที่รถ EV จะเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นด้วยความคิดที่ว่า “จะลดการปลดปล่อยมลพิษ” นั้นก็ยากที่จะเห็นได้ครับ
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ เนื่องจากโครงสร้างของรถยนต์ EV ไม่มีความซับซ้อนเท่ารถที่ใช้น้ำมันที่ชิ้นส่วนอย่างเครื่องยนต์ หรือ เกียร์ ทำให้การที่รถยนต์ญี่ปุ่นขยับไปใช้เป็น EV แล้ว พวกบริษัทอะไหล่ที่คอยรับรองบริษัทรถยนต์มาตลอดก็จะไม่มีงานทำ จะทำให้เกิดปัญหาการว่าจ้างงาน
กว่ารถไฟฟ้า EV จะได้รับความนิยมก็คงอีกสักพักนึง ซึ่งโดยถ้าดูจากสรุปจาก point ที่กล่าวไว้ด้านบน การที่ EV จะรุ่งได้ในญี่ปุ่น ต้องอาศัย รถยนต์ EV รุ่นยอดนิยม (แบบ Nissan Sakura) , Infrastructure ที่พร้อม และ การ Transition ให้ยังคงการว่าจ้างงานของบริษัทอะไหล่รถยนต์ทั้งหลาย ครับ
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– ทีมญี่ปุ่น blue lock กับคำสัญญาปี 2050
– พระจันทร์ 月[ซึคิ]
– ชาก้า 釈迦 シャカ ต่างกับคำว่า “ Buddha“ อย่างไร
– 航 [วะตะรุ] ก้าวข้าม
– นักประพันธ์เพลง, นักกวี 詩人[ชิจิน]
อ้างอิง
– https://ev-charge.enechange.jp/articles/033/
– https://gendai.media/articles/-/112699?page=2
#กระแสความนิยม EV รถไฟฟ้าในญี่ปุ่น