สิ่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นยังคงนิยมใช้เพื่อการเดินทางในทุกๆ วัน กลับเป็นสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดสิ่งหนึ่งที่เราสามารถที่จะนึกออกได้ง่ายๆ สิ่งนั้นก็คือ “จักรยาน” ยานพาหนะที่ใช้แค่เพียงล้อสองล้อกับคนอีกหนึ่งคน เพื่อเคลื่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะได้พัฒนาไปไกลถึงขนาดไหนแล้วก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นยังคงนิยมใช้เพื่อการเดินทางในทุกๆ วัน กลับเป็นสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดสิ่งหนึ่งที่เราสามารถที่จะนึกออกได้ง่ายๆ สิ่งนั้นก็คือ “จักรยาน” ยานพาหนะที่ใช้แค่เพียงล้อสองล้อกับคนอีกหนึ่งคน เพื่อเคลื่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เป็นสิ่งซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับความทันสมัยและความรวดเร็วของรถไฟความเร็วสูงอย่าง Shinkansen ที่วิ่งได้มากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือรถยนต์ หรือแม้กระทั่งมอเตอร์ไซค์ที่มีความเร็วกว่าจักรยานมาก
จักรยานที่หลายๆ ประเทศในโลกอาจจะไม่ให้ความสําคัญนัก เพราะคิดว่าไม่เท่ ไม่รวดเร็ว และวุ่นวายหากจะต้องขี่อย่างจริงจังในเมืองใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างนั้นเลยสําหรับคนญี่ปุ่น…

คนส่วนใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก เมื่อถูกถามว่ารู้จักเมืองไหนบ้างที่มีคนขี่จักรยานกันเยอะที่สุดในโลก คนเหล่านี้มักจะนึกถึงประเทศในแถบยุโรปอย่างเช่น เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์เป็นอันดับแรกๆ แต่ก็มีคนจํานวนน้อยที่รู้ว่าญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศอันดับที่ 3 ของโลกที่มีคนปันจักรยานเยอะที่สุด เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งจักรยานที่คนทุกอาชีพขี่ไปไหนมาไหนในชีวิตประจําวันกันจนเป็นเรื่องปกติ ถ้าจะให้เล่ากันให้เห็นภาพชัดๆ ก็พูดได้เลยว่ามีตั้งแต่ คนชรา เด็กเล็ก ผู้ใหญ่ คนทํางาน คนต่างชาติ ยากูซ่า ครู นางพยาบาล นักเรียน ดีไซน์เนอร์ คุณพ่อ คุณแม่ ชาวนา คนส่งของ พ่อครัว ตํารวจ ช่าง พนักงานส่งอุด้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักสร้างการ์ตูนอนิเมชั่น ไปจนถึงนักธุรกิจ

พวกเขาเหล่านี้ขี่จักรยานกันเป็นปกติทั้งบนทางเท้าและบนถนน ไม่จําเป็นว่าจะต้องใช้จักรยานเท่ๆ ที่ทํามาจากวัสดุอย่างดี หรือต้องแต่งตัวขี่จักรยานครบเครื่องมีหมวกกันน็อค มีเสื้อผ้าที่ทําขึ้นมาสําหรับขี่จักรยานโดยเฉพาะ สําหรับคนญี่ปุ่นแล้วการขี่จักรยานเป็นเรื่องปกติสามารถทําได้ง่ายๆ ขอแค่มีจักรยานซักคันก็สามารถไปไหนมาไหนได้ดั่งใจต้องการแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นพนักงานบริษัทหรือนักธุรกิจ พวกเขาเหล่านั้นก็จะใส่สูทขี่จักรยานไปทํางาน หรือว่านักเรียน นักศึกษาก็จะใส่ชุดยูนิฟอร์มของตัวเองขี่จักรยานไปเรียน ถ้าหากเป็นคุณแม่ลูกสอง จักรยานก็จะมีที่ซ้อนหน้าและซ้อนหลังเพื่อให้คุณแม่สามารถไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลได้ สําหรับคุณแม่ที่ขี่จักรยานในประเทศญี่ปุ่นก็มีคําเรียกคุณแม่ที่มีลูกๆ สองคนอยู่บนจักรยานและรวมแม่เข้าไปด้วยว่า Sannin-nori ซึ่งแปลได้ตรงตัวว่าสามคนบนจักรยาน เรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีมาช้านานของคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ สรุปได้ก็คือจักรยานในประเทศญี่ปุ่นก็คือยานพาหนะที่เหมาะสําหรับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย

ในมุมของผู้เขียนนั้น มองว่าการขี่จักรยานสําหรับคนญี่ปุ่นนั้น ให้แง่คิดว่าเราทุกคนไม่ควรลืมความเรียบง่ายของการใช้ชีวิต การขี่จักรยานสําหรับคนญี่ปุ่นไม่จําเป็นต้องคิดมากว่าจะต้องมีองค์ประกอบอะไรมากมาย แค่มีจักรยานมันก็มากเกินพอแล้วที่จะสามารถทําให้เราไปในที่ๆ เราต้องการไปได้ แล้วก็ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมายไปกับค่าน้ำมัน ค่ารถสาธารณะ และสิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับในยุคปัจจุบันคือมันทําให้ทุกคนที่ขี่จักรยานมีเงินเหลือเก็บ มันเป็นการกระทําที่เมื่อมองดูแล้วมันง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อนํามาเปรียบเทียบกับชีวิตผู้คนในปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบ มีความซับซ้อนในทุกจังหวะของชีวิตแล้ว “จักรยาน” กับ “ชีวิตของผู้คนปัจจุบัน” ดูเหมือนจะอยู่กันคนละขั้ว แต่สําหรับชาวญี่ปุ่นแล้วจักรยานกับชีวิตมันคือขั้วเดียวกัน มันไปในทิศทางเดียวกัน ประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีอะไรที่ซับซ้อนในตัวเองอยู่มากมาย แต่ในทุกๆ รายละเอียดของชีวิตก็ยังคงมีความเรียบง่ายซ่อนอยู่เสมอ เป็นความเรียบง่ายที่ในบางทีก็ยากเกินที่จะเข้าใจ แต่ถ้าหากว่าเราลองมองอย่างตั้งใจเพื่อหาแง่คิดดีๆ ลองมองหามุมใหม่ๆ เราก็สามารถนําความเรียบง่ายเหล่านี้มาปรับใช้ในการดําเนินชีวิตของเราในทุกๆ วัน เราก็คงจะได้อะไรบางอย่างกลับมาไม่มากก็น้อย

ผู้เขียนขอปิดท้ายด้วยมุมมองของชาวอังกฤษคนหนึ่งต่อวัฒนธรรมการขี่จักรยานของคนญี่ปุ่น ที่ผู้เขียนได้อ่านเจอและรู้สึกชอบ เขากล่าวไว้อย่างน่าสนใจและน่าคิดตามว่า
“People cycle because it makes sense. And it’s not that they don’t like their cars in Japan. It’s just that cycling makes sense.”
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.copenhagenize.com/
http://www.cyclorama.net/viewArticle.php?id=99
http://www.treehugger.com/cars/creating-a-cycling-culture-in-the-worlds-cities.html
http://www.chasethegaijin.com/blog/wp-content/uploads/2007/08/wish-that-was-
http://api.ning.com/files/%20NKN497TXzIXGmEq61T87euDWoapq978OngALrG8YhDeuvmyMNJESllAL9I7rm%3Cbr%20/%3E62QQzu6GbJcV5BzwebTf898ZSBHXiEXR-6q/DSC01756.JPG
http://3.bp.blogspot.com/_OHljfnV91gE/S_OH_C6RVCI/AAAAAAAABDU/%20Kn9lPaozkyk/s1600/1+Half-Fast+Cycling+club+by+Mike+Sims-Williams.jpg
http://media.lonelyplanet.com/lpimg/27150/27150-18/preview.jpg
http://whereisyvette.files.wordpress.com/2010/07/cat-in-bike-basket.jpg
