ญี่ปุ่นกับกระแสฟุตบอลเอเชียนคัพ
ภาพประกอบโดย WALK on CLOUD
คนญี่ปุ่นให้ความสนใจกับฟุตบอลเอเชียนคัพกันสักแค่ไหนนะ?
ผมเองตั้งคำถามนี้ แต่ก็ไม่อาจมีคำตอบให้…
ก่อนเริ่มเกมเตะรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกของญี่ปุ่นกับทีมชาติเวียดนาม ตัวเก่งของญี่ปุ่นที่ไปค้าแข้งในลีกใหญ่ๆ ในประเทศยุโรป อันได้แก่ มิโตมะ (ไบรท์ตัน : พรีเมียร์ลีก) คุโบะ (เรรีอัล โซซิเอดัด : ลาลีกา) และ โทะมิยะสุ (อาร์เซนอล : พรีเมียร์ลีก) มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ลงแข่ง (อัพเดท: เกมเวียดนาม คุโบะ ได้ลงมาเป็นตัวสำรอง)
อย่างมิโตมะนี้ทางเฮดโค้ชทีมญี่ปุ่น คุณ โมะริยะสุ ฮะจิเมะ ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า มิโตะมะยังบาดเจ็บอยู่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสให้กับ นากามุระ เคโตะ (สตาดเดอแร็งส์ : ลีกเอิง) ซึ่งกำลังของทีมเป็นเรื่องสำคัญ (อัพเดท: สุดท้ายเจ้าตัวก็ยิงประตูได้ในนัดกับเวียดนาม)
สำหรับเอเชียนคัพนี้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ชนะเลิศมากที่สุด ทั้งหมดสี่ครั้ง และครั้งนี้จะบอกว่าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะชนะเลิศก็ไม่แปลก
กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น เอ็นโด วะตะรุ (ลิเวอร์พูล : พรีเมียร์ลีก) ได้รับการอวยพรแบบติดตลกจากผู้จัดการทีมสโมสรลิเวอร์พูล เยอร์เก้น คล็อบป์ ที่จำใจต้องปล่อยตัวเอ็นโด ไปให้กับทีมชาติญี่ปุ่น รวมถึงผู้เล่นของลิเวอร์พูลอีกคน โมฮาหมัด ซาล่าห์ ให้กับทีมชาติอียิปต์ไปลงเล่นฟุตบอลแอฟริกาคัพออฟเนชันส์
ซึ่งถ้าหากญี่ปุ่นไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้จะทำให้เอ็นโดพลาดเกมกับสโมสรถึง 8 เกม
“ถ้าผมบอกว่า โชคดีนะ มันคงเป็นคำโกหก 555” เยอร์เก้น คล็อบป์กล่าว “แต่ผมปรารถนาให้พวกเขา (เอ็นโด กับ ซาล่าห์) โชคดีจริงๆนะ แต่นั่นก็จากมุมมองส่วนตัวของผมนะ ผมคงจะดีใจเว่อร์เลยถ้าพวกเขาต้องกลับมาจากรอบแบ่งกลุ่ม แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้”
“มันโอเคล่ะ ถ้าพวกเขาจะเข้ารอบลึกๆและชนะเลิศกลับมาได้ ดังนั้นขอให้โชคดี เจอกันอีกครั้งและกลับมาครบสามสิบสองประการ นั่นเป็นคำพูดของผม ตอนนี้พวกเราต้องจัดการกับสถานการณ์นี้ให้ได้ และพวกเราจะจัดการกับมัน”
ญี่ปุ่นที่มี “คำมั่นสัญญาจะชนะเลิศบอลโลกในปี 2050” ฟุตบอลในระดับทวีปทีมชาติญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ทีมอย่างอิรัก เกาหลีใต้ หรือ เวียดนาม ก็เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ ถ้าหากจะชนะระดับโลกได้ ญี่ปุ่นก็ต้องสะสมประสบการณ์ในฟุตบอลระดับทวีป ต่อกรกับทีมเหล่านี้ให้ได้ หรือพัฒนาตัวเองให้ขึ้นไปอีกระดับให้ได้มากกว่านี้
ผมเองเจอเพื่อนคนญี่ปุ่น ที่ตามเชียร์นักบอลญี่ปุ่นอย่าง มิโตะมะ โทะมิยะสุ ที่ไปลงเล่นฟุตบอลในฐานะที่ว่า “เขาเป็นคนญี่ปุ่นที่ไปสร้างผลงานที่ต่างประเทศ”
เพื่อนคนญี่ปุ่นคนเดียวนั้นก็สองจิตสองใจว่า อย่าง วะตะรุ เอ็นโด ไม่ต้องกลับมาช่วยทีมชาติญี่ปุ่น แต่ช่วยประจำการลงเล่นกับเกมสโมสรลิเวอร์พูล น่าจะดีกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าจะทำให้หลายๆ คนที่ดูฟุตบอลระดับสโมสรประทับใจในความเป็นคนญี่ปุ่นอย่างเอ็นโด และจะส่งผลทีดีในอนาคตให้คนญี่ปุ่นจะได้มีโอกาสไปเล่นในพรีเมียร์ลีกมากขึ้น
กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น เอ็นโด ก็รู้สึกเสียดายว่าอยากอยู่ช่วยสโมสรต่อ หลังจากที่เป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้ลงตัวจริง 5 นัดติดต่อกันในช่วงเวลา 13 วันในตั้งแต่ปี 2006 ที่มีผู้เล่นหกคนอื่นเคยทำไว้
เอ็นโดให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “แน่นอน ผมอยากจะอยู่ (ช่วยสโมสร) แต่ในฐานะทีมชาติ มันสำคัญสำหรับผมและผมเป็นกัปตัน ตอนนี้ผมจะโฟกัสกับฟุตบอลทีมชาติและทำให้ดีที่สุด”
“ผมอยากจะได้ผลลัพธ์ดีๆ กับเอเซียคัพ ซึ่งแปลว่าผมต้องอยู่นานๆ ที่กาตาร์”
เอ็นโดได้กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมที่หายจากอาการบาดเจ็บ และจะกลับมาช่วยสโมสรแทนเขา ซึ่งจะทำให้เขาสามารถโฟกัสกับทีมชาติ และสโมสรจะเล่นได้ดี 100%
“ผมจะกลับมาพร้อมกับตำแหน่งแชมป์เอเชียนคัพ ผมมั่นใจว่าลิเวอร์พูลจะได้ดีในขณะที่ไม่มีผมกับโม (โมฮาหมัด ซาล่าห์)”
โดยรวมแล้ว มันอาจจะมีความคิดว่า ฟุตบอลระดับสโมสรในลีกใหญ่ๆที่ต่างประเทศ (โดยเฉพาะยุโรป) อาจจะยิ่งใหญ่กว่าฟุตบอลทีมชาติอย่างเอเชียนคัพ
มุมมองของผู้เล่นทีมชาติในฐานะตัวแทนประเทศ ก็คงเป็นเกียรติที่ได้ช่วยชาติ
ผมเองที่ติดตามบอลสโมสรส่วนมาก
แต่บางครั้งบางคราวได้ผมเปิดดูฟุตบอลทีมชาติแข่งดู ก็รู้สึกว่าตัวเองก็เชียร์ในอีกความรู้สึกแบบหนึ่ง
เอ็นโด กล่าวไว้ในช่วงก่อนเกมกับเวียดนามว่า
““ผมชอบนะที่ คล็อบป์โกหก (โกหกว่าอยากให้เอ็นโดทำผลงานได้ดีในเอเซียคัพ เพราะอยากให้เอ็นโดกลับมาที่สโมสรให้เร็วที่สุด)”
นั่นก็คือสิ่งที่ผู้คนคาดหวังในนักเตะชาวเอเชีย แสดงถึงมาตรฐานที่สูงขึ้น
แล้วเราจะก้าวไปให้สูงขึ้นได้อย่างไร
ภาพประกอบ WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– พาสปอร์ตญี่ปุ่นทรงพลัง
– อากาศสะอาดที่ญี่ปุ่น
– เมื่อตัวละครที่ชอบตายไป 推しの死 [โอะชิ โนะ ชิ]
– แล้วญี่ปุ่นทำการพยากรณ์อากาศกันอย่างไร
– ญี่ปุ่นเก็บข้อมูลสภาพอากาศกันอย่างไร
อ้างอิง
– https://www.beinsports.com/
– https://twitter.com/michael_reid11/
– https://www.bbc.com/sport/articles/
– https://news.yahoo.co.jp/articles/
#ญี่ปุ่นกับกระแสฟุตบอลเอเชียนคัพ