Ina Food Industry ผู้ผลิตผงวุ้นจากสาหร่ายทะเล บริษัทเล็กๆ ในต่างจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังถึงขนาดผู้บริหารบริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียงต่างต้องการขอคำแนะนำ
Ina Food Industry ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ จังหวัดนากาโน่ เป็นผู้ผลิตผงวุ้นทำจากสาหร่ายทะเล แต่บริษัทเล็กๆ ในต่างจังหวัดแห่งนี้กลับมีชื่อเสียงโด่งดังถึงขนาดผู้บริหารบริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียงต่างต้องการขอคำแนะนำ
คุณ Hiroshi Tsukakoshi บริหารบริษัทมาเป็นเวลายาวนานมากกว่า 50 ปี ชีวิตของ Tsukakoshi ลำบากมาตั้งแต่เด็กเพราะต้องช่วยแม่ทำนาข้าวและสวนมันสำปะหลังตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่ก็ยังอุตส่าห์เรียนจนจบ เขาจึงยึดมั่นกับคำกล่าวที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ต่อมาเขาก็ยังป่วยเป็นวัณโรคถึง 3 ปี ทำให้เขารู้ซึ้งว่า “การยังมีชีวิตอยู่และมีสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งมีค่าที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้” เมื่อหายจากอาการป่วย เขาได้ทำงานที่บริษัทขายไม้อยู่ปีครึ่ง ในตอนที่เขาอายุ 21 ได้ถูกขอให้ช่วยสร้างบริษัทผลิตวุ้นจากสาหร่ายขึ้นมาใหม่เพราะบริษัทกำลังติดตัวแดง เขาได้ให้ข้อคิดดีๆ จากประสบการณ์การบริหารที่ยาวนานจนประสบความสำเร็จดังนี้ค่ะ
1) บริษัทไม่ได้มีอยู่เพื่อผู้บริหาร แต่มีอยู่เพื่อตอบแทนความทุ่มเทและเพื่อความสุขของพนักงาน
ในตอนที่ Tsukakoshi เริ่มทำบริษัท Ina Food มีพนักงานเพียง 17 คน โดยถึงแม้จะมียอดขายถึง 10 ล้านเยนต่อปี แต่ก็ขาดทุนมากมายเพราะบริษัทไม่มีเทคโนโลยีเฉพาะทาง ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีพนักงานที่เชื่อใจได้ และไม่มีลูกค้าประจำ Tsukakoshi ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการผลิตวุ้นจึงได้แต่พึ่งตำรา โดยเรียนรู้วิศวกรรมการผลิตและบัญชีด้วยตัวเอง เขายังพบว่าบริษัทไม่มีเงินทุนที่จะซื้อเครื่องจักรใหม่ สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ตอนนั้นก็คือการให้กำลังใจพนักงานเพื่อเพิ่มผลผลิต Tsukakoshi จึงทำทุกอย่างเพื่อเสริมสร้างกำลังใจแก่พนักงาน สิ่งหนึ่งที่เขายังได้เรียนรู้ก็คือ การทำงานยากๆที่เกินความคาดหมายจะสามารถบรรลุผลได้ดีหากมีการทำงานเป็นทีม เช่น เมื่อตอนที่ต้องซ่อมหม้อน้ำที่ใช้ในการต้มสาหร่าย พนักงานหลายคนต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลากว่า 4 วันติดต่อกัน ในช่วงเวลาดังกล่าว พนักงานหญิงจะทำอาหารให้พนักงานผู้ชายกินเพื่อจะได้สะดวกทำงานต่อไปได้เลย
ความยากลำบากอย่างมากมากมายที่ Tsukakoshi ได้ประสบร่วมกับพนักงาน ทำให้เขาพบว่าพนักงานก็ทำงานหนักเพื่อบริษัท ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้มีอยู่เพื่อตัวเอง แต่มีอยู่เพื่อตอบแทนความทุ่มเทและเพื่อความสุขของพนักงาน หากพนักงานมีความสุขและมีขวัญกำลังใจสูง ไม่เพียงแต่จะสามารถทำงานได้ดี แต่ยังสามารถพัฒนาชุมชนที่เราอาศัยอยู่
เขายังคิดว่าบริษัทเป็นดังครอบครัว ดังนั้นพนักงานก็เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นถึงแม้ว่าครอบครัวอาจมีอาหารไม่เพียงพอ เราก็ไม่สามารถไล่สมาชิกบางคนของครอบครัวออกไปเพื่อคนที่เหลือจะได้มีกิน ดังนั้นบริษัทก็ควรทำเช่นเดียวกัน บริษัทจะไม่ไล่ใครออกหากแม้มีการปรับโครงสร้างองค์กรหรือลดขนาดธุรกิจลง และบริษัทยังคงจัดหาตำแหน่งงานให้ถึงแม้จะเลยช่วงเกษียณอายุตามกฎหมายแล้ว เราอวยพรให้ครอบครัวมีความสุข ผู้บริหารก็ควรอวยพรให้พนักงานมีความสุข บริษัทสนับสนุนการพัฒนาตัวเองของพนักงานและให้ความสำคัญมากกว่ายอดขายและผลกำไร บริษัทยังจัดหาที่พักอาศัยให้พนักงานและมีเงินช่วยเหลือครอบครัวพนักงานในโอกาสพิเศษต่างๆ บริษัทยังควรเป็นสถานที่ที่พนักงานภาคภูมิใจที่ได้ทำงาน
2) บริษัทควรเติบโตแบบวงปีของต้นไม้
ในปี 2005 จู่ๆ ก็มีข่าวเกี่ยวกับประโยชน์ของผงวุ้นชนิดนี้ต่อร่างกาย โดยเชื่อว่า ผงวุ้นนี้มีเส้นใยที่จะช่วยป้องกันโรคอ้วน ความดันสูง เบาหวานและไขมันในเลือดสูง ทำให้มีความต้องการซื้ออย่างมากมายจนยอดขายพุ่งสูงถึง 2 หมื่นล้านเยน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนๆ ถึง 40-50% การที่ยอดขายเพิ่มสูงขนาดนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ดีแต่ Tsukakoshi กลับไม่ได้ดีใจ หากเลือกได้ เขาอยากให้ยอดขายค่อยๆ โตปีละ 7% มากกว่า เพราะเขามองว่า การเติบโตเร็วเกินไปทำให้อาจเกิดปัญหากับบริษัทเล็กๆที่มีพนักงานเพียง 400 คน Tsukakoshi เชื่อในคำกล่าวที่ว่า “หากใครวางแผนเพื่ออนาคตอันไกลจะรวย แต่ใครวางแผนเพื่ออนาคตอันใกล้จะจน” (คำกล่าวของ Sontoku Ninomiya 1787-1856)
อย่างไรก็ตามบริษัทเริ่มได้รับจดหมายมากมายจากลูกค้า เขียนมาเล่าถึงอาการป่วยและอยากได้วุ้นไปรักษา “ผมเป็นเบาหวาน” “ดิฉันป่วยสารพัดโรค” “ดิฉันต้องการพัฒนาสุขภาพ” เมื่อ Tsukakoshi เล่าให้พนักงานของเขาฟัง พนักงานก็ยินดีจะช่วย ในช่วงเวลาดังกล่าวโรงงานต้องดำเนินการผลิต 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 7 วันซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากผลิตแบบนี้ได้หลายเดือนพนักงานก็เริ่มที่จะอ่อนล้า Tsukakoshi คิดว่าเขาไม่สามารถดำเนินการผลิตแบบนี้ต่อไปได้ จึงตัดสินใจลดการผลิตลงและรับออเดอร์ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เขาคาดการณ์ว่าออเดอร์จะลดลงอย่างฮวบฮาบหลังการขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าความคิดของเขาถูกต้องเพราะออเดอร์ที่มาอย่างรวดเร็วก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เป้าหมายที่ Tsukakoshi พัฒนาบริษัทไม่ใช่เพื่อการเจริญเติบโตที่รวดเร็วแต่เป็นการเติบโตอย่างมั่นคง เขากล่าวว่า “หากผู้บริหารไม่ได้คิดถึงแต่ผลกำไร แต่ไปมุ่งเป้าการพัฒนาอย่างมั่นคง บริษัทจะคงอยู่ได้นาน”
Tsukakoshi คิดค้นทฤษฎีวงปีโดยนำมาจากการสังเกตวงปีของต้นไม้ เขากล่าวว่าต้นไม้เติบโตทุกๆ ปีและไม่เคยหยุดที่จะเติบโต วงปีจะกว้างเมื่อต้นไม้เล็กอยู่และจะแคบลงเมื่อต้นไม้โตขึ้นในระดับหนึ่ง และถึงแม้ว่าความกว้างของวงปีอาจเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ อากาศร้อนหรือเย็น ลม หิมะ ฯลฯ แต่ในภาพรวมต้นไม้ก็โตขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน หากบริษัทต้องการเติบโตโดยหวังจะได้ยอดขายมากๆ เพียงชั่วคราว ส่วนประกอบอื่นๆ ในการทำธุรกิจอาจเติบโตตามไม่ทัน ประหนึ่งการเกิดหลุมกลวงภายในต้นไม้ เราจึงควรคิดว่ายอดขายและกำไรเป็นผลจากการเติบโตโดยธรรมชาติของบริษัท แทนที่จะมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มยอดขาย เรามุ่งเป้าไปกับการช่วยพนักงานให้ได้ใช้ความสามารถในการทำงานอย่างเต็มที่และพัฒนาไปในทิศทางต่างๆ บริษัทควรสร้างบริษัทที่จะทำให้พนักงานมีความสุขและเพื่อทำประโยชน์แก่สังคม ยอดขายและผลกำไรเป็นเพียงเครื่องมือที่จะนำไปสู่จุดมุ่งหมายดังกล่าว
Tsukakoshi เปลี่ยนชื่อยี่ห้อของวุ้นเป็น Kanten Papa (Kanten แปลว่า สาหร่าย) เพื่อมุ่งเพื่อให้เป็นสินค้าสำหรับครอบครัวและการใช้ในครัวเรือน จากที่ก่อนหน้าใช้ในอุตสาหกรรมเป็นหลัก Kanten Papa ขายในร้านต่างๆ ในจังหวัดนากาโน่และยามานะชิ ต่อมาได้มีออฟฟิศขายอยู่ทั่วประเทศและวางสินค้าบางอย่างในซุปเปอร์มาร์เก็ต Ina Food เปิดร้านขายตรง 9 แห่ง โดยบริษัทต้องการให้ลูกค้าทุกคนสามารถทำเจลลี่ผลไม้ที่บ้านเองได้ ต่อมาซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายๆประเทศก็ติดต่อ Ina Food แต่ Tsukakoshi ปฏิเสธเพราะคิดว่าบริษัทเขาเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ จึงอาจไม่สามารถจัดการปัญหาการเคลมได้ เขายังได้ตั้งหน่วยวิจัยและพัฒนาเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น วุ้นที่ช่วยผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการกินกลืนได้ง่ายขึ้น ยังได้ผลิตน้ำวุ้น ในการทำลิปสติก รองพื้น และวุ้นเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ
ในช่วงปี 1990 Ina food ได้รับการเสนอให้เข้าตลาดหุ้น ในตอนแรก Tsukakoshi ก็สนใจแต่พอเขาได้ยินเกี่ยวกับการทำกำไรสูงสุด เขาจึงปฏิเสธความคิดดังกล่าว เขาเชื่อว่าหากนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น เขาคงไม่สามารถบริหารบริษัทเพื่อพนักงานและสังคมเหมือนที่เขาตั้งใจได้ เพราะเป้าหมายของบริษัทในมุมของนักลงทุนคือ “ให้ได้กำไรสูงสุดเพื่อหุ้นส่วน” แต่กำไรในความคิดของ Tsukakoshi คือ “การทำให้พนักงานมีความสุข”
3) หาซัพพลายเออร์ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถได้วัตถุดิบที่ราคาคงที่
วุ้นผลิตจากสาหร่ายที่โดยมากหาได้จากคาบสมุทร Izu โดยราคาของวุ้นจะขึ้นลงอย่างรุนแรงตามปริมาณวัตถุดิบในตลาดจนบางทีก็ขาดตลาด และนักเก็บสาหร่ายก็ไม่ได้มีความพยายามในการหาสาหร่ายให้มากขึ้นเพราะวุ้นเป็นเพียงแหล่งรายได้ที่สองของพวกเขา บางครั้งราคาของวุ้นจึงเพิ่มสูงถึงสามเท่าในเวลา 12 เดือน ลูกค้าหลักคือผู้ผลิตขนม Yokan ที่มีส่วนประกอบจากสาหร่ายชนิดนี้หลายรายจึงต้องการเลิกไปผลิตอย่างอื่นแทนเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว
Tsukakoshi คิดว่าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปจะเป็นการซ้ำเติมผู้ผลิต เขาต้องการรักษาราคา คุณภาพและปริมาณวัตถุดิบ จึงเริ่มสร้างโรงเก็บวุ้นให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ขยายโรงงานให้ผลิตจำนวนมากขึ้น และเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหาแหล่งซัพพลายเออร์ใหม่ เขาไปเยือนมากกว่า 20 ประเทศ ทั้งชิลี โปรตุเกส โมรอคโค จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม และได้เซ็นต์สัญญากับซัพพลายเออร์ในชิลี โมรอคโค และเกาหลีใต้ เมื่อซัพพลายเออร์สามารถป้อนวัตถุดิบจำนวนเยอะขึ้น บริษัทก็สามารถผลิตวุ้นได้เป็นจำนวนมากในราคาที่คงที่
ในปัจจุบัน บริษัท Kanten Papa มีธุรกิจเติบโตได้ดี แต่ Tsukakoshi ก็คิดว่า เขายังไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้ เขายังมองเห็นโอกาสในการเติบโตและปรับปรุงการทำงานอยู่เสมอ เขาเห็นว่าความเบิกบานภายในมาจากความเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นไปอีกระดับ เขาเชื่อว่าบริษัทจะไม่พัฒนาหากไม่ทำอะไรเลย
ความมีชีวิตชีวา ฉลาดเฉลียว ความมีจิตใจที่ทำเพื่อผู้อื่น และทัศนคติที่ว่าทุกอย่างเป็นไปได้ อยู่ในทุกอณูของบริษัทเช่นเดียวกับคุณสมบัติที่ล้ำค่าในตัวผู้บริหารท่านนี้ค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจด้วยความรักในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” ตามแผงหนังสือชั้นนำ และ สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– แอปเปิ้ลมหัศจรรย์ของ Akinori Kimura ที่ใช้เวลาปลูกมากกว่า 10 ปี
– 10 ข้อสังเกตว่าคนนี้เหมาะจะเป็นแม่บ้าน (แม่ของลูก) ฉบับชาวญี่ปุ่น
– หีบห่อของขวัญญี่ปุ่นที่มอบประสบการณ์ที่ดีแก่คนซื้อ
– บริษัทญี่ปุ่นที่สั่งให้พนักงานสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ
– Konosuke Matsushita ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ควรมีอยู่เพื่อสังคม
– พนักงานบริษัทญี่ปุ่นรู้สึกผิดเมื่อลาพักร้อน และการใช้โดรนไล่พนักงานกลับบ้าน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.kantenpp.co.jp/index.html
Ina Food Industry: New Management Philosophy for Japanese Business
https://www.murata-brg.co.jp/weblog/2015/11/%E5%B9%B4%E8%BC%AA%E7%B5%8C%E5%96%B6.html