หีบห่อของขวัญญี่ปุ่น … เวลาไปซื้อขนมและของที่ระลึกจากร้านที่ญี่ปุ่น คนขายมักจะห่อสินค้าด้วยกระดาษห่อสวยๆ ทีละชิ้นอย่างประณีต สิ่งนี้เป็นเอกลักษณ์ของงานฝีมือที่มีคุณภาพแบบญี่ปุ่นเลยทีเดียว
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่มักจะเลือกซื้อของเพราะหีบห่อ ดังนั้นคงจะไม่แปลกใจเลยใช่ไหมคะว่าเวลาไปญี่ปุ่นดิฉันจะขนขนมของฝากกลับมามากมายขนาดไหน ก็ขนมและสินค้าที่นั่นมีหีบห่อที่น่ารักน่าเอ็นดูขนาดนั้น
เวลาไปซื้อขนมและของที่ระลึกจากร้านที่ญี่ปุ่น คนขายมักจะห่อสินค้าด้วยกระดาษห่อสวยๆ ทีละชิ้นอย่างประณีต ดิฉันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับหีบห่อเหล่านี้ดังนี้ค่ะ
1) การห่ออย่างประณีตช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้า
หากสินค้าที่เราซื้อเป็นสินค้าสวยงาม เช่น ผ้าเช็ดหน้า พวงกุญแจ สินค้าแฮนด์เมด ฯลฯ คือไม่ใช่สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การห่อด้วยกระดาษที่สวยงาม กระดาษที่ประทับยี่ห้อของร้าน หรือสติ๊กเกอร์เล็กๆ กุ๊กกิ๊กน่ารักก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเป็นอย่างมาก
2) การห่อของขวัญที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของร้าน
หลายๆ ครั้งที่ดิฉันซื้อของขวัญ พนักงานในร้านจะห่อของขวัญอย่างเชี่ยวชาญพร้อมท่วงท่าที่สง่างาม ดิฉันคิดว่าสิ่งนี้เป็นเอกลักษณ์ของงานฝีมือที่มีคุณภาพแบบญี่ปุ่น และบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจในสิ่งนี้ และนี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายๆ คนถึงหลงรักสินค้าญี่ปุ่นที่ไม่ได้มีดีแต่เพียงแค่ตัวสินค้า ลูกค้าอาจจะชอบสินค้าที่มีคุณภาพดีแม้ปราศจากหีบห่อที่สวยงาม แต่จะถึงขั้นตกหลุมรักหากสินค้าคุณภาพดีมาพร้อมหีบห่อที่สวยงาม
จะว่าไปแล้วเปรียบเสมือนคุณยายที่นำถ้วยชามชุดพิเศษออกมาเสิร์ฟเวลามีแขกมาเยือน ถึงแม้อาหารและขนมที่เธอทำจะรสชาติเหมือนเดิมก็ตาม แต่การใช้ถ้วยชามชุดนั้นทำให้อาหารมื้อนั้นดูพิเศษขึ้นทันทีใช่ไหมคะ
3) ประสบการณ์ไม่ได้จบลงหลังจากลูกค้าจ่ายเงิน
จริงๆ แล้วร้านไม่จำเป็นต้องห่อกระดาษหลังจากลูกค้าซื้อสินค้าและจ่ายเงินแล้ว ร้านค้าสามารถที่จะใส่ถุงพลาสติกให้ได้เลย แต่การห่ออย่างสวยงามโดยไม่ได้คิดเงินเพิ่มช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจในการแกะของขวัญ และเปิดดูสินค้าอย่างตื่นเต้นให้กับลูกค้าหรือคนสำคัญที่ลูกค้าซื้อของไปฝาก เหมือนเวลาที่เราไปภัตตาคารแล้วเราได้รับการบริการที่ดีจากพนักงานเสิร์ฟที่จะสามารถทำให้อาหารมื้อนั้นเป็นมื้อพิเศษมากขึ้นยังไงคะ
ปัจจุบัน ดิฉันเห็นร้านขายของที่ระลึกหลายร้านในประเทศไทยเริ่มใช้ยุทธศาสตร์การบรรจุหีบห่อที่สวยงามในการดึงดูดลูกค้า ซึ่งก็ได้ผลดีทีเดียวค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจด้วยความรักในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” ตามแผงหนังสือชั้นนำ และ สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– บริษัทญี่ปุ่นที่สั่งให้พนักงานสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ
– Konosuke Matsushita ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ควรมีอยู่เพื่อสังคม
– พนักงานบริษัทญี่ปุ่นรู้สึกผิดเมื่อลาพักร้อน และการใช้โดรนไล่พนักงานกลับบ้าน
– 4 ปัจจัยที่จะทำให้คุณมีความสุข
– Tamagoya ร้านข้าวกล่องที่ดำเนินกิจการโดยเด็กที่เรียนไม่จบมัธยม
– 4 คำถามเพื่อความสุขและสำเร็จในการทำงาน