If Cats Disappeared from the World “ถ้าแมวตัวนั้น หายไปจากโลกนี้” …เมื่อบุรุษไปรษณีย์วัย 30 ปี รับรู้ว่าตัวเขามีเวลาใช้ชีวิตเหลืออีกไม่มาก เขาจึงทำข้อตกลงกับปีศาจตนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาเหมือนเขา ว่าเมื่อเขาลบสิ่งใดให้หายไปจากโลกใบนี้ เขาจะได้เวลาชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งวัน
“ผมตัดสินใจ ลบ เพื่ออยู่
ผมเป็นบุรุษไปรษณีย์ ที่กำลังนับถอยหลังเวลาชีวิต”
ยมทูตตนหนึ่งที่หน้าเหมือนผมเป๊ะ ปรากฏตัวขึ้นมา บอกผมว่า
หากผมยอมลบสิ่งของบางอย่างไปจากโลกนี้ ผมจะได้เวลาชีวิตเพิ่มขึ้น หนึ่งวันต่อของหนึ่งอย่าง ชีวิตเราได้อย่างก็ต้องเสียอย่างสินะ
โทรศัพท์, ภาพยนตร์, นาฬิกา… แมว สิ่งของหายไปจากโลกของผมทีละอย่าง ผมกลับไปหาแฟนเก่า เพื่อทบทวนความทรงจำในช่วงเวลาที่เรามีด้วยกัน ช่วงเวลาที่เรารักกัน และช่วงเวลาที่เราจากกัน ในช่วงเวลาที่หลายสิ่งหลายอย่างหายไป ผมได้รับรู้ว่าเพื่อนสนิทของผมรู้สึกอย่างไรกับผม และพ่อที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานแล้ว มีความรู้สึกอะไรซ่อนอยู่บ้าง
และในวันสุดท้ายของชีวิต การตัดสินใจครั้งสำคัญก็มาถึง
ความเป็นมาของการหายไป
วรรณกรรมซึ้งกินใจที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Japan Booksellers’ Award ที่ทำยอดขายกว่าสามแสนเล่มทั่วประเทศ จะได้รับการดัดแปลงสู่จอภาพยนตร์ โดยทีมงานและนักแสดงชั้นนำของญี่ปุ่น
เกิดเป็นปรากฏการณ์ภาพยนตร์ดราม่าญี่ปุ่นยุคใหม่ สร้างความประทับใจรูปแบบเดียวกับ Love Letter, Big Fish และ Eternal Sunshine of the Spotless Mind
โปรเจคต์นี้เป็นการสร้างภาพยนตร์จากนวนิยายเล่มแรกของเกงกิ คาวามูระ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ผู้เคยมีผลงานมากมายทั้ง Train Man, Confessions, Villain, Love Strikes! และ Wolf Children มาแล้ว นวนิยายเบสท์เซลเลอร์ของเขาเล่มนี้ ตีพิมพ์โดย Magazine House และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Japan Booksellers’ Award และการนำมาทำภาพยนตร์ครั้งนี้ จะเป็นการรวมตัวของเหล่านักแสดงชั้นยอด เกิดเป็นปรากฏการณ์ดราม่าซึ้งกินใจ
เมื่อบุรุษไปรษณีย์วัย 30 ปี รับรู้ว่าตัวเขามีเวลาใช้ชีวิตเหลืออีกไม่มาก เขาจึงทำข้อตกลงกับปีศาจตนหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาเหมือนเขา ว่าเมื่อเขาลบสิ่งใดให้หายไปจากโลกใบนี้ เขาจะได้เวลาชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งวัน เรื่องราวดราม่าครั้งนี้ ได้พาผู้อ่านไปสำรวจว่า ในช่วงเวลาที่ชายคนนี้เหลืออยู่ เขาได้พยายามเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับคนรักเก่า พ่อที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน และแม่ที่เขาไม่มีวันได้พบอีกแล้วได้อย่างไร
หลังจากที่หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ออกไป เหล่านักเขียนชั้นน้ำของญี่ปุ่นทั้ง คุนโดะ โคยาม่า, มิตสึโยะ คาคุตะ และเหล่านักเขียนชื่อดังคนอื่นๆ ต่างพากันชื่นชมนวนิยายเรื่องนี้ จนได้เข้าชิงรางวัล Japan Booksellers’ Award ปี 2013 ทำยอดขายกว่าสามแสนเล่ม และเมื่อปีที่แล้ว ได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นละครวิทยุ (พากย์เสียงโดย ซาโตชิ สึมาบุกิ, ชิโฮริ คันจิยะ และ จุน คุนิมูระ) ละครวิทยุเรื่องนี้ได้รับรางวัล Galaxy Award สาขารายการวิทยุแนะนำ และล่าสุดได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในงาน Prix Italia
นักเขียนบทอย่าง โยชิคาซุ โอคาดะ ได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้ และรู้สึกจับใจเป็นอย่างมาก เขารับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ทันที นักเขียนบทผู้นี้เป็นหนึ่งในยอดฝีมือของญี่ปุ่น เขาเคยได้รับรางวัลชั้นนำทั้ง Kuniko Mukoda Award และ Sugako Hashida Award จากบทภาพยนตร์เรื่อง Churasan รวมทั้งมีผลงานเขียนบทละครชั้นนำมากมาย ทั้งเรื่อง Ohisama (Sunshine), Saigo kara nibanme no koi (Second to Last Love) และ Nakuna, Hara-chan (Don’t cry, Hara-chan) ผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาคือบทภาพยนตร์ดราม่าระดับตำนานเรื่อง Be With You ที่กวาดรายได้ทั่วประเทศไปกว่า 4,500 ล้านเยน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะได้ผู้กำกับไฟแรงอย่าง อากิระ นากาอิ มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์ เขามีผลงานกำกับโฆษณาชื่อดังอย่างโฆษณากาแฟ Suntory Boss ชุด Zero no Choten (Zenith of Zero) นำแสดงโดย โคชิโร่ มัตสึโมโตะ และ ทาคาโกะ มัตสึ รวมทั้งโฆษณา Calorie Mate ชุด Todoke, Netsuryou (Feel the Energy) ที่ได้เสียงเพลงอันไพเราะของ ฮิคาริ มิตสึชิม่า มาประกอบโฆษณา โฆษณาของนากาอิได้รับรางวัลมากมายทั้งในและนอกประเทศ เขากลายมาเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงแห่งวงการภาพยนตร์ สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกชื่อ Judge! นำแสดงโดย ซาโตชิ สึมาบุกิ นอกจากวิสัยทัศน์และไหวพริบด้านการใช้ดนตรีประกอบแล้ว ความสามารถในการกำกับการแสงของนากาอินั้น ได้พุ่งทะลุจุดสูงสุด เกินกว่าที่จะกำกับเพียงโฆษณาอีกต่อไป เขาได้รับการยกย่องให้เป็น เท็ตสึยะ นากาชิม่า และไดฮาจิ โยชิดะ คนต่อไป และได้รับการคาดหวังว่าจะกลายมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น
การดัดแปลงนวนิยายมาเป็นภาพยนตร์ในครั้งนี้ จะได้รวมเอานักแสดงและทีมงานระดับท้อปของญี่ปุ่นไว้ด้วยกัน เป้าหมายของเราคือการสร้างภาพยนตร์ญี่ปุ่นให้มีมนต์เสน่ห์ จับใจผู้ชมได้เทียบเท่า Love Letter, Eternal Sunshine of the Spotless Mind, Big Fish และ 500 Days of Summer
ทีมงาน
เกงกิ คาวามูระ – นวนิยายต้นฉบับ
เกงกิ คาวามูระ เกิดในปี 1979 เขาเข้าทำงานที่บริษัท โทโฮ จำกัด ในฐานะโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ มีผลงานเช่น Train Man, Flowers in the Shadow, Confessions, Villain, Love Strikes!, Wolf Children. โดยทั้ง Villain และ Confessions ที่สร้างขึ้นในปี 2010 ได้รับรางวัล Japan Academy Prizes ร่วมกัน รวมทั้งได้รับรางวัลในเวทีนานาชาติหลายเวทีอีกด้วย ในปีนั้น นิตยสาร Hollywood Reporter ของอเมริกา ได้ยกย่องเขาให้เป็น “โปรดิวเซอร์ยุคใหม่แห่งปี 2010” ในปี 2011 เขาได้รับรางวัลฟูจิโมโตะในฐานะโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม ซึ่งเขาทำสถิติเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่เคยได้รับรางวัลนี้ ผลงานนวนิยายเล่มแรกของเขาที่ได้รับการดัดแปลงมาทำภาพยนตร์นี้ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Japan Booksellers’ Award ปี 2013 ทำยอดขายในประเทศกว่าสามแสนเล่ม รวมถึงได้ตีพิมพ์ในประเทศอื่นๆ มากมาย ทั้งจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ และไทย
โยชิคาซุ โอคาดะ – บทภาพยนตร์
โยชิคาซุ โอคาดะ เกิดเมื่อปี 1959 เขาได้รับรางวัลจากกรมวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการในปี 1999 ในฐานะนักเขียนบทหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากผลงานบทละครโทรทัศน์เรื่อง Kanojotachi no jidai (Their Days) ถัดมาในปี 2002 เขาได้รับสองรางวัล ทั้งรางวัล Kuniko Mukoda และรางวัล Sugako Hachida จากบทภาพยนตร์เรื่อง Churasan ปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในนักเขียนบทแนวหน้าของญี่ปุ่น ผลงานของเขาได้แก่ Ohisama (Sunshine), Saigo kara nibanme no koi (Second to Last Love) และ Nakuna, Hara-chan (Don’t cry, Hara-chan) และผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาคือบทภาพยนตร์ดราม่าระดับตำนานเรื่อง Be With You ที่กวาดรายได้ทั่วประเทศไปกว่า 4,500 ล้านเยน การเข้ามาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ของเขา จะเป็นการผสมผสานเรื่องราวแฟนตาซีเข้ากับดราม่าสุดเข้มข้น ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของเขา และจะเปลี่ยนเรื่องราวจากนวนิยายเรื่องนี้ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ดราม่าสุดซึ้ง
เคย์ ฮารุนะ – โปรดิวเซอร์
เคย์ ฮารุนะ เกิดเมื่อปี 1969 เธอคือโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์รักคุณภาพเมื่อปี 2004 อย่าง Crying Out Love in the Center of the World สร้างปรากฏการณ์รายได้ถล่มทลาย 8,500 ล้านเยนทั่วประเทศ เขาได้รับรางวัลฟูจิโมโตะครั้งที่ 24 สาขาโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม หลังจากนั้นเขามีผลงานยอดฮิตอีกมากมายทั้ง Be With You, Spring Snow, The Star of Prefecture Government, Parade, Permanent Nobara, In His Chart และ We Were There.
อากิระ นากาอิ – กำกับภาพยนตร์
อากิระ นากาอิ เกิดเมื่อปี 1970 เขามีผลงานกำกับโฆษณาชื่อดังอย่างโฆษณากาแฟ Suntory Boss ชุด Zero no Choten (Zenith of Zero) นำแสดงโดย โคชิโร่ มัตสึโมโตะ และ ทาคาโกะ มัตสึ รวมทั้งโฆษณา Calorie Mate ชุด Todoke, Netsuryou (Feel the Energy) ที่ได้เสียงเพลงอันไพเราะของ ฮิคาริ มิตสึชิม่า มาประกอบโฆษณา นอกจากนี้ยังมีโฆษณาของบริษัทซันโตรี่ เรื่อง Green Dakara-Chan อีกด้วย นากาอิได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในงาน ACC CM Festival ถึงสองปีติด (2012-2013) รางวัลนี้เป็นรางวัลสูงสุดของเหล่าผู้กำกับโฆษณาในญี่ปุ่น ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ เขามีผลงานภาพยนตร์เล็กๆ เรื่อง All About My Dog เมื่อปี 2005 และเปิดตัวกับหนังใหญ่ครั้งแรกในเรื่อง Judge! เมื่อปี 2014 ซึ่งกลายมาเป็นภาพยนตร์ที่ฮิตถล่มทลาย เขาขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับไฟแรงที่มีวิสัยทัศน์ด้านภาพและเพลงประกอบที่กว้างไกล รวมทั้งความสามารถในการกำกับการแสดงให้ออกมาซึ้งกินใจที่สุด จนได้รับฉายาว่าจะกลายมาเป็น เท็ตสึยะ นากาชิม่า และ ไดฮาจิ โยชิดะ คนต่อไป
โชอิจิ อาโตะ – ผู้กำกับภาพ
เขาเริ่มงานด้วยการเป็นช่างภาพให้โฆษณาทีวีหลายชุด ก่อนจะผันตัวมาเป็นผู้กำกับภาพ ถ่ายทำภาพยนตร์ให้กับผู้กำกับชั้นนำมากมาย ทั้งเรื่อง Tokyo, Sora ของฮิโรชิ อิชิคาว่า รวมทั้งเรื่อง Funuke: Show Some Love, You Losers ของไดฮาจิ โยชิดะ เขาเป็นผู้กำกับภาพให้ภาพยนตร์ของเท็ตสึยะ นากาชิม่า แทบทุกเรื่อง ทั้ง Kamikaze Girls, Memory of Matsuko, Pace and the Magical Book, Confessions และ The World of Kanako กลายเป็นตากล้องคู่บุญที่สร้างสไตล์ภาพให้กับผู้กำกับระดับท้อปผู้นี้ อาโตะเคยร่วมงานกับผู้กำกับ อากิระ นากาอิ มาแล้ว ในโฆษณาโทรทัศน์ชุด Zero no Choten ผลงานภาพที่สวยงามของเขา นับว่าเป็นแถวหน้าของวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น
นักแสดง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมเอานักแสดงระดับท้อปของญี่ปุ่นไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างปรากฏการณ์ดราม่าสุดซึ้งกินใจ

ทาเครุ ซาโตะ รับบท ตัวเอก “ผม” และปีศาจ (แสดงสองบท)
ตัวเอกที่เขาแสดง คือบุรุษไปรษณีย์วัยสามสิบปี ที่ได้รับรู้ว่าเวลาของตัวเองเหลือไม่มาก จึงทำข้อตกลงกับปีศาจที่หน้าเหมือนเขา ในการลบบางสิ่งบางอย่างไปจากโลกนี้ เพื่อต่อเวลาชีวิตออกไป หนึ่งสิ่งของต่อหนึ่งวัน ซาโต้เป็นนักแสดงหนุ่มที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เขาแสดงในภาพยนตร์ยอดฮิตทั้ง รูโรนิ เคนชิน และ Bakuman ในเรื่องนี้ เขาจะรับบทเป็นทั้งตัวเอกของเรื่อง และปีศาจผู้ยื่นข้อเสนอในการต่อชีวิต

อาโออิ มิยาซากิ รับบท แฟนเก่า
หญิงสาวผู้นี้ คือคนรักเก่าของตัวหลักในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัย เมื่อเธอได้กลับมาพบกับตัวเอกที่กำลังจะเสียชีวิต เธอก็ได้นำความทรงจำบางอย่างกลับมาสู่ใจของเขา มิยาซากิ คือนักแสดงสาวแถวหน้าของวงการ เธอโด่งดังสุดๆ กับละครโทรทัศน์เรื่อง Atsuhime รวมทั้งแสดงภาพยนตร์สุดฮิตมากมาย ทั้ง Nana, In His Chart และ The Great Passage บทที่เธอแสดงในเรื่องนี้ จะเป็นเหมือนใจกลางของเรื่อง

กาคุ ฮามาดะ รับบท สึทายะ
เขาคือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตัวเอก ชายคนนี้เป็นคนบ้าหนัง ทำงานอยู่ในร้านเช่าวิดีโอ ฮามาดะเป็นนักแสดงหนุ่มมากพรสวรรค์ เขาได้แสดงภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมมากมาย ในเรื่องนี้เขาจะได้แสดงเป็นตัวละครสำคัญที่คอยช่วยเหลือตัวเอกอยู่เสมอ
ทอม : หนุ่มชาวญี่ปุ่นที่ตัวเอกและแฟนสาวได้พบที่กรุงบัวโนส ไอเรส
พ่อ : พ่อของตัวเอกที่ห่างกันมาสี่ปีแล้ว
แม่ : แม่ของตัวเอกที่เสียชีวิตไปสี่ปีแล้ว
เจ้ากะหล่ำ : แมวรักของตัวเอก โดยตัวก่อนหน้ามัน มีชื่อว่าผักกาด
เรื่องย่อ
“ผม” เป็นบุรุษไปรษณีย์วัยสามสิบที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดของญี่ปุ่น ผมเป็นคนบ้าหนัง อาศัยอยู่กับแมวของผม วันหนึ่งผมป่วย เมื่อไปหาหมอก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง และได้รู้ว่าตัวเองจะมีเวลาเหลืออีกไม่นาน ผมกลับบ้านอย่างหมดอาลัยตายอยาก จู่ๆ ก็ได้พบกับคนๆ หนึ่งที่หน้าตาเหมือนผมเป๊ะ เขาบอกว่าเขาเป็นปีศาจ และมีข้อเสนออย่างหนึ่งให้ผม
“ฉันจะเพิ่มเวลาชีวิตให้นายหนึ่งวัน สำหรับหนึ่งสิ่งที่นายลบไปจากโลก”
ชีวิตคนเรา ได้อย่าง ก็คงต้องเสียอย่าง แม้ผมจะไม่อยากเชื่อข้อสเนอของเขา แต่ก็ตอบรับมัน ช่วงเวลาเจ็ดวันแสนประหลาดระหว่างผม ปีศาจ และเจ้าแมวน้อยจึงเริ่มต้นขึ้น…
ปีศาจลบของบางสิ่งออกจากโลก และทุกครั้งที่ลบ ผมจะมีเวลาเหลือเพิ่มขึ้นอีกวัน ผมเลือกลบโทรศัพท์ หนัง นาฬิกา เพื่อแลกกับเวลาที่มากขึ้น สิ่งเหล่านั้นหายไปจากโลกโดยสิ้นเชิง ทุกครั้งที่มีบางอย่างหายไป ความรู้สึก และสามัญสำนึกในการมองโลกของผมก็เปลี่ยนไปด้วย
โลกที่ไม่มีโทรศัพท์ โลกที่ไม่มีหนัง โลกที่ไม่มีนาฬิกา มันช่างแปลกตา เมื่อของเหล่านี้หายไป ผมกลับรู้สึกถึงความหมายและคุณค่าของพวกมันขึ้นมา ในเวลาต่อมาผมไปหาคนรักเก่า เธอเป็นคนรักคนแรกของผม เราได้ย้อนความทรงจำเก่าๆ ไปด้วยกัน นอกจากนี้ผมยังได้ไปเจอ พูดคุยกับเพื่อนสนิท นึกถึงแม่ที่ตายไปแล้ว กับพ่อที่ไม่ได้เจอกันมานาน ผมนึกสงสัยว่า โลกนี้จะกลายเป็นอย่างไรกันนะ หากไม่มีผมแล้ว ใครจะมางานศพผมบ้าง ใครจะร้องไห้ให้ผมจากใจบ้าง พวกเขาจะพูดถึงชีวิตผมอย่างไร เขาจะจำผมอย่างไรกันนะ ผมรู้สึกทรมานเพราะความสิ้นหวัง แล้วจู่ๆ แมวของผมก็หายไป ไม่ว่าออกตามหาเท่าไร ก็ไม่เจอมัน ขณะที่ตามหาแมว ผมไปเจอจดหมายของแม่เข้า สิ่งที่แม่เขียนไว้ในจดหมาย คือสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://twitter.com/sahamongkolfilm?lang=th
https://www.facebook.com/sahamongkolcinema
http://www.majorcineplex.com/
http://zeronochoten.com/