Hobonichi เว็บไซต์ที่สร้างเนื้อหา ออกแบบผลิตภัณฑ์ และบริหารงานเป็นแบบเดียวกัน นั่นก็คือ “การสร้างความสุขในชีวิตประจำวัน” ให้แก่ นักอ่าน ลูกค้า และพนักงาน
Hobonichi คือ เว็บไซต์ที่ก่อตั้งโดย Shigesato Itoi, Copy writer ชื่อดังของญี่ปุ่น บางคนอาจจะรู้จักเขาในฐานะผู้จัดรายการหรือแขกคนสำคัญในรายการทีวี บางคนก็รู้จักเขาในฐานะนักออกแบบเกมนินเทนโด้ บางคนอาจรู้จักเขาในฐานะคนพากษ์เสียงผู้เป็นพ่อของเมและซัสซึกิ ในเรื่อง My Neighbor Totoro บางคนก็รู้จักเขาในฐานะสามีของนักแสดงหญิง Kanaoko Higuchi
เขาเป็นคนก่อตั้ง เว็บไซต์ Hobonichi (แปลว่า เกือบทุกวัน) ในปี 1998 โดยมุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ “ความสุขในชีวิตประจำวัน” โดยเขาจะโพสต์ 1 ข้อความทุกๆ วัน หัวข้อที่เขาเขียนจะเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ สัมภาษณ์ ข่าว และคอลัมน์พิเศษ เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับงานฝีมือ การทำอาหาร ภาพถ่าย ฯลฯ หรือแม้เรื่องราวเกี่ยวกับสึนามิที่โทโฮคุในปี 2011 เว็บไซต์ของเขาดึงดูดคนดูถึง 1.5 ล้านวิวต่อปี และได้เข้าตลาดหุ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอกลักษณ์ของเว็บไซต์และการบริหาร Hobonichi มีความน่าสนใจมากค่ะ
เว็บไซต์
• ไม่มีการขายโฆษณา แต่ยอดขายจะมาจากการขายสินค้าของบริษัทได้แก่ เสื้อเชิ้ต ไหมพรมถักคลุมท้อง จานข้าวแกงกะหรี่ หม้อไฟนาเบะ ฯลฯ สินค้าเหล่านี้จะถูกขายตรงจากเว็บไซต์ โดยผ่านการเล่าเรื่องราวการพัฒนาสินค้าต่างๆ สินค้าที่ขายดีถล่มทลายก็คือ สมุดแพลนเนอร์ที่เรียกว่า Hobonichi Techo โดยมียอดขายถึง 460,000 เล่มในปี 2011 และยังได้ออกเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเพื่อขายในประเทศอื่นๆด้วย บริษัทมียอดขายสูงถึง 1 พันล้านบาท
• ไม่มีการแบ่งคอลัมน์เหมือนนิตยสารทั่วไป เขาจึงเรียกว่า หนังสือพิมพ์ออนไลน์มากกว่านิตยสาร เขาไม่ต้องการจะแบ่งคอลัมน์เพราะต้องการสื่อสารในหัวข้อที่คนต่างๆสนใจและมีความสุขที่จะอ่าน เนื้อหาก็ไม่ใช่ข่าวรายวันทั่วไปและอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่นำเรื่องที่มีอยู่มาเขียนด้วยมุมมองใหม่ๆเพื่อให้คนอ่านอ่านแล้วรู้สึกมีความสุข
• ไม่มีการเก็บค่าอ่านสำหรับสมาชิก ทุกคนสามารถอ่านได้ฟรี
พนักงาน
• ไม่กำหนดเวลาว่าจะต้องเขียนเรื่องไหนเมื่อไร นอกจากคอลัมน์ของคุณอิโตะดิ ที่ต้องเขียนทุกวัน
• การเริ่มต้นหัวข้องานเขียนหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเริ่มจากพนักงานที่นำไอเดียมาเสนอกัน แต่ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากบรรณาธิการ เพียงแค่ประชุมอธิบายไอเดีย ซึ่งบรรณาธิการอาจขอความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือร่วมคิดงานด้วยกัน
• ไม่มีการทำวิจัยทางการตลาด แต่จะให้พนักงานวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของเพื่อนร่วมทีมในฐานะลูกค้า พนักงานทุกคนจึงจะได้รับข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
• บริษัทมีการแยกการบริหารเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มโปรเจ็กต์หลัก กลุ่มดีไซน์ กลุ่มการตลาด ฯลฯ ซึ่งพนักงานแต่ละคนก็สามารถเลือกกลุ่มที่ตัวเองอยากทำ งานต่างๆก็เกิดจากการทำโปรเจกต์ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มต่างๆ แต่ละกลุ่มจะมีหัวหน้าโปรเจกต์ แต่หัวหน้าไม่สามารถสั่งลูกทีมหรือตัดสินผลงานของลูกทีมได้ หน้าที่เดียวของหัวหน้าก็คือต้องกระตุ้นลูกทีมให้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ และรับผิดชอบกับผลงานของทีม
• ไม่มีการกำหนดยอดขาย หรืองบประมาณสำหรับโปรเจกต์แบบกลุ่มหรือแบบเดี่ยว และไม่มีการกำหนดการประชุมที่แน่นอน จะประชุมกันโดยนัดหมายกันเอง และรูปแบบการประชุมจะไม่เป็นทางการ
• รายงานการประชุมอัพเดทความคืบหน้าการทำงานของกลุ่มต่างๆ จะถูกส่งถึงทุกคนเพื่อให้ร่วมรับรู้ถึงการตัดสินใจ การลงมือทำ และความคิดเห็นต่างๆ
• ยืดหยุ่นเวลาเข้า-ออกงาน และให้พนักงานสามารถรวมเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้ ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนจะเห็นได้ว่า ที่ออฟฟิศของอิโตอิจะมีลูกๆของพนักงานมาเล่นในออฟฟิศ และพนักงานบางคนก็กำลังช่วยลูกทำการบ้าน
• ทุกๆ วันพุธ พนักงานทุกคนจะเข้าร่วมประชุมกับ อิโตอิ ซึ่งเขาจะแชร์รื่องเกี่ยวกับสังคม ธุรกิจ และพันธกิจของบริษัท และยังจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโปรเจกต์สำคัญๆ โดยเก้าอี้นั่งประชุมของพนักงานทั้ง 60 กว่าคนจะถูกเปลี่ยนสามครั้งต่อปี และที่นั่งจะถูกจัดโดยการจับฉลากเพื่อให้พนักงานที่อยู่คนละฝ่ายได้นั่งข้างๆกัน
ลูกค้า
• ไม่หน่วงเหนี่ยวหรือสร้างความรำคาญแก่ลูกค้า โดยการตั้งกลุ่มลูกค้าหรือการลิงค์เข้าเว็บไซต์ Hobonich จากเว็บไซต์อื่นๆ คิดว่าลูกค้าเปรียบเสมือนเพื่อนบ้านที่เป็นอิสระ เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าโดยอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ
• เสียงตอบรับจากลูกค้า เช่น การดูเว็บไซต์ ยอดขาย อีเมล์จากลูกค้า จะถูกส่งถึงพนักงานทุกๆคน ดังนั้นพนักงานจะทราบว่าหัวข้อใดบ้างที่อยู่ในความสนใจของลูกค้า
จะเห็นได้ว่าการสร้างเนื้อหา ออกแบบผลิตภัณฑ์ และบริหารงานเป็นแบบเดียวกัน นั่นก็คือ “การสร้างความสุขในชีวิตประจำวัน” ให้แก่ นักอ่าน ลูกค้า และพนักงานค่ะ
ติดตามอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจด้วยใจรักจนประสบความสำเร็จได้ในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” และ หนังสือจิตวิทยาความรักความสัมพันธ์ “เมื่อจิตวิทยา ทำให้คนรักกัน” สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– Cybozu บริษัทที่อนุญาตให้พนักงานเลือกเวลาและสถานที่ทำงานเองได้
– Kiyoko Ojima ผู้หญิงที่มอบโอกาสให้ผู้ไร้บ้านได้กลับมายืนบนลำแข้งตัวเองได้อีกครั้ง
– Rita No Kokoro จิตใจที่ทำเพื่อผู้อื่นของบริษัทญี่ปุ่น
– หัวอกคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ต้องทำงานนอกบ้าน
– ผู้ชายญี่ปุ่น 10 ประเภท
– ชิเซโด้ บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางเพื่อช่วยผู้มีปัญหาแผลเป็นร้ายแรง
ที่มา http://www.porterprize.org/english/pastwinner/2012/12/01153307.html