มหาวิทยาลัย “หนึ่งสะพาน” ฮิโตะซึบาชิ
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
เคยได้ยินชื่อมหาวิทยาลัย ฮิโตะซึบาชิ ไหมครับ
มหาวิทยาลัยนี้มีชื่อเสียงทางด้าน เศรษฐศาสตร์ บริหาร ครับ
มหาวิทยาลัยฮิโตะซึบาชิ เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า
一橋大学
ひつばしだいがく
[ฮิโตะซึบาชิ ไดกะคุ]มหาวิทยาลัยฮิโตะซึบาชิ
โดยที่
一
いち
[อิจิ]แปลว่า “หนึ่ง”
橋
はし
[ฮะชิ]แปลว่า “สะพาน”
ดังนั้นแล้ว
一橋
ひとつばし
[ฮิโตะซึบาชิ]แปลว่า “หนึ่งสะพาน”
大学 [ไดกะคุ] แปลว่า มหาวิทยาลัย
แล้วทำไมมหาวิทยาลัยนี้ ถึงมีชื่อว่า “หนึ่งสะพาน”
จริงๆแล้ว 一橋 [ฮิโตะซึบาชิ] นั้นมาจากชื่อสถานที่ที่มหาวิทยาลัยเคยตั้งอยู่นะครับ
ขอว่าถึงประวัติของมหาวิทยาลัยกันหน่อยแล้วกัน
มหาวิทยาลัย ฮิโตะซึบาชิ กำเนิดขึ้นมาในฐานะโรงเรียนฝึกสอนกฎหมายพาณิชย์สำหรับคนทำธุรกิจ ตั้งแต่ช่วงต้นยุคสมัยเมจิ (ปีค.ศ. 1875) โดยโรงเรียนตั้งอยู่ ณ สถานที่ที่ถือได้ว่าเป็นย่านกินซ่า ณ ปัจจุบัน
โรงเรียนแห่งนี้มีการย้ายสถานที่ มาที่ คันดะ ฮิโตะซึบาชิ (神田一ツ橋) ในปี 1885
ปี 1920 ได้เลื่อนระดับจาก”โรงเรียน”กลายเป็น”มหาวิทยาลัยโตเกียวโชคะไดกะคุ” (東京商科大学: Tokyo university of commerce)
ในปี 1927 หลังจากเหตุการณ์แผนดินไหวใหญ่ในโตเกียว มหาวิทยาลัยก็ย้ายมาอยู่ในเมือง “คุนิทะจิ” (国立) กับ“โคะไดระ” (小平)
หลังสงครามโลกครั้งที่สองมหาวิทยาลัยได้รับการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “มหาวิทยาลัยฮิโตะซึบาชิ” ในปี 1949 จากการลงคะแนนของนักศึกษา (ซึ่งน่าจะเพื่อระลึกถึงถิ่นฐานเดิมที่จากมา) และมหาวิทยาลัยนี้ได้ผลิต ผู้จบการศึกษาที่ออกมาสร้างผลงานในวงการธุรกิจ และ วงการการเงิน เป็นจำนวนมาก
ถ้าจะสรุปสั้นๆก็คงได้ใจความนี้ ที่มาของมหาวิทยาลัย ฮิโตะสึบาชิ
ซึ่งผมเองก็เพิ่งรู้จักมหาวิทยาลัย ฮิโตะซึบะชิ ตอนที่ได้มีโอกาสมาเรียนหนังสือที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีมิตรสหายชาวไทยของผมหลายคนที่ก็เลือกเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ ทั้งสายบริหาร และ สายเศรษฐศาสตร์
กลับมาที่มาของชื่อมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นชื่อสถานที่ 一ツ橋 (ฮิโตะซึบาชิ) ว่านั้นมีที่มาอย่างไร
ณ สถานที่แถว ฮิโตะซึบาชิ นั้นมีแม่น้ำ นิฮนบาชิคาวะ (日本橋川) ทอดสายน้ำจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปยังตะวันตกเฉียงเหนือ แม่น้ำนั้นมีสะพานอยู่หนึ่งสะพานที่ชื่อว่า ฮิโตะซึบาชิ (一ツ橋) จึงได้ชื่อสะพานนั้นเป็นชื่อเรียกสถานที่แถวนั้น
สถานที่ ฮิโตะซึบาชิ นั้นปัจจุบันมีตึกสูงมากมายได้ชื่อว่าเป็นแหล่งออฟฟิศของคนทำงาน
กลับมาที่มหาวิทยาลัย ฮิโตะซึบาชิ เมื่อลองถามน้องที่เคยเรียนที่นั่นว่า อะไรถือว่าเป็น Landmark ของมหาวิทยาลัย
น้องตอบว่า “เมอคิวรี่ทาวเวอร์” ด้วยเหตุผลว่าเป็นแหล่งสิงสถิตของนักศึกษาปริญญาโทและเอก สามารถ ใช้ไฟฟรีอินเตอร์เนตฟรี ตากแอร์ได้ทั้งคืน
เป็นเพื่อนคู่ยากของเหล่านักศึกษาจริงๆ
หน้าตาเมอคิวรี่ทาวเวอร์อยู่ในรูปครับ
เมอคิวรี่ทาวเวอร์สร้างเสร็จในปี 2004 เป็นตึกเจ็ดชั้น สำหรับ business school และ law school ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง
มีคนถามเหมือนกันว่าตึกสูงแค่เจ็ดชั้น เรียกว่า “ทาวเวอร์” เลยหรือ แต่เอาเถอะปล่อยผ่านไป
ได้ยินมาจากน้องคนเดิมว่า ด้วยกฎหมายของเมืองคุนิทาจิ ห้ามไม่ให้สร้างตึกสูงๆ ด้วยเหตุนี้เมอคิวรี่ทาวเวอร์สูงได้เจ็ดชั้นก็คงจะเต็มที่แล้ว
เมืองคุนิตาจิ ผมเคยไปอยู่ตอนเยี่ยมเพื่อนก็รู้สึกว่าเป็นเมืองเล็กๆน่ารักดี แต่ถ้าจะเข้าใจกลางเมืองโตเกียวแถวชินจูกุก็นั่งรถไฟไกลหน่อย
หากใครสนใจจะไปศึกษาต่อสายบริหารที่ญี่ปุ่น มอง ฮิโตะซึบาชิ หรือ มหาวิทยาลัย “หนึ่งสะพาน” นี้ไว้เป็นทางเลือกก็ดีนะครับ
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– ที่มาของคำว่า สุกี้ยากี้
– อดีตนายก 元総理 [โมะโตะโซริ]
– サラリーマン社長 [ซาลารี่มังฉะโจ] ท่านประธานซาลารี่แมน
– บริษัทสีดำ ブラック企業 [บุรัคคุคิเกียว]
– ‘ร้อนแทบตาย” ในภาษาญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพข้อมูล
– https://www.fs.hub.hit-u.ac.jp/about/history/
– https://ja.wikipedia.org/wiki/一橋大学
– https://ja.wikipedia.org/wiki/一ツ橋
– https://kotobank.jp/word/一ツ橋-120350
#มหาวิทยาลัย “หนึ่งสะพาน” ฮิโตะซึบาชิ