โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง by Lordofwar Nick
ครั้งหนึ่งในชีวิตกับมรดกโลก “ปราสาทฮิเมจิ” เดือนมิถุนายน 2006 รูปเยอะจน บก. ร้องไห้หนักมาก (1)
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน คราวนี้จะพาไปเที่ยวปราสาทฮิเมจิ ณ เดือนมิถุนายนปี 2006 ซึ่งอยากจะบอกว่าก่อนที่จะเขียนเนี่ยผมต้องทำใจพอสมควรเพราะว่ารูปมันเยอะมากจนรู้สึกว่าต้องคัด และถึงแม้ว่าจะคัดก็ไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงให้เขียนให้จบในหนึ่งตอน เพราะว่ามาถึงตอนนี้รูปทุกรูปมีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์สำหรับผมทั้งนั้นเลย
อย่างที่ได้เคยเกริ่นไว้แล้วว่าในปี 2006 เนี่ยผมมีโอกาสได้เที่ยวเยอะไม่ใช่หาเรื่องเที่ยวเยอะเพราะว่ารู้ตัวว่าเป็นปีสุดท้ายที่จะอยู่ญี่ปุ่นแล้ว และตอนนั้นก็คิดว่าไปแล้วก็ไม่รู้จะได้กลับมาอีกหรือเปล่า บวกกับการที่ว่าพอดีตอนช่วงนั้นทางสาขาวิชาภาษาไทยของมหาลัยผม เขาจ้างอาจารย์คนไทยมาเป็นอาจารย์ตามสัญญาจ้างชั่วคราวเพื่อมาสอนนักเรียนวิชาเอกภาษาไทย ซึ่งก็ได้มีโอกาสรู้จักพูดคุยกันอาจารย์แกก็เลยวานให้ผมเป็นไกด์ + ล่ามพาเที่ยวหน่อย ซึ่งด้วยการนี้ผมก็เลยถือโอกาสได้ไปเที่ยวปราสาทฮิเมจิด้วย
ซึ่งการเดินทางไปจากโอซาก้านั้นต้องบอกตรงๆ ว่าใช้เวลาค่อนข้างเยอะ เพราะก่อนอื่นจะต้องหาทางต่อรถเมล์นั่งรถไฟมาให้ถึงชุมทางรถไฟที่อุเมะดะเสียก่อน แล้วนั่งรถไฟ JR Kobe Line ลงที่สถานีฮิเมจิแล้วเดินเอาจนถึงปราสาท
ในสถานีจะเห็นป้ายโปรโมทปราสาทฮิเมจิเป็นสง่า
โผล่มาบนพื้นดินก็เห็นรถเมล์
รถเมล์ CNG ดีต่อสิ่งแวดล้อมนะจ๊ะ
นั่น เห็นแล้วปราสาท อยู่ไกลๆ
เข้ามาในเขาศาลเจ้าซะงั้น
ผมค้นจากในกูเกิล ทำให้รู้ว่าที่นี่คือศาลเจ้าฮิเมะจิโกะโคคุ 姫路護国神社
โอ้ว มีพัดลมคู่ด้วย (ฮา)
มองไป คูน้ำอันงาม
ไปทางไหนบ้าง
ถนนโล่งดีแท้
ทางเข้าประตู ดูไกลลิบ
ใกล้แล้ว
เสาประตูทิศตะวันตกของเดิม
แผนที่เขตปราสาท
ร้านขายของที่ระลึก?
ใกล้เข้าไปอีก
อาคารขายตั๋ว และเครื่องขายตั๋วเข้าชมปราสาท
เคาน์เตอร์ขายตั๋วก็มี
ตู้ล็อกเกอร์
เข้าเขตปราสาทแล้วจ้า
ป้ายแนะนำเส้นทางในเขตปราสาท สุดจะเก่า
ป้ายนี้ดูแล้วขลัง “สมบัติของชาติ ปราสาทฮิเมจิ” (国寶姫路城) คำว่า โฮ (寶 สมบัติ) ยังใช้ตัวคันจิรุ่นเก่าก่อนสงครามอยู่เลย
ยังต้องไปต่อ
ยังมีป้ายแผนที่อีก
เดินเลียบกำแพงไป
เอ๊ะ นี่อะไร?
อ่อ ช่องสี่เหลี่ยมที่กำแพง
พี่ขา ยังไม่ถึงตัวปราสาทอีกเหรอคะ
ไม่มีไรครับ “ถังน้ำไว้ดับเพลิง”
ทางสู่ระเบียงปราสาท
น่ารักน่ามองดี
ให้ความรู้สึกย้อนยุคดี
ซุ้มขายน้ำจ้า
มีบันได ชวนให้ขึ้นไป
บรรดาของที่ระลึกป๊อกแป๊กไว้ให้นักท่องเที่ยวซื้อหา เอาจริงๆ ผมก็ซื้อรูปจำลองปราสาทฮิเมจิมาหนึ่งอัน ยังเก็บไว้ในตู้โชว์ที่บ้านเมียจนถึงทุกวันนี้ (ฮา)
อะไร ถ่ายมาทำไมเนี่ย?
กล้าเข้าไหม?
อ่า ที่นี่คือ “กำแพงทิศตะวันตก” เราจะเข้าไปให้ถึงตัวปราสาทจากจุดนี้
…….?
เอ้า ขอเชิญเข้าปราสาท อย่าลืมถอดเกือกของท่านแล้วใส่รองเท้าแตะที่เขาเตรียมไว้นะครับ
ห้ามย่ำเข้ามาทั้งรองเท้านะครับ เอารองเท้าใส่ถุงพลาสติคถือไปด้วย จากนี้ไปเราจะเลาะห้องภายในกำแพงตะวันตกเข้าไปยังตัวปราสาทนะครับ
โอ้ย ขึ้นๆ ลงๆ
แหม่ ได้บรรยากาศ เก่า ปน สยอง ปราสาทฮิเมจินี่ของเก่าจริงๆ เก่าระดับมรดกโลกนะครับ ไม่ใช่ปราสาทมีลิฟท์แบบปราสาทโอซาก้า เพราะฉะนั้น บรื๋วววว
ให้อยู่ตรงนี้คนเดียวมืดๆ ขอคิดดูก่อนนะ
มองไป โน่น ตัวปราสาทอยู่โน่น
ฟิ้วว
โอ้โฮ ประตูฉุกเฉิน
“บันไดมันแคบ อันตราย โปรดระวัง” ทำไม่บันไดต้องแคบ เดี๋ยวผมจะอธิบายอีกที
“ช่องหย่อนหิน” เอาไว้เวลาศัตรูประชิดกำแพงเมือง ก็เอาหินหย่อนใส่บ้าง เทน้ำร้อนลงไปบ้าง เอาหอกแทงเอาปืนยิงบ้าง ครับ
บันไดต่างๆ ที่เล็กแคบ ทำให้รู้ว่าคนญี่ปุ่นโบราณต้องตัวเตี้ยเล็กมากๆ สูงไม่น่าเกิน 150 ซม. พอพูดเรื่องคนญี่ปุ่นตัวเตี้ย ทำให้ผมนึกได้ว่า วิชาดาบอิไอที่เน้นท่าหมุนตัวตอนนั่ง ตอนชันเข่าอะไรเนี่ย มันเป็นวิชาสำหรับคนตัวเตี้ยเล็ก เราคนสมัยนี้ฝึกนี่ เป็นอะไรที่ทำร้ายหัวเข่านะครับ เลยต้องใส่สนับเข่าคล้ายๆ ที่นักวอลเลย์บอลเขาใส่กัน
เดินไปๆ โอว
ตรงนี้เขาบูรณะใหม่หรือเปล่า ดูสดใสต๊ะติ๊งโหน่ง
ตรงนี้ดูๆ ไปคล้ายจะเป็นห้องหับไว้นั่งได้ มีไว้ทำไมหนอ?
บางมุมก็มืดดีเหลือเกิน
บันไดเยอะดีมีมาเรื่อยๆ
เห้อ คนมือบอนมีอยู่ทุกที่ทั่วโลก (เกรงใจกันหน่อย)
อธิบายส่วนทางเดินห้องในกำแพงทิศตะวันตก
บรรยายชีวิต “นางใน”
เราจะเข้าสู่ “ห้องโถงนางใน”
บรรยายเรื่อง “องค์หญิงเซ็น” (千姫)
นี่คือภาพจำลองชีวิตผู้หญิงในปราสาท
ยศฐาบรรดาศักดิ์ดูได้จากการแต่งกาย
เดินลง มืดตื๋อ
ยังไม่ถึงปราสาทอีกเหรอ?
เดินไป เดินไป
มุมของปราสาท
โอย จะเดินไปไหน
โห
เหมือนจะใกล้ ทำไมไม่ถึงสักที
ก้มๆ หน่อย ระวังศีรษะ
ที่ไหนเนี่ย จะเข้าตัวปราสาทหรือยัง
ยังอีกเหรอ?
นี่คือบรรดาตราประจำตระกูลของตระกูลทั้งหลายที่เคยได้เข้าครองปราสาทนี้ ดูดีๆ มีตราตระกูลโทโยโทมิ ด้วยนะครับ
ในที่สุดปราการใหญ่ก็มาตระหง่านง้ำค้ำคอเราแล้ว
ใหญ่โตโอฬารเหลือจะกล่าว
เดินตามเขาไป
อะไรเนี่ย?
ท่านผู้อ่านครับ ตอนนี้ผมเหนื่อยแล้วครับ (ฮา) มันยิ่งใหญ่ซะขนาดนี้ ขนาดยังไม่เข้าไปในตัวปราการใหญ่เลยนะครับเนี่ย ขอบอกว่าเข้าไปข้างในมีของชวนว้าวกว่านี้อีก เอาเป็นว่าขอให้ท่านผู้อ่านอดใจรอชมรออ่านกันอีกทีในตอนหน้านะครับ
เรื่องแนะนำ :
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (3) เรียนรู้การ “ทะลวงชีวิต” เมื่อพบกับ “วิกฤติวัยกลางคน”
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (2) “ฮิชิเรียว” 非思量 เมื่อการ “ไม่หยุดคิด” คือทางรอด
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (1) “จนกว่าโยมจะตายน่ะแหล่ะ”
– เหตุต้น ผลกรรม ที่ทำให้ผมต้องมาเรียนที่ญี่ปุ่น (2) หนังสือ “ไวยากรณ์ญี่ปุ่นเบื้องต้น” ของอาจารย์สุเทพ น้อมสวัสดิ์
– เหตุต้น ผลกรรม ที่ทำให้ผมต้องมาเรียนที่ญี่ปุ่น (1) หนังสือ “มวยจีนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ของอาจารย์สุวินัย
– ยามว่าง เดินชมบ้านแถวโอโนฮาระ แล้วไปต่อคิตะเซ็นริ ต่อด้วยเซ็นริจูโอ (เอาให้จบ)
#ครั้งหนึ่งในชีวิตกับมรดกโลก “ปราสาทฮิเมจิ” เดือนมิถุนายน 2006 รูปเยอะจน บก. ร้องไห้หนักมาก (1)