ชวนอ่าน : GYAKU SOCRATES โสกราตีส สลับขั้ว
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า โสกราตีส สลับขั้ว เล่มนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวของอคติค่ะ และที่สำคัญอคติส่วนใหญ่นั้นมักมาจากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะครูบาอาจารย์ และคนที่จะมาล้างอคตินั้น ก็คือเหล่าเด็กนักเรียนชั้นประถม (ล้างได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะบางทีอคติก็มากเกินกว่าจะทำให้หายไปได้ง่ายๆ) ผ่านเรื่องสั้นจำนวน 5 เรื่องที่อ่านได้แบบเพลินๆ แต่แทรกข้อคิดไว้มากมาย
เรื่องราวที่อ่าน ทำให้นึกย้อนถึงวัยเด็ก
แน่นอนว่าสมัยประถม เราได้เจอทั้งครูที่ใจดีคอยใส่ใจเด็ก ครูสุดโหดที่เด็กต่างขยาด เพื่อนสนิทที่มักทำเรื่องราวต่างๆด้วยกัน เพื่อนร่วมห้องซึ่งมีทั้งคนที่โดดเด่นและมีอิทธิพลกับคนอื่น คนประเภทกลางๆที่ไม่เด่นแต่ไม่ถูกลืม และคนที่ไม่โดดซึ่งมักถูกรังแก หรือแทบไม่มีตัวตนในสายตาครูและเพื่อนๆ อยู่เสมอ
เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ จึงทำให้เราเหมือนย้อนกลับไปวัยเด็กอีกครั้ง และกลับไปคิดว่าสมัยนั้นเราเป็นเด็กอย่างไร ดีกับเพื่อนหรือเป็นฝ่ายรังแกเพื่อน เราเป็นคนแบบไหนในสายตาของเพื่อนและครูกันแน่
อคติของครู ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จของเด็ก
เรื่องแรกของหนังสือเล่มนี้ว่าด้วยความอคติของครูท่านหนึ่งต่อเด็กชายที่ไม่มีความโดดเด่นในชั้นเรียน ใครจะเชื่อว่าการกระทำต่างๆที่ครูปฏิบัติกับเด็กคนนี้ สะท้อนต่อการพฤติกรรมและศักยภาพของเด็กชายได้อย่างมหาศาล
“ผมไม่ขอให้ครูตั้งความหวังกับเด็กทุกคนหรอก แต่โดนตัดสินว่าไม่ได้เรื่องมันอึดอัดนะครับ”
และด้วยอคติเหล่านี้ทำให้เด็กชั้นประถมกลุ่มหนึ่งต้องการที่จะลบล้างอคติที่ว่านี้ด้วย ‘กลยุทธ์พลิกอคติ’
“เราจะสอนให้เขารู้ซึ้งว่าอคติของตัวเองคลุมเครือแค่ไหน ถ้าไปได้สวยครูคุรุเมะอาจตระหนักเหมือนโสกราตีสเลยก็ได้”
แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว แผนการของเหล่าเด็กประถมกลุ่มนี้จะไม่สามารถลบล้างอคติได้ 100% แต่ว่าก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเด็กชายคนหนึ่งที่ขาดความมั่นใจได้ในที่สุด
การกลั่นแกล้งในโรงเรียนเกิดขึ้นเสมอ และไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ
ปัญหาเรื่องการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในทุกสังคม และแก้ไขได้ไม่จบสิ้นสักที ในทุกๆวัน จะมีเด็กที่ถูกแกล้งจากเพื่อนอยู่เสมอ บางครั้งก็ร้ายแรงจนนำไปสู่การฆ่าตัวตายของเหยื่อเลยทีเดียว
“คนอ่อนแอมีชะตากรรมแบบนั้นเสมอ”
“มีเด็กที่โดนรังแกจนย้ายโรงเรียนมาด้วยแหละครับ”
“ทำไมถึงมีการรังแกเกิดขึ้นล่ะครับ” “เด็กที่ชอบรังแกคนอื่นน่ะอภัยให้ไม่ได้”
“เหตุผลที่โดนรังแกน่ะ ไม่มีหรอก แต่คนที่โดนรังแกทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดกลับมีอยู่มากมาย”
หนังสือเล่มนี้แม้ว่าจะไม่เล่าไปถึงจุดที่โหดร้ายขนาดนั้น แต่ก็ยังสะท้อนว่าการกลั่นแกล้งกันของผู้ที่มีอิทธิพลกับผู้ที่อ่อนแอยังมีอยู่ แต่ในทางกลับกันใจความของเรื่องสั้นเรื่องที่สองยังสะท้อนให้เห็นถึงใจเขาใจเรา และการให้โอกาสเพื่อเริ่มต้นใหม่ซึ่งถือเป็นการลบอคติรูปแบบหนึ่งอีกด้วย
“ถ้าเขาย้ายโรงเรียนมาเพื่อเริ่มต้นใหม่ พวกเธอไม่อยากให้เขาเริ่มต้นใหม่หรือ”
อย่าตัดสินคนจากภายนอก
หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่ตัดสินคนอื่นจากภายนอกเลยทีเดียว เพราะจริงๆแล้วเราไม่มีทางรู้หรอกว่าเหตุผลของการกระทำของคนคนหนึ่งนั้นเกิดจากอะไร และเขาเคยประสบพบเจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง ถึงทำให้เกิดพฤติกรรมอย่างที่แสดงออกมา เหมือนอย่างเรื่องที่สามของหนังสือเล่มนี้ ที่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวต่างๆนั้นมีที่มา และสิ่งที่เราคิดตอนแรกก็อาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ (เรื่องที่สามออกจะแตกต่างหน่อย เพราะว่าคนที่มีอคตินั้นไม่ใช่ครู แต่กลับเป็นนักเรียน)
ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกเสมอไป
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นการตะคอก การดุด่า การทำโทษ เพื่อให้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเชื่อฟัง เด็กนักเรียนในสมัยก่อนถูกสั่งสอนมาในรูปแบบของการลงโทษด้วยถ้อยคำวาจาและการตีเพื่อให้เกิดการจดจำ แม้ปัจจุบันการลงโทษด้วยวิธีการเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องต้องห้ามในทุกโรงเรียน แต่บางครั้งก็ยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งจริงๆแล้ว ความรุนแรงนั้นไม่ใช่คำตอบสำหรับการแก้ปัญหาเสมอไป
“คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ไม่รู้วิธีสอนเด็กประถมนอกจากยื่นหน้าตะคอกใกล้ๆเนี่ย น่าอายเนอะ”
“ถ้าอยากให้เด็กตั้งใจ ก็ควรตำหนิให้ถูกวิธี หนักแน่นแต่ไม่ใช้อารมณ์ ไม่จำเป็นต้องบั่นทอนความเคารพตัวเองของอีกฝ่าย ประจาน หรือทำให้หวาดกลัว”
“การตะโกนดุด่าด้วยคำพูดนามธรรมเป็นวิธีของเผด็จการน่ะ”
แต่ควรสร้างความมั่นใจให้กับเด็กและให้เด็กกล้าลอง กล้าเรียนรู้ด้วยตนเองต่างหาก
“เพียงแต่ ถ้าอยู่ในการแข่ง แล้วเชื่อมั่นว่าการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปจะเปลี่ยนกระแสของเกมได้ ก็ลองทำดูซะ นั่นไม่ใช่การเสี่ยงโชค แต่เป็นการท้าทาย การแข่งขันไม่ได้มีเพื่อครูหรือพ่อแม่ แต่เป็นของพวกเธอ การท้าทายในชีวิตของตนเป็นสิทธิ์ของตัวเองนะ”
แม้หนังสือเล่มนี้จะมีเด็กประถมเป็นตัวละครหลักแต่เรื่องราวข้างในกลับสะท้อนและสั่งสอนคนวัยผู้ใหญ่อย่างเราได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังมองหาหนังสือที่อ่านง่ายแต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด ก็อย่าลืมลองหา โสกราตีส สลับขั้ว มาลองอ่านกันดูนะคะ
“ชีวิตน่ะยากเย็นมาก แม้แต่ผู้ใหญ่ยังไม่รู้คำตอบที่ถูกต้องเลย แค่มีชีวิตไปตามปกติก็เป็นเรื่องยากมหันต์แล้ว ไม่มีโหมดอีซี่เหมือนเกมหรอกนะ ทั้งที่เป็นอย่างนั้น คนที่ชอบดูถูกหรือรังแกคนอื่นยังจะทำให้มันยากยิ่งขึ้นไปอีก เราไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าเรื่องนั้นจะแดงออกมาเมื่อไหร่ใช่ไหมล่ะ แล้วทำไมถึงเลือกเล่นโหมดฮาร์ดกันนะ ถ้ามั่นใจว่าตัวเองจะได้เป็นผู้มีอำนาจยังว่าไปอย่าง แต่คนเราน่ะ อนาคตจะได้พบเจอกับใครที่ไหนในสถานะอะไร ไม่มีใครรู้หรอก คนที่ตัวเองเคยดูถูกอาจกลายมาเป็นลูกค้าในที่ทำงาน หรือคนรู้จักของคู่แต่งงานในอนาคตก็ได้ สมมติถ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเกิดบาดเจ็บสาหัส แต่หมอเจ้าของไข้ในห้องฉุกเฉินเป็นคนที่ตัวเองเคยรังแกในอดีตขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ไม่กลัวเหรอ”
ข้อมูลหนังสือ:
โสกราตีส สลับขั้ว (Gyaku Socrates)
ผู้เขียน : โคทาโร อิซากะ
ผู้แปล : ชุติภัค ฉายวิโรจน์
สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่
เรื่องแนะนำ :
– ICOMA TATAMEL BIKE จักรยานไฟฟ้าพับได้ญี่ปุ่น
– เรื่องของ ‘สีแบบดั้งเดิม’ ของชาวญี่ปุ่น
– ชวนส่อง งานศิลป์แสนละมุนของ Ippan Nakamura
– Bio c’ Bon ซูเปอร์มาร์เก็ตรัก(ษ์)โลก
– ชวนชม HIDARI งานสต๊อปโมชันจากหุ่นไม้สุดเจ๋ง
#ชวนอ่าน : GYAKU SOCRATES โสกราตีส สลับขั้ว