วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
“ฟุโดจิชินเมียวโรคุ” ฉบับสำนักพระราชวัง (2) เอาคมหอกย้อนกลับมาแทงคน
สวัสดีครับพบกันอีกแล้วนะครับ ค่อยๆ แปล ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ย่อยกันนะครับ
ข้อความต้นฉบับ
兵法の上は、無刀のごとく刀を不ㇾ持して吾刀にする事、禪には是を却而把(二)鎗頭(一)倒刺(ㇾ)人ヲ来ㇽと云は、鎗はやりにて候。鎗頭とは鎗のしらは(白刃)を取って却て人をつくと云事也。向から打とも、左右 からうつとも、打人にも太刀にも程拍子にもそつとも心を とめば、手前がぬけて人にきられ可申也。
ในพิชัยสงครามนั้น การไม่ถือดาบดั่งไม่มีดาบ เอามาเป็นดาบของตน ในเซนนั้น ที่เรียกว่า เอาหัวหอกฟันกลับคนล้ม นั้น หอกนั้นคือหอก คำว่าหัวหอกนั้น หมายถึงเอาคมหอกย้อนกลับมาแทงคน แม้จะตีจากอีกด้าน (คือด้านตรงข้าม) ก็ดี แม้จะตีจากซ้ายขวาก็ดี แม้ที่คนตีก็ดี แม้ที่ดาบก็ดี แม้ที่ระดับจังหวะก็ดี หากเอาจิตไปค้างที่มันแม้แต่น้อย ตัวเราจักหลุด อาจโดนคนฟันได้
敵に吾が心 を置けば敵に心を取られ候。我身の内にも、心を一所に 留れば、こころをとられ候。一切に心の留るを佛法にては住地の煩悩とて嫌ひ候也。手にてする所作、目にて見る事、耳にてきく事、よろづ(万)そこそこにとまるを嫌ひ候也。
หากตัวเราเอาจิตไปวางที่ศัตรู ก็จะถูกศัตรูคว้าเอาจิตไป แม้ในกายของตน หากค้างจิตไว้ ณ (ที่ใด) ที่หนึ่ง จิตก็จะถูกคว้าเอาไป ในธรรมะของพุทธเจ้านั้น การเอาจิตไปค้างใดๆ ล้วนคือกิเลสแห่งการอาศัย พึงรังเกียจ การกระทำด้วยมือ การดูด้วยตา การฟังด้วยหู การค้างอยู่ที่ตรงนั้นๆ ไปเยอะแยะมากมาย พึงรังเกียจ
การตีความและอภิปราย
การไม่ติดอยู่กับอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง มองหาโอกาสในที่ใดๆ ได้เสมอ คือกุญแจสำคัญของการเอาตัวรอด
เพราะในโลกนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน และการที่เราจะรับมือกับความไม่แน่นอนให้ได้นั้น เราต้องเตรียมใจให้พร้อม ระวังระไว และไม่คิดไปเองก่อนว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ (เพราะอย่างที่เขียนไว้แล้วในตอนที่แล้วว่า เมื่อเราคิดว่า มันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ก็เหมือน “ปิด” หนทางที่จะคิดถึง “ความเป็นไปได้อื่นๆ” เราจะไม่เห็นในสิ่งที่ควรเห็น ไม่รู้ในสิ่งที่ควรรู้ ซึ่งบางทีมันเกี่ยวพันถึงชีวิต
สิ่งที่ได้ประสบมา
สมัยก่อน มาร์ค โค้ชคนแรกๆ ของผมมักจะบอกเสมอว่าให้ “ขยับไปเรื่อยๆ” อย่าหยุด หากฟังผิวเผินอาจจะนึกว่าเราต้องขยับเป็นวงกว้าง แบบวาดแขนวาดขาอะไรงี้ใช่ไหมครับ แต่เมื่อผมผ่านการโรลมามากขึ้น การขยับไปเรื่อยๆ นี่ มันก็แคบลงเรื่อยๆ (เช่นเอาไหล่หรือหัวดัน หรือโยกหัวหลบ เอาหน้าอกกดแล้วไถลตัว) แม้เราจะโดนทับ โดนขึ้นคร่อม โดนเข้าข้างหลัง ก็ตาม การ “ขยับไปเรื่อยๆ” แม้เพียงน้อยนิด ไม่กี่องศา บางครั้งมันอาจทำให้เรารอดตายได้เลยนะ
เวลาโรลกันในบีเจเจ ให้คิดไว้เลยว่า “ชั่วขณะ” ที่ “ถูกตรึงให้อยู่กับที่” ไม่ว่าจะโดนดึงคอ ดังข้อมือ หรือโดนเอาเท้ายัน อะไรก็เถอะ ถ้าขณะนั้นรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนไหนในร่างกายที่ “ขยับไม่ได้” แล้วล่ะก็ ให้รู้ไว้ว่า “กำลังจะโดน”
วิธีแก้ คือ ถ้าส่วนใดของร่างกายตอนนั้น “โดนตรึง” จนขยับไม่ได้ อย่าลนลาน อย่างดึงดันที่จะเอาตัวเองออกจากแค่ตรงนั้น “ให้ขยับส่วนที่ยังขยับได้” หาทางกู้คืนตำแหน่งของร่างกายตัวเองกลับมาเป็นตำแหน่งที่ไม่ล้ม ไม่ถูกทำให้ล้มหรือโดนกวาดง่ายๆ หรือเปิดช่องแขนขาคอให้เขาซับมิชชั่น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนมาจับคอเสื้อเราแล้วมันแข็งแรงจริงๆ เอาไม่ออก แกะไม่ออก อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาแกะ ทำไรก็ได้ที่จะยื้อเวลาขยับร่างกายให้เข้าจุดสมดุล เช่น คว้าคอเสื้อมันกลับ เอาศอกเรากดทับแขนอีกฝ่ายที่จับเรา
ลองดูนะครับ
ที่เขียนมานี้ ผมเขียนเพื่อ “เตือนตนเอง” ก่อนเป็นอย่างแรก หากท่านใดมาอ่านแล้วเป็นประโยชน์ ก็นับว่าเป็นผลพลอยได้นะครับ
เอาล่ะครับ วันนี้ก็เบาๆ แต่เพียงเท่านี้ก่อน อย่าลืมมาอ่านกันต่อสัปดาห์หน้านะครับ
เรื่องแนะนำ :
– ฟุโดจิชินเมียวโรคุ ฉบับสำนักพระราชวัง (1) ดั่งหินเหล็กไฟดั่งสายฟ้าแลบ
– ฟุโดจิชินเมียวโรคุ ฉบับสำนักพระราชวัง (0) ปูมหลังของหนังสือเล่มนี้
– American Samurai ตอนเด็กดูแล้วประทับใจ แต่พอดูๆ ไป เอ๊ะมันอิหยังวะ?
– เซนกับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู (ตอนพิเศษ) มีภูเขา เราต้องปีน
– เมื่อญี่ปุ่นต้อง “แปลงสาร” ในวิดีโอเกมเพื่อไม่ให้ “ขัดใจฝรั่ง”
#ฟุโดจิชินเมียวโรคุ ฉบับสำนักพระราชวัง (2) เอาคมหอกย้อนกลับมาแทงคน