เรื่องสั้น ครอบครัวในเมืองไกล
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
“นายแน่ใจแล้วหรือ”
เสียงของมิตรสหาย กล่าวถามผม
“ใช่แล้วแหละ” ผมกล่าวตอบไปในทันที แทบจะไม่ได้หยุดคิด คำตอบนั้นมีอยู่ในใจเป็นแน่แท้
ผมออกเดินทางจากป่าเขาลำเนาไพรที่ผมอยู่ ไปสู่เมืองใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ทุกอย่างนั้นดูมืดมนเหลือเกิน ผู้คนต่างแก่งแย่งชิงดี แลความยุติธรรมนั้นแทบจะหามีไม่
เมื่อรู้สึกแบบนั้น ผมจึงตัดสินใจออกเดินทางไปยังเมืองใหม่อีกเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ในแดนไกล
ที่แห่งนั้นเป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางตะวันตกของเกาะญี่ปุ่น ที่นี่มีแต่ทุ่งนา ท่าเรือ แมวเหมียว และมีห้องเช่าเก่าๆ หลังหนึ่งที่ผมไปอาศัยอยู่
ผมกัดกินก้อนโอะนิกิริ เป็นก้อนข้าวปั้นรูปสามเหลี่ยมที่ห่อด้วยสาหร่ายจากทะเล ข้างในนั้นยัดไส้เนื้อยากินิคุ อีกก้อนหนึ่งยัดไส้ปลาทูน่า
มีขนมกูลิโกะที่ผมซื้อมา ชื่อ “ชีซ่า” เป็นขนมแครกเกอร์เล็กๆ ที่โรยด้วยชีส เรียกว่า “ชีซ่า” มีทั้งแบบเชดดาชีส และ กามองแบร์ชีส รสชาติอร่อยเหมาะกับการกินเป็นกับแกล้มเคล้าเบียร์ตามคำโฆษณาเชิญชวนที่ติดไว้บนหน้าฉลากสินค้า
ผมรินโค้กจากกระป๋องสู่แก้วมักที่ใส่น้ำแข็ง เสียงซ่าจากโซดานั้นกลืนหายไปในกระเพาะอาหาร เสียงแห่งความผิดหวังนั้นเลือนหายไปในจิตใจ
ผมเปิดมือถือไอโฟน และกดวิดีโอคอลไปหาเพื่อนของผมที่อยู่แดนไกล
เพื่อนผมรับสาย และเป็นมันที่กล่าวทักทายเป็นคำแรก ก่อนที่ผมจะได้อ้าปากเอ่ยเสียงออกมาด้วยซ้ำ
“…หนาวไหมที่โน่น”
เดือนสิงหาคมนั้นห่างไกลเกินกว่าที่จะเรียกว่าหนาวได้ เป็นกึ่งกลางฤดูร้อนแสนหฤโหดในเมืองนี้
“ร้อนได้ที่เลยล่ะ”
มิตรสหายจุดบุหรี่สูบ ควันสีขาวที่ล่องลอยออกมานั้นแทบจะทำให้ผมสำลักผ่านมายังจอมือถือในฟากฝั่งที่ผมอยู่บนเกาะแห่งนี้
“เมื่อไรนายจะมาที่นี่ล่ะ” ผมเอ่ยปากถามมิตรสหาย
“ยากเหมือนกัน ไหนจะลูกเมียอีก” เขาหยุดพูดแล้วอัดสูดควันบุหรี่เข้าเต็มสองปอด แล้วถอนหายใจออกมาเป็นควันสีขาว “ยังต้องเตรียมตัวอยู่”
หน้าร้อนในโอซาก้านี้ก็แทบขาดใจ และความรู้สึกต่างๆ ก็เริ่มพรั่งพรูออกมา
“ผมเข้าใจ”
ผมวางหู แล้ววางมือถือลงบนพื้น แล้วนอนลงบนผืนฟลอริ่ง จ้องมองไฟนีออนสีขาวบนเพดาน
ผมหยิบรีโมตแอร์ที่วางไว้ข้างตัว หรี่แอร์ให้เบาลง แล้วหลับตาลง ระลึกถึงบ้านที่จากมา
แม้เทคโนโลยีสื่อสารจะมีอยู่ แต่สิ่งที่เรียกว่าครอบครัวนั้นมันอยู่ที่ไหนกันแน่ ครอบครัวนั้นมันอาจจะไม่ได้เป็นเพียงภาพอีกฝั่งหนึ่งในจอมือถือ ไม่ใช่เสียงที่ออกมาจากลำโพง แต่การมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่สูดร่วมอากาศหายใจเดียวกันนั้น คงเป็นสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว
“คะโซะคุขะ”
“家族か”
“ครอบครัวงั้นหรือ”
“家 いえ [อิเอะ] นั้นแปลว่า บ้าน ส่วน 族 [โซะคุ] นั้นหมายถึง ชนเผ่า เอาเข้าจริง”
ผมเอ่ยปากออกมาเป็นเสียง มีเพียงผมเท่านั้นได้ยินเสียงของผม เหมือนเน้นย้ำกับตัวเองในความว่างเปล่าของห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเงียบงันแห่งนี้
ทักทายพูดคุยกับวสุ ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– 移籍 [อิเซะคิ] ย้ายทีม
– ความคาดหวัง 期待 [คิไท]
– บทระลึก โดราเอมอน ภาคตอนพิเศษ
– なでしこジャパン [นะเดะชิโกะ เจแปน] ตราบใดที่ไม่ล้มเลิกแล้วจะสมหวังดั่งฝัน
– 再生エネルギー [ไซเซเอะเนะรุกี] พลังงานหมุนเวียนบนเกาะญี่ปุ่น
#เรื่องสั้น ครอบครัวในเมืองไกล