เกิดเป็นเอเลี่ยนในญี่ปุ่นนั้นอยู่ยาก: เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยยังคงปฏิเสธไม่ให้ชาวต่างชาติเช่าที่พัก
แม้ว่าตั้งแต่ปี ค. ศ. 2012 เป็นต้นมา ทางญี่ปุ่นจะเปลี่ยนระบบบัตรประชาชนชาวต่างชาติจากระบบ Alien Registration Card (外国人登録証明書) มาเป็นระบบ Residence Card (在留カード) เรียกว่าเปลี่ยนจากโฟกัสที่ภาพลักษณ์ของ ‘ต่างด้าว (Alien)’ มาเน้นที่การอยู่อาศัยคือคำว่า Residence แทน แต่ถึงกระนั้นในใจของชาวญี่ปุ่นจำนวนมากก็ยังคงมองชาวต่างชาติเป็น ‘เอเลี่ยน’ อยู่ดี ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดมากคือการที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากยังคงปฏิเสธไม่ยอมให้ชาวต่างชาติเช่าที่พักอยู่วันยังค่ำ ทำให้การที่ชาวต่างชาติจะต้องหาคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ให้เช่าต้องกลายเป็นเรื่องลำบากยากเย็นไปทั้งที่ไม่น่าจะต้องเป็นเรื่องลำบากอะไรขนาดนั้นเลย โดยจะแบ่งเป็น 2 กรณีดังนี้
1. ชาวต่างชาติทั่ว ๆ ไป
ชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างถาวร ในปัจจุบันมีประมาณ 2.8 ล้าน – 3 ล้านคน แต่ในตัวเองนี้มีชาวเกาหลีโพ้นทะเลผสมอยู่ราว 4 แสนคน และ ชาวจีนโพ้นทะเลผสมอยู่ราว 7 แสนคน ซึ่งจะกล่าวในกรณีต่อไปด้านล่าง ดังนั้นชาวต่างชาติที่เป็นต่างชาติจริง ๆ และอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นระยะยาวระดับ 90 วันขึ้นไปจนถึงหลายปีก็จะมีประมาณเกือบ ๆ 2 ล้านจนถึง 2 ล้านต้น ๆ โดยประมาณ
ชาวต่างชาติทั้งนักศึกษาและคนทำงาน แม้จะมีแหล่งรายได้แน่นอน บางคนทำงานระดับสูงมีเงินเดือนดี มีงานการมั่นคง แต่เมื่อต้องหาที่พัก ก็ยังคงมีชาวต่างชาติประมาณ 40% ของชาวต่างชาติทั้งหมดในญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ถูกปฏิเสธไม่ให้เช่าที่พักโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน เนื่องจากเหตุผลคือ ‘ไม่ให้คนต่างชาติเช่า’ ซึ่งก็ไม่ได้ฟังดูเป็นเหตุผลเท่าไรนัก
จากผลสำรวจและสัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของอสังริมทรัพย์ ส่วนใหญ่เปิดเผยเหตุผลอย่างละเอียด คือแต่ละคนมีความกังวลแตกต่างกันไป เช่น กลัวจะสื่อสารกับคนต่างชาติไม่รู้เรื่อง, ชาวต่างชาติมักมีพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ของสังคมญี่ปุ่นเช่นทำเสียงหนวกหูกลางดึก หรือสูบบุหรี่ที่ระเบียงทำให้ควันบุหรี่ไปรบกวนชาวบ้าน, ชาวต่างชาติมักไม่ดูแลห้องพักดีเท่าคนญี่ปุ่นทำให้ห้องเสื่อมสภาพอย่างมากเมื่อย้ายออก, ชาวต่างชาติมักไม่เคารพเกณฑ์การแยกขยะของญี่ปุ่นในแต่ละเขต, กลัวชาวต่างชาติหนีกลับประเทศไปแบบไม่จ่ายค่าเช่า ฯลฯ
ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่แต่ละคนมีประสบการณ์ต่างกัน ทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากจึงเลือกป้องกันปัญหาโดยการเหมารวมไม่ให้เอเลี่ยนมันเช่าเสียเลย จึงทำให้ชาวต่างชาติในญี่ปุ่นประมาณ 40% มีประสบการณ์การโดนปฏิเสธการให้เช่า (ผู้เขียนเองก็เคยโดนหลายครั้ง เพราะใช้ชีวิตในญี่ปุ่นถึง 7 ปี) ในบางรายอาจโดนพูดจาดูถูกเหยียดหยามให้เจ็บช้ำน้ำใจเล่นอีกด้วย
2. ชาวไซนิจิ
ชาวไซนิจินั้น หลัก ๆ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
2.1) ไซนิจิ ชูโงะกุจิน (在日中国人): ใช้เรียกรวมชาวจีนโพ้นทะเลที่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างถาวร บางครั้งจะแยกเรียกตามถิ่นฐานก่อนอพยพมาญี่ปุ่นก็มี เช่น เรียก ‘ไซนิจิไทวันจิน’ สำหรับคนที่อพยพจากไต้หวัน และเรียก ‘ไซนิจิชูโงะกุจิน’ สำหรับคนที่อพยพจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยสาเหตุที่มีชาวจีนอพยพมาอยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างถาวรก็เนื่องจากสาเหตุทางประวัติศาสตร์ เช่น สงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสาเหตุทางการเมืองเช่นปัญหาจีน-ไต้หวัน (ผู้เขียนเคยกล่าวถึงไปบ้างใน https://www.marumura.com/nissin-cup-noodle-history/)
2.2) ไซนิจิ โคเรียน (在日コリアン): ใช้เรียกรวมชาวเกาหลีโพ้นทะเลที่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างถาวร บางครั้งแยกเรียกตามถิ่นฐานก่อนอพยพ ถ้าอพยพมาญี่ปุ่นก่อนแยกเกาหลีเหนือ-ใต้ก็จะเรียกว่าเป็น ‘ไซนิจิโชเซ็นจิน’ แต่ถ้าอพยพหลังจากแยกเกาหลีเหนือ-ใต้แล้วก็มักจะอพยพมาจากเกาหลีใต้ (เพราะเกาหลีเหนือปิดประเทศ อพยพออกมายากมาก) ก็จะเรียก ‘ไซนิจิคังโคะคุจิน’ จึงเรียกรวม ๆ ไปเลยว่า ‘ไซนิจิ โคเรียน’ ซึ่งสาเหตุที่มีชาวเกาหลีอพยพมาอยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างถาวรก็เนื่องจากสาเหตุทางประวัติศาสตร์ หลัก ๆ คือเกาหลีถูกญี่ปุ่นยึดเป็นเมืองขึ้นตั้งแต่ ค. ศ. 1910-1945 ทำให้มีการเกณฑ์แรงงานชาวเกาหลีไปทำงานที่ญี่ปุ่น รวมทั้งก่อนหน้านั้นและหลังจากนั้นที่ยังคงมีการเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างเกาหลี-ญี่ปุ่นมาตลอด อย่างที่ทราบว่าเกาหลี-ญี่ปุ่นนั้นมีการติดต่อและมีสัมพันธภาพแบบทั้งรักทั้งแค้นกันมาตลอด ทำให้เกิดคนกลุ่มนี้ที่อาศัยในญี่ปุ่นอย่างถาวรขึ้นมา (ผู้เขียนเคยกล่าวถึงไปบ้างใน https://www.marumura.com/showa-as-japan-golden-age/)
ทั้งไซนิจิชูโงะคุจิน และ ไซนิจิโคเรียน นั้น เทียบไปแล้วจะคล้ายกับชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย เพียงแต่จุดที่ต่างคือประเทศไทยให้สัญชาติไทยง่ายกว่าญี่ปุ่น ทำให้ชาวจีนโพ้นทะเลเมื่อมีลูกหลานเกิดในไทยก็กลายเป็นคนไทยไป เพราะไทยเราดำเนินนโยบาย Assimilation Policy คือ ‘อยู่ใต้ธงไทยนั้นพวกเราทุกคนคือไทย’ ในขณะที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ดำเนินนโยบายแบบนี้ ทำให้ชาวจีนโพ้นทะเล หรือ ชาวเกาหลีโพ้นทะเล ที่เกิดในญี่ปุ่น แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ ก็ยังมีหลายคนที่ขอสัญชาติญี่ปุ่นไม่ได้ ทำให้เกิดสภาพที่ เกิดและโตในญี่ปุ่น แต่ก็ยังคงได้รับการปฏิบัติแบบชาวต่างชาติอยู่ดี ที่น่าเศร้าคือคนพวกนี้ก็จะไม่มีสัญชาติจีนหรือสัญชาติเกาหลีอีกด้วยเนื่องจากสำหรับประเทศแม่ของตัวเองแล้วพวกเขาก็เป็นคนต่างชาติเช่นกัน เพราะเกิดและโตในญี่ปุ่น พูดภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ ทัศนคติต่าง ๆ ก็คล้ายกับเป็นชาวญี่ปุ่นแต่กำเนิด แต่ประเทศแม่ก็ไม่ให้สัญชาติ ญี่ปุ่นก็ไม่ให้สัญชาติอีก กลายเป็นคนไร้สัญชาติไปเลย
กรณีนี้เองที่น่าเคลือบแคลงว่าทำไมเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จึงไม่ยอมให้เช่า ในเมื่อคนกลุ่มนี้จริง ๆ แล้วก็คือคนญี่ปุ่นนั่นเอง พูดภาษาญี่ปุ่นได้เหมือนคนญี่ปุ่นทุกอย่าง, เข้าใจกฎระเบียบของสังคมญี่ปุ่นเป็นอย่างดี, แยกขยะเป็นหมด คือทุกอย่างเหมือนคนญี่ปุ่น เพียงแต่ยังต้องใช้พาสปอร์ตและบัตร Residence Card ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องประสบปัญหาการหาที่อยู่ แบบเดียวกับที่ชาวต่างชาติจริง ๆ ต้องประสบเช่นกัน
แนวโน้มในปัจจุบันและอนาคต
ญี่ปุ่นตระหนักดีถึงปัญหาสังคมสูงอายุและเด็กเกิดน้อยของตัวเอง ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ตระหนักดีว่าต้องการทั้งนักศึกษาและแรงงานจากต่างชาติทุกระดับเพื่อพยุงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไว้ จึงมีความพยายามรณรงค์ในภาครัฐ รวมทั้งความพยายามในภาคธุรกิจ เพื่อทำให้ญี่ปุ่นเปิดรับชาวต่างชาติและอำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น ในแง่การหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อพักอาศัยนั้นก็เริ่มมีหลายบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่เจาะตลาดคนต่างชาติโดยเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติสามารถหาเช่าที่พักอาศัยในญี่ปุ่นได้สะดวกขึ้น เนื่องจากบริษัทนายหน้าเหล่านี้จะช่วยเฟ้นหาเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใจกว้างต่อชาวต่างชาติ, ช่วยเจรจา, ช่วยเป็นตัวกลางระหว่างผู้เช่าชาวต่างชาติและผู้ให้เช่าชาวญี่ปุ่น เป็นต้น
สำหรับคนไทยเองก็มีบริษัทที่ชื่อ ‘Land Housing’ (เว็บไซต์ https://th-lh.com/) ที่เจาะตลาดชาวไทย ทั้งนักศึกษาไทยและคนทำงานชาวไทยที่มีความจำเป็นต้องไปอยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่น สามารถติดต่อบริษัทนี้เพื่อหาที่พักได้ ลดปัญหาการถูกปฏิเสธจากเจ้าของที่พัก และราคาสมเหตุสมผล ไม่ได้ต้องจ่ายหลายชั้นหลายขั้นตอนจนเกินไปนัก โดยพนักงานของบริษัท Land Housing เป็นคนไทยเกือบทั้งหมด และเว็บไซต์รวมทั้งเอกสารทั้งหมดเป็นภาษาไทย เพื่อเจาะตลาดคนไทยโดยเฉพาะ
ก็นับเป็นทิศทางที่ดีขึ้นสำหรับสังคมญี่ปุ่นที่ต้องเปิดกว้างสู่ Global มากขึ้น เพราะญี่ปุ่นต้องเร่งมือเพื่อสร้างสมดุลย์แห่งสถานภาพมหาอำนาจในเอเชียระหว่างจีน, สิงคโปร์, และเกาหลี ให้ดีขึ้น เนื่องจากตอนนี้ญี่ปุ่นเริ่มเสียแชมป์ไปหลายเรื่องมากขึ้นนั่นเอง
ติดตามผลงานเขียนทั้งหมดของวีรยุทธได้ที่ >> https://www.facebook.com/Weerayuths-Ideas
เรื่องแนะนำ :
– CEFR คืออะไร แล้วทำไม JLPT ต้องใช้ CEFR ตั้งแต่ปี ค. ศ. 2025?</spa
– Soft Power และกรุงโรม ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว: มาพิจารณาการพัฒนา Soft Power ของญี่ปุ่นกัน
– คุณค่าของมังงะและอนิเมะในฐานะเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นดีสำหรับบทละครหรือบทภาพยนตร์
– ความแตกต่างระหว่าง ซะเงียว (作業) และ ชิโงะโตะ (仕事): คุณกำลังเข้าใจว่า “กระบวนการ” คือ “งาน” อยู่หรือไม่?
– รีวิวหลักสูตรมังงะและอนิเมะศึกษาของมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทn>
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.relocate.world/articles/buying-abandoned-home-japan
#เกิดเป็นเอเลี่ยนในญี่ปุ่นนั้นอยู่ยาก: เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยยังคงปฏิเสธไม่ให้ชาวต่างชาติ