文明 [บุนเม] อารยธรรม
วันก่อนผมฟังเพลง “ลุงคิดกับหลานชิดชัยและแดนศิวิไลซ์สุดขอบฟ้า” ของ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์
ผมก็เลยนึกถึงคำว่า “ศิวิไลซ์”
อย่างที่ทราบดีกันว่า “ศิวิไลซ์” มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษคำว่า Civilized
และคำนามของคำนี้คือ Civilization
คำว่า Civilization เกี่ยวข้องกับคำในภาษาละติน “Civitas” หรือ “City”
เพราะฉะนั้นแล้ว คำว่า Civilization มักจะเกี่ยวข้องกับ “เมือง” (City)
สำหรับภาษาไทยเรานั้นเราแปลคำว่า Civilization ว่า
“อารยธรรม”
ซึ่งประกอบด้วยคำว่า
อารยะ : เจริญ
ธรรม : คุณงามความดี, ความถูกต้อง, กฎเกณฑ์, หลักประพฤติทางศาสนา
อารยธรรม จึงแปลตรงๆ ได้ว่า “กฎเกณฑ์แห่งความเจริญ” “คุณงามความดีแห่งความเจริญ”
ที่นี้ภาษาญี่ปุ่นคำว่า “อารยธรรม” เขาใช้คำว่า
文明
ぶんめい
[บุนเม]
อายธรรม
文 [บุน] เป็นคันจิที่มีความหมายว่า “วัฒนธรรม” “ความรู้”
明 [เม] เป็นคันจิที่หมายถึง “ความสว่าง”
คำว่า 文明 [บุนเม] นี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในช่วงสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912 หรือ พ.ศ. 2411 – 2455) เป็นช่วงที่อารยธรรมจากตะวันตกเริ่มเข้ามาในญี่ปุ่น ทำให้ระบบและประเพณีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ในช่วงสมัยเมจิตอนต้นนั้นคำว่า 文明 [บุนเม] นั้นจะมีกลิ่นอายของ “ค่านิยมฝั่งตะวันตก”
แต่พอมาเป็นช่วงสมัยเมจิตอนปลายคำๆ นี้ถูกเพื่อแบ่งแยกระหว่าง “อารยธรรมตะวันตก” และ“อารยธรรมตะวันออก”
คนที่ประดิษฐ์คำว่า 文明 [บุนเม] คือฟุคุซะวะ ยุคิจิ (福澤 諭吉: ふくざわ ゆきち) ซึ่งหลายคนน่าจะเคยเห็นหน้าเขากันมาแล้วจากรูปข้างล่าง
ใช่แล้วครับ เขาเป็นคนที่อยู่ธนบัตรหนึ่งหมื่นเยนของญี่ปุ่น เป็นนักเขียน อาจารย์ นักแปล ผู้ประกอบการนักข่าว และ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคโอ
สำหรับองค์ประกอบของ “อารยธรรม” 文明 [บุนเม] นั้นแบ่งได้ดังนี้ตามคำจำกัดความของ Vere Gordon Childe (ค.ศ. 1892 – 1957) นักโบราณคดีชาวออสเตรเลีย
ความสามารถในการผลิตอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประชากรจำนวนมาก
อาชีพและการแบ่งชนชั้นทางสังคม
เมือง
เทคนิคในการทำโลหะ
ระบบการเขียน
สิ่งก่อสร้างสาธารณะที่ระลึก (ยกตัวอย่างเช่น ปิรามิด)
การพัฒนาทางตรรกะและวิทยาศาสตร์
สไตล์ศิลปะที่เด่นเป็นของตัวเอง
ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้อาจจะเหมาะสมกับช่วงเวลาที่ Vere Gordon Childe ยังคงมีชีวิตอยู่
เมื่อมองกลับมาที่ญี่ปุ่น การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของช่วงสมัยเมจินี้ได้แก่
ระบบเกณฑ์ทหาร, รถไฟ, โทรเลข, ไปรษณีย์, เรือไอน้ำ, อาคารสไตล์ยุโรป, อาคารอิฐ, เสาตะเกียงไฟ, โรงงานทอผ้า, การประกาศบังคับเป็นหน้าที่ที่ต้องมีนามสกุล, การไว้ทรงผมสไตล์ตะวันตก, การประกาศห้ามคนธรรมดาพกพาดาบ, เครื่องแบบทหาร, เครื่องแต่งกายสไตล์ตะวันตก, กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น (Randoseru), หนังสือพิมพ์, การใช้ปีคริสตศักราช
รูปภาพในโตเกียว ตรงถนนในกินซ่า เราจะเห็นรถม้าลากบนราง และ เห็นอาคารอิฐ ภาพนี้วาดโดยศิลปิน อุตะกะวะ ฮิโระชิเกะ รุ่นที่สาม
เขียนมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนก็ทราบกันแล้วว่า อารยธรรม ในภาษาญี่ปุ่นเขาใช้คำว่า 文明 [บุนเม] และความเปลี่ยนแปลงการรับเอาอารยธรรมตะวันตกในช่วงยุคสมัยเมจิ
เมื่อมองกลับมาที่คำว่า 文明 [บุนเม] ที่พอจะแปลตรงๆ ได้ว่า
“แสงสว่างแห่งวัฒนธรรม”
“แสงสว่างแห่งความรู้”
ก็เป็นการแปลที่ดีคำหนึ่งครับ
ทักทายพูดคุยกับวสุ ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– ความเรียงเรื่องอาจารย์อารากิ
– เกี่ยวกับชื่อภาษาญี่ปุ่นของ “ดาบพิฆาตอสูร”
– 動物農場 [โดบุซึโนโจ] Animal Farm ที่ผู้กำกับ Ghibli ได้รับอิทธิพลจากอนิเมชั่น
– สงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่สอง : ภาพรวม
– สงครามจีนญี่ปุ่นครั้งที่สอง : รากศัพท์
อ้างอิง
– https://ja.wikipedia.org/wiki/文明開化
– https://ja.wikipedia.org/wiki/文明
#文明 [บุนเม] อารยธรรม