สงครามโบะชิน : กลุ่มอำนาจเก่าโชกุน vs กลุ่มรัฐบาลรูปแบบใหม่
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
สงครามโบะชิน (戊辰戦争:โบะชินเซนโซ) เป็นสงครามระหว่างกลุ่มรัฐบาลบะคุฟุของโชกุนที่ปะทะกับกลุ่มรัฐบาลใหม่ ซึ่งสงครามเกิดขึ้นที่โน่นที่นี่ในญี่ปุ่น เริ่มต้นจากการต่อสู้ที่เกียวโตะ ณ สถานที่ที่เรียกว่า โทบะ ฟุชิมิ และสงครามไปสิ้นสุดที่ฮะโคะดะเทะ ซึ่งสงครามนี้กองทัพฝั่งรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนโดยแคว้นซะซึมะกับแคว้นโจชูที่มีอุดมการณ์ตั้งใจจะกำจัดรัฐบาลโชกุนมาตลอด
สาเหตุที่สงครามนี้ถูกเรียกว่า “โบะชิน” เพราะว่าปีที่สงครามนี้เกิดขึ้นอยู่ในช่วงปีค.ศ. 1868 ที่เป็นปีเมจิที่ 1 และตรงกับปี earth dragon ของแผนภูมิสวรรค์ (sexagenary cycle)
Earth dragon เป็นการจับคู่ระหว่างปีมะโรงของระบบสิบสองนักษัตร และ ปีดินข้างหยาง ซึ่งปี Earth dragon นี้เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า โบะชิน (戊辰)
โดยที่ 戊 [ซึจิโนะเอะ] หมายถึง ปีดินข้างหยาง
และ 辰[ทะซึ] หมายถึง ปีมะโรง
ด้วยเหตุนี้สงครามเกิดขึ้นในปีโบะชิน (戊辰) เลยถูกเรียกว่า สงครามโบะชิน (戊辰戦争:โบะชินเซนโซ)
จุดเริ่มต้นของสงครามโบะชินนั้นเริ่มจากเหตุการณ์ในเดือนพฤศจิกายนปีค.ศ. 1867 ที่มีการถวายคืนอำนาจจากรัฐบาลบะคุฟุเก่าของโตะคุกะวะ โยะชิโนะบุ กลับไปยังราชสำนักและจักรพรรดิโคเมเทนโน (孝明天皇)
เหตุการณ์ครั้งนี้มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “ไทเซโฮคัง” (大政奉還) ซึ่งแปลคันจิแต่ละตัวได้ตามนี้
大 [ไท] = ใหญ่
政 [เซ] = การเมือง
奉 [โฮ] = เสนอ
還 [คัน] = คืน
“ไทเซโฮคัง” (大政奉還) มีความหมายว่า “ถวายคืนอำนาจทางการเมือง”
ว่ากันว่าการที่โชกุน ณ ตอนนั้น โตะคุกะวะ โยะชิโนะบุ ตัดสินใจถวายคืนอำนาจ เพราะต้องการลงมือก่อนที่จักรพรรดิจะออกคำสั่งกวาดล้างรัฐบาลบะคุฟุ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าต้องการหลีกเลี่ยงสงครามภายใน ถึงอย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้นยังมีความเป็นไปได้ที่ โยะชิโนะบุ จะสามารถกุมอำนาจหลักในรัฐบาลใหม่ได้
แต่ทว่าวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1868 โอคุโบะ โตะชิมิจิ (大久保利通) ไซโก ทะคะโมะริ (西郷隆盛) และ อิวะคุระ โตะโมะมิ (岩倉具視) ได้ทำการรัฐประหารโดยกำหนดรูปแบบรัฐบาลใหม่ที่โยะชิโนะบุไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เรียกว่า
王政復古の大号令
[โอโซฟุคโคะ โนะ ไดโกเร]
ซึ่งคันจิแต่ละตัวนั้นมีความหมายดังนี้
王 [โอ] ราชา
政 [เซ] = การเมือง
復 [ฟุคุ] = ย้อนคืน
古 [โคะ] = เก่า
大 [ได] = ใหญ่
号 [โก] = หมายเลข ลำดับที่
令 [เร] = คำสั่ง
王政復古 [โอเซฟุคโคะ] พอแปลได้ความว่า “การคืนอำนาจดั้งเดิมแด่ราชา”
ส่วนคำว่า
大号令 [ไดโกเร] แปลได้ว่า “ประกาศครั้งใหญ่”
“การประกาศครั้งใหญ่คืนอำนาจดั้งเดิมแด่ราชา” ก่อให้เกิดการสิ้นสุดรูปแบบรัฐบาลบะคุฟุ และเกิดตำแหน่งใหม่ๆ ภายใต้จักรพรรดิ โดยเป็นการปกครองร่วมกันกับแว่นแคว้นที่แข็งแกร่ง แถมด้วยค่ำคืนวันนั้นมีการประชุมสำคัญที่ส่งผลให้เกิดการลาออกจากตำแหน่ง “ไนไดจิน” ของโทคุกะวะ โยะชิโนะบุ และมีการคืนที่ดินบางส่วน
หลังจากการประกาศคืนอำนาจดั้งเดิมแก่ราชา แต่กลุ่มรัฐบาลบะคุฟุเก่าและอำนาจของโยะชิโนะบุยังแข็งแกร่งอยู่ ทำให้แคว้นซะซึมะจึงเลือกที่จะต่อสู้อีกครั้ง โดยให้โรชิของแคว้นซะซึมะบุกโจมตีค่ายทหารของกลุ่มชินโจกุมิ(新徴組)ของแคว้นโชไนที่ประจำอยู่ในกรุงเอะโดะ ทำให้พ่อบ้านคนนึงถูกฆ่าตาย, ด้วยเหตุนี้ฝั่งรัฐบาลเก่าจึงส่งคนไปเผาคฤหาสน์ของแคว้นซะซึมะประจำกรุงเอะโดะ ในวันที่ 19 มกราคม ปีค.ศ. 1868 มีการจับกุมโรชิทั้งหมด 112 คน จนยกระดับเป็นสงครามโบะชินระหว่างกองกำลังทหารของรัฐบาลบะคุฟุเก่าและกำลังทหารของรัฐบาลใหม่
มีเหตุการณ์สำคัญห้าอย่างในสงครามโบะชิน ดังนี้
1. การสู้รบที่โทบะ ฟุชิมิ
การสู้รบที่โทบะ ฟุชิมิ เป็นความพยายามของรัฐบาลบะคุฟุเก่ารวมทั้งแคว้นไคซึและแคว้นคุวะนะที่จะบุกเข้ากรุงเกียวโตะ, ฝั่งรัฐบาลเก่ามีนายทหารทั้งหมด 15,000 นาย ส่วนรัฐบาลใหม่มีนายทหารเพียงแค่ 5,000 นาย แต่ทว่าราชสำนักมองว่าโตะคุกะวะ โยะชิโนะบุ เป็นภัยต่อราชสำนัก กองทหารฝ่ายรัฐบาลใหม่จึงชักธง “นิชิคิ โนะ มิฮะตะ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ พร้อมกับคำโปรยกำกับธงว่า “เหตุผลอยู่ที่พวกเรา” (大義は我らにあり) ซึ่งน่าจะแปลได้ว่า “ความชอบธรรมอยู่ที่พวกเรา” เป็นเหตุให้ทหารฝั่งรัฐบาลเก่าเสียขวัญกำลังใจ รัฐบาลใหม่จึงสามารถพลิกเอาชนะกองกำลังที่มากกว่าของฝั่งรัฐบาลเก่าได้
ตัวอย่างธง นิชิโนะมิฮะตะ (錦の御旗)
2. การเปิดประตูปราสาทเอะโดะโดยไม่เสียเลือด
หลังจากความพ่ายแพ้ที่โทบะ ฟุชิมิ, กลุ่มรัฐบาลเก่าถอยทัพกลับไปยังเอะโดะ และด้วยผลการเจรจาระหว่างอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลเก่าอย่าง คะซึ ไคชู (勝海舟) และฝ่ายรัฐบาลใหม่อย่าง ไซโก ทะคะโมะริ สามารถหลีกเลี่ยงการสู้รบที่ปราสาทเอะโดะ และมอบปราสาทเอะโดะให้กับรัฐบาลใหม่
3. สงครามตะวันออกเฉียงเหนือ
เหล่าแว่นแคว้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร้องขอรัฐบาลใหม่ให้ยกโทษแคว้นไคซึและแคว้นโชไนจากข้อกล่าวหาที่ว่าสองแคว้นนี้เป็นภัยต่อราชสำนัก แต่คำร้องนี้ถูกปฏิเสธ เป็นผลให้เกิดการก่อตั้งพันธมิตรทางทหารที่มีชื่อว่า “โออุเอะซึเรปปังโดเม” (奥羽越列藩同盟) เพื่อที่จะรับมือกับรัฐบาลใหม่ จึงเกิดสงครามภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เรียกในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า [โตโฮะคุเซนโซ] 東北戦争
ชื่อของ “โออุเอะซึเรปปังโดเม” (奥羽越列藩同盟) ประกอบมาจากชื่อของสามประเทศ (เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “คุนิ”= 国 ) อันได้แก่
มุซึโนะคุนิ=陸奥国 หรือเรียกในอีกชื่อว่า “โอชู”=奥州 ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ของจังหวัดฟุคุชิม่า มิยากิ อิวาเตะ อะโอะโมะริ และบางส่วนของอะคิตะ
เดะวะโนะคุนิ=出羽国 หรือเรียกในอีกชื่อว่า “อุชู”=羽州 ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ของจังหวัดยามากาตะ อะคิตะ
เอะจิโกะโนะคุนิ=越後国 หรือเรียกในอีกชื่อว่า “เอชชู”=越州 ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ของจังหวัดนีกาตะ
ชื่อของ “โออุเอะซึเรปปังโดเม” (奥羽越列藩同盟) ประกอบเอาชื่อ “โอชู”=奥州, “อุชู”=羽州, “เอชชู”=越州 มารายร้อยเรียงกัน ส่วนคำว่า [เรปปัง] 列藩 นั้น
列[เระซะ] แปลว่า “เรียง”
ส่วนคำว่า 藩[ฮัง] แปลว่า “แคว้น”
และ 同盟[โดเม] แปลว่า “พันธมิตร”
“โออุเอะซึเรปปังโดเม” (奥羽越列藩同盟) จึงมีความหมายว่า “พันธมิตรที่ประกอบไปด้วยประเทศโอชู, อุชู , เอชชู”
ผลของสงครามตะวันออกเฉียงเหนือส่งผลให้ความเสียหายกว้างไกลไปถึงพื้นที่ทางนั้น
4. สงครามไคซึ
เกิดสงครามที่แคว้นไคซึระหว่างกองกำลังทหารของรัฐบาลใหม่กับพันธมิตร “โออุเอะซึเรปปังโดเม”
แต่ทว่าแคว้นไคซึตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ และเหตุเพลิงไหม้ที่เมืองด้านล่างปราสาททำให้เข้าใจผิดว่าปราสาทวะคะมะซึถูกตีแตกไปแล้ว ทำให้กลุ่มเบียะโคะไท (=白虎隊. แปลตรงตัวว่า “กลุ่มเสือขาว”) ได้ตัดสินใจอัตวินิบาตกรรมหมู่
5. สงครามฮะโคะดะเทะ
กองกำลังของพันธมิตร ”โออุเอะซึเรปปังโดเม” , เอะโนะโมะโตะ ทะเคะอะคิ, ฮิจิคะตะ โตะชิโซ ได้ออกเรือไปยังฮอกไกโด และร้องขอที่จะปกครองฮอกไกโดภายใต้อำนาจจักรพรรดิ แต่ฝั่งรัฐบาลใหม่ไม่ยอมรับจนเกิดการต่อสู้ขึ้นมา, ฮิจิคาตะเสียชีวิตในสมรภูมิ กลุ่มกองกำลังรัฐบาลเก่าถูกปราบปรามกลายเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามโบะชิน
จากบทความที่ผมแปลมา เขียนเอาไว้ว่า ต่อให้เป็นฝ่ายรัฐบาลบะคุฟุเก่า หรือ รัฐบาลใหม่ ต่างก็มีความคิดของตัวเอง แม้นสิ่งที่ทำนั้นเพื่อประเทศชาติเป็นหลัก แต่ความคิดของอีกฝ่ายต่างไม่ได้รับการยอมรับจนเป็นเหตุให้เกิดการต่อสู้ ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองคือ “ฝ่ายถูก”
แล้วเรารู้จากตรงนี้ได้ไหมครับ เป็นคำถามที่กลับมาหาพวกเรา
+++
อภิธานศัพท์และบุคคลในเนื้อหา
โอคุโบะ โตะชิมิจิ (大久保利通) เป็นนักการเมือง และ บุชิ ในช่วงปลายรัฐบาลบะคุฟุจนถึงเมจิตอนต้น
ไซโก ทะคะโมะริ (西郷隆盛:さいごうたかもり) นักการเมือง และ นายทหารในช่วงปลายรัฐบาลบะคุฟุและเมจิตอนต้น
อิวิคุระ โตะโมะมิ (岩倉具視) เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นสูงที่รับใช้ในราชสำนัก และ นักการเมือง
โรชิ (浪士) คือบุชิที่ไม่ได้มีสังกัด มีความหมายเดียวกับ ”โรนิน” (浪人) ความแตกต่างของ โรชิ กับ โรนิน คือ โรชิหมายถึงบุคคลที่มีอาชีพเป็นนักรบ (บุชิ) ส่วนโรนินนั้นรวมถึงบุคคลในอาชีพอื่นๆเช่นเกษตรกร พ่อค้า แม่ลูกด้วย
คะซึไคชู (勝海舟) บุชิในตำแหน่งบะคุนชิน (幕臣:บุชิที่รับใช้โชกุนโดยตรง) นักการเมือง และ ผู้บัญชาการทหารบกคนสุดท้ายของรัฐบาลเอะโดะบะคุฟุ
内大臣 [ไนไดจิน] แปลตรงตัวได้ว่า รัฐมนตรีส่วนใน หน้าที่คอยช่วยเหลือในการปกครองของจักรพรรดิ และงานเอกสารต่างๆ
แคว้นโชไน 庄内藩 [โชไนฮัน] ศูนย์กลางตั้งอยู่ที่เมืองซึรุโอกะ จังหวัดยะมะกะตะ ณ ปัจจุบัน
เอะโนะโมะโตะ ทะเคะอะคิ (榎本武揚) บุชิในสมัยช่วงปลายยุคเอะโดะจนถึงยุคเมจิ, นักการเมือง, นักการฑูต
ฮิจิคะตะ โตะชิโซ (土方歳三:ひじかたとしぞう) เป็นบะคุชิน และรองหัวหน้ากลุ่มชินเซนกุมิ
รูปประกอบโดย WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– เรียวมะ และ การจากไป
– Meiji Restoration (การปฏิรูปเมจิ) กับคำว่า Restore ที่แปลว่า ฟื้นฟู
– ซะกะโมะโตะ เรียวมะ ผู้อยู่เบื้องหลังการฟื้นฟูเมจิ
– ความเคลื่อนไหวการเทิดทูนจักรพรรดิและขับไล่คนนอก
– ภาวะภัยพิบัติและโรคระบาด ก่อนการปฏิรูปเมจิ
อ้างอิง
– https://benesse.jp/contents/history/
– https://www.nippon.com/ja/views/b07203/?pnum=2
#สงครามโบะชิน : กลุ่มอำนาจเก่าโชกุน vs กลุ่มรัฐบาลรูปแบบใหม่