สวัสดีค่า วันนี้เรามาตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่นนอกกระแสหลักกันบ้าง ซึ่งรอบนี้เป็นความชอบส่วนตัวของอิชั้นเองล่ะค่ะ เป็นการตามรอยการ์ตูนดังวัยเด็กของอิชั้นที่ชอบมากเป็นการส่วนตัว นั่นก็คือ BLACK BASS ค่ะ
สวัสดีค่า วันนี้เรามาตามรอยการ์ตูนนอกกระแสหลักกันบ้าง ซึ่งรอบนี้เป็นความชอบส่วนตัวของอิชั้นเองล่ะค่ะ
ตามกำหนดการในการตามรอยรอบนี้ จะไปตกปลาด้วยเหยื่อปลอม เป็นการตามรอยการ์ตูนดังวัยเด็กของอิชั้นที่ชอบมากเป็นการส่วนตัว นั่นก็คือ BLACK BASS การ์ตูนตกปลายุคแรกๆ ที่ตีพิมพ์ในไทย

ซึ่งเป็นการ์ตูนเรื่องแรกจริงๆ ที่ใช้เหยื่อปลอมในการตกปลาในสมัยนั้น
อิชั้นอ่านแล้วแบบว่าชอบมาก คือมันตื่นเต้นตรงที่
“เราเอาของที่คล้ายๆ ของเล่น เอาไปตกปลาได้จริงๆ ”


แล้วปลาในเรื่องก็คือ ปลาแบส หรือถ้าเรียกแบบเข้าใจง่ายๆ ก็ประมาณปลากะพงละกัน
ปลาแบสเป็นปลาปากกว้างเวลาเจอเหยื่อที่เคลื่อนไหวจะเข้าไปชาร์จและอมเหยื่อ (ฮุบ) ในปากทั้งตัว ทำให้เหมาะสมกับการตกด้วยเหยื่อปลอม
อ้อ จริงๆ ปลาแบสไม่ใช่ปลาพื้นถิ่นของญี่ปุ่นนะจ๊ะ เป็นปลาที่ถูกนำเข้ามาขยายพันธุ์เพื่อการตกปลาโดยเฉพาะของญี่ปุ่น ซึ่งตรงนี้วัฒนธรรมบ้านเราบ้านเขาอาจแตกต่างกันในการส่งเสริมหรือขยายพันธุ์ปลานะจ้ะ

ทริปนี้นอกจากตามรอย BLACK BASS ก็ยังมีการ์ตูนตกปลาอื่นๆ อาทิ นักสู้คันเบ็ดจิ๋ว, ซันเป้, นักตกปลาอัจฉริยะนากาเระ, และการ์ตูนแนวตกปลาอีกหลายเรื่อง ดังนั้นเราก็เลยทำการรวมฮิตตามรอยตกปลาในญี่ปุ่นซะเลย
ในช่วงแรกของการหาข้อมูล เนื่องจากชอบการ์ตูนแนวนี้เลยจัดทริปตามรอยเป็นการไปตกปลา ตามสถานที่ต่างๆ แทน ไม่ได้ไปแบบในเรื่องเป๊ะๆ ดังนี้
1. ตกปลาแบบลำธารธรรมชาติ เนื่องจากเป็นทริปภูมิภาคคันไซ จึงเลือกตกปลาในลำธาร ณ เกียวโต
2. ตกปลาในบึงมีชื่อของญี่ปุ่น ซึ่งเราเลือกบึงใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ที่ทะเลสาบบิวะ
3. ตกปลาทะเลริมท่าเรือ เลือกท่าเรือใต้สะพาน แถบโกเบ
ซึ่งตอนที่จัดหัวข้อได้แล้ว ก็แอบหัวเราะในใจ หึหึหึ ทริปนี้ปังแน่นอน
ซึ่งผลสรุปคือ “ปังปิ๊นาศศศ” เรามาตามอ่านกับไปเรื่อยๆได้เลยว่า มันปัง (พัง) ได้อย่างไร?
ในส่วนของการตามรอยครั้งนี้ เราจำเป็นต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ก่อน

เฮ้ย จะไปแบบจัดเต็มแบบนี้ไม่ไหวสิ มันต้องจัดอุปกรณ์ให้พอดีกับการเดินทาง

เริ่มที่เหยื่อก่อน ในส่วนของเหยื่อปลอมส่วนตัวเราสะสมและใช้อยู่แล้ว ก็เลือกตามการ์ตูนเลย สปินเนอร์เบท แคล้งเบท เพนซินเบท พวกทอปวอเตอร์ อันนี้ไม่ได้เลือกตามประสบการณ์หรือฝีมือเลย เลือกตามการ์ตูนทั้งนั้น
ถัดมาเจอปัญหาใหม่ เนื่องจากคันเบ็ดที่มี 4 คัน คันที่เหมาะสมที่สุดกับการตีเหยื่อปลอมมีความยาว ราว 1.8 เมตร จับถอดเป็น 2 ท่อนก็ยังยาวราวๆ 90 เซนติเมตร เลยทำการสอบถามสายการบินที่เราซื้อตั๋ว ได้รับคำตอบว่าต้องถือว่าเป็นอุปกรณ์กีฬาค่ะ โดยทางสายการบิน…….. ขอแจ้งราคาค่านำไปและนำกลับ เป็นราคานี้ค่ะ
ซึ่งราคานำไปและกลับสามารถซื้อคันใหม่ได้สบาย เลยเกิดอาการงก ลองไปปรึกษาเจ้าของร้านตกปลาแถวบ้าน เฮียแนะนำให้ไปซื้อที่ญี่ปุ่นเลย มีให้เลือกเยอะด้วย แต่เราก็คิดถึงเรื่องซื้อแล้วขากลับก็เสียเงินเพิ่มอยู่ดี และที่สำคัญในการเดินทางที่วางไว้คือ เราเดินทางออกเช้าและค่ำกลับที่พักในรูปแบบเฝ้าฐานทัพ คือไม่ได้ตะลอนไปทีละจังหวัด ดังนั้นการพกคันเบ็ดยาวเดินทางมันค่อนข้างลำบาก ก็เลยลองหาทางเลือกอื่นและพบว่า มันมีสิ่งที่เรียกว่า “คันเบ็ดยืดหดได้”

หลังจากลองสั่งมาลองก่อนล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน เท่าที่ลองดูก็ใช้ได้นะ ลองเอามาประกอบกับรอกเบทประจำตัว ลองตีแล้วก็ใช้ได้ ปลายคันอ่อน เหยื่อออกแอคชั่นพอได้ ทดลองจนมั่นใจแล้วก็เลยตัดสินใจเอาอันนี้ไปแหล่ะสะดวก

เอาล่ะด้านอุปกรณ์และการนำไปไม่มีปัญหาละ ตัดมาที่ระหว่างการเดินทางตามรอยครั้งนี้
สถานที่แรก เราเลือกมาทะเลสาบบิวะ ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดชิงะ

ระหว่างเดินรอบปราสาทฮิโกเน่ ที่เป็นคูรอบปราสาทที่มีไว้ป้องกันการบุกของศัตรู ก็บังเอิญเจอต้นสนต้นนึง มีเหยื่อปลอมพันติดอยู่ที่กิ่งพอดี ซึ่งแปลว่าต้องมีปลาแน่ๆ แต่เขาน่าจะห้ามตกอ่ะนะ เราก็นักท่องเที่ยวที่เคารพกฎกติกาอยู่แล้ว ก็เฉยๆ


ซึ่งพอเดินมาถึงสะพาน โอ้โหหหห ปลาเพียบบบบเลย มิน่าละคนถึงมาแอบตกปลา
พอเดินเที่ยวปราสาทฮิโกเน่เสร็จ และเดินชมท่านฮิโกเนียนมาสคอตยอดนิยมของเมืองนี้
จากนั้นก็ถึงคิวตกปลาที่ทะเลสาบบิวะแล้ว ความปังปิ๊นาศ เริ่มที่ตรงนี้ แผนการของเราคือ เดินทะลุชุมชนข้างปราสาทไปที่ป้ายรถเมล์แห่งหนึ่งเพื่อนั่งรถไปลงที่ปากแม่น้ำที่กำหนด ซึ่งมันมีทุก 30-45 นาที ก็ไปรอที่ป้าย รอแล้วรอเล่าจนสงสัยแต่ก็รอ ตอนนั้นเวลาล่วงเลยไปเกือบบ่ายสามแล้ว ชักกังวลเพราะมันนานมาก จนตัดสินใจถามคนที่เดินผ่านแถวนั้น เขาบอกว่า รถยกเลิกชั่วคราว
อ้าว ยังไงละที่นี้ เลยพยายามถามต่อ เขาให้ย้อนกลับไปเกือบหน้าปราสาท ก็เลยตัดสินใจย้อนกลับไป พอไปถึงหาป้ายจะขึ้นแต่พอขึ้นไป เอาจุดที่จะลงให้คนขับดู เขาโบกมือว่าไม่ผ่าน !!!
แอ๊กกก เกิดอะไรขึ้น ลงจากรถมาเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ทางเข้าปราสาทเลยเพราะเขาต้องเจอคำถามนักท่องเที่ยวเยอะเขาต้องแนะนำเราได้แน่ๆ ซึ่งพอถามเขาบอกให้กลับไปขึ้นที่สถานีรถไฟที่เราลง !!!!
ณ จุดนั้นต้องตัดสินใจ หันไปเจอเก้าอี้ตรงตู้ขายน้ำอัตโนมัติเลยนั่งเอาข้าวปั้นมากินแล้วคำนวณการเดินทางอีกที ซึ่งจากการสรุปแล้ว เวลาไม่พอ ถ้าจะฝืนจริงๆ ไปถึงก็จะประมาณ 17.00 กว่าๆ ซึ่งฤดูที่ไปเป็นหน้าหนาวฟ้ามืดเร็ว เลยตัดสินใจพอ ยุติทริปทะเลสาบบิวะ
2 วันต่อมาหลังจากพลาดพลั้งที่ทะเลสาบบิวะ ก็มาถึงการตามรอยตกปลาที่ท่าเรือฯ โดยท่าเรือที่เราเลือกไม่ได้เลือกเพราะมีปลาชุมแต่อย่างใด แต่เลือกจากท่าเรือที่มีตลาดนัด 555555555555 อันนี้เพราะเราชอบตลาดนัดมากด้วย เลยกะว่าไปแต่เช้าเลย เดินตลาดก็ไม่น่าเกิน 2 ชั่วโมง แล้วที่เหลือก็นั่งตกปลาไป สบายๆ
การเดินทางเช้านี้อากาศดี หนาวแต่แดดแรงฟ้าแจ้ง เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการตกปลา 555 อารมณ์ดีจะได้ตกปลา
เริ่มทริปด้วยการพิชิตตลาดนัดก่อน ซึ่งตลาดนัดที่ไปคือ ตลาดนัด Flea Market Sports Depo Sunshine Wharf KOBE
ซึ่งเสียเวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมงในตลาดนัด เพราะของเยอะมากกกกกก และราคาถูกมากกกกกกกกกกกก สายตลาดนัดจดไว้นะ ของดีเยอะมาก และราคาถูกมาก

ซึ่งหลังจากจบภารกิจช้อปปิ้งเรียบร้อยก็เก็บของเข้ากระเป๋าเรียบร้อย ตลาดก็เริ่มเก็บกันพอดี ซึ่งสถานที่จัดตลาดก็คือท่าเรือพอดี เราก็เริ่มภารกิจเลย ท่าเรือแบบนี้ก็เลือกแคร้งเบท แบบในเรื่อง BLACK BASS มาเริ่มตี
กำลังตีอย่างสนุกสนานได้ไม่ถึง 5 นาที คนญี่ปุ่นเป็นผู้ชายอายุพอๆ กัน เดินมาพูดอะไรสักอย่าง? เราก็ “อาเร๊ะ” เขาก็ชี้ให้ดูป้าย

คนญี่ปุ่นเลยพาไปชี้อีกป้าย

เฮ้ยยยย ห้ามตกปลา !!! โอ้ยยยย อันนี้พลาดจังๆ เลย คือในข้อมูลมันก็ไม่ได้เขียนว่าตกปลาได้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าห้ามตกอ่า สรุปก็เลยต้องพับคันเก็บกลับที่พักด้วยความเสียดายจัง
ถัดมาอีก 3 วัน คราวนี้แหละไม่มีพลาดดด ทริปสุดท้ายที่จัดไว้คือไปตกปลาจากลำธารแถบเกียวโต เนื่องจากตั้งเป้าไว้แล้วพลาดมา 2 ครั้ง ครั้งนี้เลยต้องเน้นนิดนึง เลยเดินทางแต่เช้าไปที่เกียวโต รอบนี้เช่าจักรยานเลย เพื่อสะดวกและร่นเวลาการเดินทาง อิชั้นขอแนะนำร้านจักรยานข้างสถานีละกัน ร้านนี้ดีถ้าเขาเห็นเราต่างชาติเขาจะมายืนสอนการเบรก การจอด ข้อห้ามให้อย่างดี มีการดูหุ่นกับน้ำหนักเราก่อนเลือกจักรยานให้เราด้วย ร้านนี้โอเคในการบริการค่ะ
โดยเส้นทางที่เราคิดไว้คือ เดินย้อนขึ้นไปทางลำธารที่อยู่เลยทางเข้าป่าไผ่อาราชิยาม่า พอไปถึงลำธาร อ้าว เจอรถแบคโฮกำลังลุยในลำธารเลย คือกำลังมีการก่อสร้างทางไหลของน้ำใหม่ ซึ่งส่งผลให้ลำธารจุดที่เล็งไว้น้ำใสไร้ปลา
นั่งดูเกือบ 5 นาที ไร้สิ่งมีชีวิตใดๆ นอกจากเป็ด 2 ตัวที่ว่ายห่างๆ เลยต้องย้ายโชคดีที่เช่าจักรยานมา ก็เลยลองขี่ไปที่ต้นน้ำ ซึ่งพอขี่ไปถึงมีป้ายห้ามเข้าเนื่องจากอะไรไม่ทราบ เลยกลับมาที่เดิม
เอาไงดีละทีนี้ !!!!
เอาล่ะถามละกัน ตอนนั้นพอดีมีตำรวจยืนโบกเพื่อให้รถเบี่ยงเลี่ยงการก่อสร้าง เลยถามดื้อๆ “ฟิชชิ่ง” ทางตำรวจทำหน้างงๆ และชี้ไปที่ทางที่เรามาว่าตรงนั้นห้ามตก แต่ก็ชี้ทางตรงข้ามให้ซึ่งเป็นลำธารเดียวกันแต่กว้างขึ้น และมีเขื่อนแบบเทราคอตต้าด้วย เลยขอบคุณและขี่จักรยานไปจนเจอทางลงไปด้านล่าง

พอได้ทำเลแล้วก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงแล้ว ประกอบชุดจัดเหยื่อที่ใช้ทันที


ซึ่งอากาศ ณ ตอนนั้นหนาวมาก กางเกงที่ท่านเห็นนั่นเป็นการเกงสโนว์บอร์ดกันหิมะนะนั่น ข้างในมีทั้งฮีทเทคและกางเกงขายาวอีกทีนะ มือก็สั่นแต่ไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เพราะความตื่นเต้น
เมื่อพร้อมสุดๆ แล้วก็ลุยเลย จัดเตรียมไว้ 3 ทริป 3 แบบ แต่มาถึงจุดนี้ก็ขอรวมตามรอยทุกเรื่องไว้ที่ลำธารนี้แล้วกันนะ
หลังจากการลองตกไป 1 ชั่วโมง ไม่มีวี่แววปลากิน กัด ไล่ เหยื่อเลย ใจเริ่มไม่ดี เริ่มเปลี่ยนเหยื่อบ่อยๆ เริ่มคิดใหม่ในการตีเหยื่อ เริ่มย้ายหมายไปเรื่อยๆ ตามลำธาร ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ หิมะตัวดีที่ตอนอยากเห็นไม่ตก แต่จะตกตอนนี้ก็เริ่มตกลงมาพร้อมลมจากหุบเขาอันแรงและหนาว

ชั้นไม่ยอมแล้วเฟ้ยยย ชั้นเดินทางมาไกลขนาดนี้ ชั้นไม่ยอมแพ้หิมะกับความหนาวแน่ๆ แล้วก็เหวี่ยงเหยื่อต่อไป สิ่งนึงที่ลืมคิดไปคือ เพื่อนร่วมทริปตามรอยที่วันนี้รับหน้าที่ลูกหาบนักตกปลา พอนึกถึงเพื่อนได้ก็ลองหันไปหา ภาพที่เห็นคือเพื่อนเอาไม้แห้งมาสุมจะก่อกองไฟ และเอาผ้าห่มที่พกมากำลังคลุมหัวอยู่ เลยตะโกนไปถาม “ไหวนะเพื่อน”
เพื่อนตอบกลับมาว่า “เอาให้สุดเลยเพื่อน ตีเหยื่อไม่ถึงกอไม้ ถึงพลาดก็อยู่ท่ามกลางลำธาร”
อื้อหือ ฟังแล้วหิวแกงป่าปลาดุกขึ้นมาเลย
หลังจากนั้นราวชั่วโมงนึง อากาศแย่ลงทันที หิมะที่หายไปพักนึงกลับมาตกใหม่ จึงคิดว่าสมควรแก่เวลาแล้ว แม้ว่าเราจะได้มาถึงแหล่งตกปลาของญี่ปุ่นตามที่ฝัน แต่มันก็มีอุปสรรคที่เราคาดไม่ถึง ก็ไม่เสียใจนะที่มาแล้วพลาดและตกปลาไม่ได้
จริงๆ ตอนตกปลาที่ลำธารเราก็คิดในใจแล้วว่าน้ำมันเย็นไป และแม้มีวี่แววปลาฮุบน้ำแต่ก็อาจเป็นปลาที่เล็กๆ ไม่ใช่ปลาแบส (มานั่งอ่านอีกทีตอนกลับมา ปลาแบสไม่มีตามลำธารเฟ้ยยย เจ้าเซ่อ)
ก็เป็นทริปที่ได้ทำแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งแน่นอนการตามรอยการ์ตูนในแบบอิชั้น ไม่มีคำว่ายอมแพ้ ไม่มีคำว่าท้อ รอบหน้ามาใหม่แน่นอน และรอบนี้จะหาข้อมูลให้ละเอียดที่สุด เพื่อไม่ให้ผิดพลาดอีก
“ตราบใดที่เรานั้นไม่หยุดเรา”
จ ญ น ห อ ด ม
ตามรอย เรียบเรียง และเหวี่ยงเบ็ดรวมประมาณ 230 ครั้ง อุณหภูมิเฉลี่ย 1-5 องศา ปลาที่ได้ 0
#แง๊
つづく
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ FB: เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน
เรื่องแนะนำ :
– เจ้าหญิงน้อยฯ ตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่น ตอนที่ 3 : ตามรอยการ์ตูนครั้งแรก Going Merry
– เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามันตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่น ตอนที่ 2 คนไทยอยากไปตามรอยการ์ตูนเรื่องอะไรกันนะ ?
– เจ้าหญิงน้อยฯ ตามรอยการ์ตูนในญี่ปุ่น ตอนที่ 1 : ตามรอยการ์ตูนครั้งแรกกับแฟนพันธ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่น
– รายงานพิเศษ : เสียงสะอื้นจากป่าไผ่ Arashiyama
– I HAVE A………….. PPAP CAFÉ ณ ฟุกุโอกะ