สำหรับครั้งนี้ ตามเจ๊ไปติ่งอาราชิ 5 หนุ่มไอดอลระดับชาติกันค่ะ กับคอนเสิร์ต Arashi Blast in Miyagi ที่สนามกีฬา Hitomebore Stadium Miyagi ซึ่งจัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากที่ภูมิภาคโทโฮคุประสบภัยสึนามิเมื่อปี 2011
จะว่าไปแล้วทีมงานเจ๊เอ๊ด เป็นติ่งญี่ปุ่นกันหลายคนค่ะ มีทั้งติ่งศิลปิน นักร้อง และติ่งอนิเมะ และด้วยความเป็นติ่งญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ ที่ทำให้มีแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่นและทำงานได้อย่างสนุก

สำหรับครั้งนี้ ตามเจ๊ไปติ่งอาราชิ 5 หนุ่มไอดอลระดับชาติกันค่ะ กับงานคอนเสิร์ต Arashi Blast in Miyagi ที่สนามกีฬา Hitomebore Stadium Miyagi จังหวัดมิยะงิ ซึ่งจัดขึ้นจากการเชิญของผู้ว่าจังหวัดมิยะงิ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากที่ภูมิภาคโทโฮคุประสบภัยทสึนามิจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปีค.ศ. 2011

คอนเสิร์ตจัดขึ้นในวันที่ 19 – 23 กันยายน 2015 (ยกเว้นวันจันทร์ที่ 21) ตรงกับวันหยุดยาวของญี่ปุ่นที่เรียกว่าช่วง Silver Week พอดี เรียกว่าเป็นการดึงผู้คนไปท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ หรือภาคอีสานของญี่ปุ่นได้นับแสน จากข่าวที่ออกมาบอกว่า งานนี้คาดว่าส่งผลกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคได้ถึง 3 พันล้านบาท
คอนเสิร์ตครั้งนี้มีการจัดแพ็คเกจทัวร์ร่วมกับบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น H.I.S และ JTB ค่ะ จัดเป็นแพ็คเกจทัวร์พร้อมที่พัก รวมรถรับส่งจากสนามกีฬาไปกลับโรงแรม โดยมีต้นทางออกจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเหนือจรดใต้ เพื่อมารวมตัวกันในคอนเสิร์ตที่มิยะงินี้ (ปีที่แล้ว มีการจัดแพ็คเกจทัวร์คล้ายๆ กันค่ะ แต่เป็นแพ็คเกจทัวร์พร้อมตั๋วคอนเสิร์ต Arashi Blast in Hawaii บินไปชมคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 15 ปีที่ฮาวาย )
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อแพ็คเกจทัวร์ลักษณะนี้ ก็ต้องดิ้นรนมากหน่อยค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับการไปชมคอนเสิร์ตที่มักจะจัดตามเมืองใหญ่ต่างๆ เรียกว่าไม่ง่ายเลย ต้องมีการเตรียมตัวสารพัด

เริ่มตั้งแต่เรื่องของการจองโรงแรม
สำหรับบรรดาแฟนคลับศิลปินดังๆ แล้ว จะรู้กันดีว่า เมื่อไหร่ที่มีการประกาศแสดงคอนเสิร์ต สิ่งแรกที่ต้องทำคือ จองโรงแรมในทันที แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าจะได้ตั๋วไปดูคอนเสิร์ตหรือไม่ก็ตาม เพราะโอกาสในการหาตั๋วคอนเสิร์ตนั้น ถ้ามีเงินเสียอย่าง หาได้ไม่ยาก หาที่พักยากกว่า อีกทั้งระบบการจองโรงแรมสมัยนี้ก็ง่ายแสนง่าย แถมยังยกเลิกได้ตลอดเวลา ถึงสุดท้ายแล้วจะไม่ได้ตั๋วก็แคนเซิลโรงแรมได้

งานนี้ก็เช่นกัน ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทันทีที่มีการประกาศข่าว อาราชิจะจัดคอนเสิร์ตที่มิยะงิปั๊บ ยังไม่ทันข้ามวัน โรงแรมในเมืองมิยะงิก็ถูกจองเต็มหมด จนถึงขั้นที่ว่าโรงแรมบางแห่ง เจอปัญหาระบบการจองทางอินเตอร์เน็ตล่ม จากการถล่มจองโรงแรมในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่มีข่าวออกมา
การแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละรอบ มีที่นั่งสำหรับผู้ชมประมาณ 5 หมื่นคนต่อรอบ ในขณะที่โรงแรมในเมืองเซนได เมืองหลวงของจังหวัดมิยะงิ รองรับผู้คนได้ประมาณ 29,000 คนต่อคืนเท่านั้น ฉะนั้นทางเลือกต่อมาคือ หาที่พักในเมืองอื่นๆ ในจังหวัดมิยะงิ ไปจนถึงจังหวัดใกล้เคียงอย่างฟุกุชิมะ และอิวาเตะ สาเหตุที่หาโรงแรมเต็มเร็ว ก็เนื่องมาจากส่วนหนึ่งถูกสำรองไปสำหรับแพ็คเกจทัวร์ไปแล้ว

วัยรุ่นหรือสาวๆ ที่หาจองโรงแรมไม่ได้ มาตายเอาดาบหน้า ก็ต้องหาที่ซุกหัวนอน อาบน้ำตามอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ มังงะคาเฟ่ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมงเอาล่ะค่ะ
คนญี่ปุ่นที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดแถวๆ นี้ในช่วงวันหยุดยาว เลยติดร่างแห หาที่พักยากไปด้วย งานประชุมวิชาการ งานสัมมนาต่างๆ ที่จะจัดในช่วงนี้ ต้องเลื่อนออกไปหมด จะว่าไป งานนี้ทำเอาผู้คนหมั่นไส้ความเว่อร์วังของอาราชิไปพอสมควรอยู่เหมือนกัน

การเดินทางไปยังสนามกีฬา Hitomebore
การเดินทางมาชมคอนเสิร์ตก็ใช่ว่าจะง่ายนะคะ ต้องเตรียมการมาอย่างดี เนื่องจากสนามกีฬาอยู่ไกลจากตัวเมืองเซนไดถึง 50 นาที
เพื่อรองรับผู้คนครึ่งแสนในแต่ละวัน รถไฟ JR ก็ได้เพิ่มขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษ ทั้งรถไฟ JR ในพื้นที่สายที่วิ่งไปยังสถานที่จัดแสดง และรถไฟชินคันเซนเที่ยวดึกเพิ่มขึ้นมาอีกขบวนเป็นขบวนเฉพาะกิจ ที่สอดคล้องกับช่วงเวลาหลังคอนเสิร์ตจบ วิ่งจากเซนไดกลับไปโตเกียว เฉพาะวันที่มีคอนเสิร์ต 4 วันนี้เท่านั้น

มีการจัดรถ shuttle bus ระหว่างสถานีเซนได หรือสถานีริฟุ ไปกลับสนามกีฬาทุกๆ ชั่วโมง แต่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะเดินไปขึ้นรถบัสเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ ต้องซื้อตั๋วรถ shuttle bus มาล่วงหน้า ซื้อตั๋ววันไหน เวลาไหน ต้องขึ้นวันนั้นช่วงเวลานั้นนะคะ และต้องมีตั๋วคอนเสิร์ตที่จะชมในวันนั้นมาแสดงก่อนขึ้นรถอีกต่างหาก ไม่มีตั๋วรถและตั๋วคอนเสิร์ต ห้ามขึ้นค่ะ สถานีริฟุที่ใกล้ที่สุดคือ 3.5 กิโลเมตร ระยะทางขนาดนี้ คนญี่ปุ่นเค้าเดินกันได้ค่ะ ส่วนเจ๊ ขากลับกลัวตกรถไฟกลับโรงแรมไม่ได้ จะรอคิวขึ้นรถ shuttle bus ดูท่าจะนานเป็นชั่วโมง ก็ยอมเดินล่ะค่ะ
คนที่ขับรถมา คิดว่าจะชิวๆ ก็ใช่ว่าจะจอดรถได้เลย ต้องซื้อตั๋วสำหรับที่จอดรถมาล่วงหน้าค่ะ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเข้าไปจอดในที่จอดรถของสนามกีฬาได้

เอาล่ะ ดั้นด้นมาจนถึงสนามกีฬากันเสียทีค่ะ ภายในบริเวณมีการจัดซุ้มต่างๆ คล้ายลักษณะของงานเทศกาล มีการออกร้านขายอาหาร ขายของต่างๆ ประจำท้องถิ่นโทโฮคุ เป็นการช่วยสนับสนุนผู้คนในท้องถิ่น

Mister Donut และ 7 eleven ก็มีการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเฉพาะงานนี้ โดยรายได้ส่วนหนึ่ง นำเข้ากองทุนสมทบช่วยเหลือผู้ประสบภัยทสึนามิและแผ่นดินไหวที่ภูมิภาคโทโฮคุ

Mister Donut ออกแบบโดนัทเวอร์ชั่นพิเศษ หนึ่งกล่องมี 5 ชิ้น 5 สีตามสีประจำตัวของ 5 หนุ่มอาราชิ ราคากล่องละ 600 เยน จำหน่ายในบริเวณงานและที่ร้านมิสเตอร์โดนัทใน 6 จังหวัด ส่วน 7Eleven นั้น แค่เอาสติ๊กเกอร์เฉพาะกิจติดที่สินค้า ก็สามารถทำให้บรรดาแฟนๆ ต่อคิวกันได้ยาวเหยียด

สารพัดการเตือนล่วงหน้า
ในเว็บไซต์ของงานยังมีข้อมูลการเตือนต่างๆ มากมายค่ะ เช่น
– เนื่องจากเป็นการแสดงกลางแจ้ง แถมอุณหภูมิยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก กลางวันร้อน ตกค่ำจะหนาว ฉะนั้น ต้องระวังเรื่องสุขภาพร่างกายของตัวเอง เตรียมเครื่องแต่งกายให้พร้อมรับมือกับความร้อนและหนาว
– กองทัพต้องเดินด้วยท้อง กินอาหารให้อิ่ม ยืนดูคอนเสิร์ต 3 ชั่วโมง เดี๋ยวจะไม่มีแรงกรี๊ด
– จิบน้ำบ่อยๆ นอนหลับให้เพียงพอ
– หากมีเด็กเล็กมาด้วยต้องเตรียมความพร้อมให้เด็กด้วย
– สถานที่จัดแสดง นอกจากจะกว้างแล้วยังเป็นเนินค่อนข้างเยอะ ถนนอาจจะไม่ค่อยดี ควรจะใส่รองเท้าสบายๆ เดินง่าย แถมกว่าคอนเสิร์ตจะเลิกก็มืดค่ำ แสงไฟน้อย ไม่ได้สว่างไสวแบบในเมือง ต้องเดินอย่างระมัดระวัง เดี๋ยวจะกลิ้งลงจากสเตเดียม
– ไม่มีล็อกเกอร์ หรือที่รับฝากของ ฉะนั้นไม่ต้องหอบสมบัติมาเยอะ
– กลางคืนหาที่นอนไม่ได้ อย่ามากางเต๊นท์นอนบริเวณสนามกีฬา เพราะมันอันตราย
และอีกมากมายอ่านกันให้ตาลายไปข้างหนึ่งกันเลยทีเดียว

แม้จะรู้สึกว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้มันลำบ๊าก ลำบาก ต้องเตรียมการเยอะเหลือเกิน แต่มาลองคิดดูอีกที ก็สมกับเป็นญี่ปุ่น ที่คิดและวางแผนทุกอย่างไว้อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
และแน่นอนว่า เป็นคอนเสิร์ตที่อลังการงานสร้าง มีความแปลกใหม่ มาให้แฟนๆ เซอร์ไพร์สได้เสมอ สมกับที่เป็นคอนเสิร์ตไอดอลระดับชาติ #เจ๊อวย
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com