ว่ากันว่าชาวญี่ปุ่นเป็นลูกพระอาทิตย์ ซึ่งก็เกี่ยวพันกับเทวตำนานของ Amaterasu ในศาสนาชินโตของชาวญี่ปุ่น
ได้ยินมานานว่าชาวญี่ปุ่นเป็นลูกพระอาทิตย์ เป็นชาวอาทิตย์อุทัย สัญลักษณ์ของประเทศก็มักจะเกี่ยวพันกับรูปดวงอาทิตย์ ก็เคยสงสัยที่มาที่ไป แล้วก็ได้พบที่มาอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเทพเจ้าชื่อว่า “อะมะเทระซึ” หรือเทพีแห่งดวงอาทิตย์

Amaterasu 「天照」หรือชื่อเต็มๆ ว่า Amaterasu Omikami 「天照大御神, 天照大神」 บ้างก็เรียกว่า Tensho Daijan เป็นเทพเจ้าในเทวตำนานตามความเชื่อของศาสนาชินโต ซึ่งชาวญี่ปุ่นเคารพยกย่องและให้ความสำคัญเป็นที่สุด
เรื่องราวเกี่ยวกับเทพีอะมะเทระซึนั้นมีหลากหลาย หลักๆ แล้วก็มาจากตำรา Kojiki และ Nihonshoki แต่ก็มีเรื่องที่ต่างออกไปตามตำราอื่นๆ บ้างเหมือนกัน ซึ่งก็ขอประมวลมาเล่าสู่กันฟังดังนี้
ครั้งหนึ่งเทพผู้สร้าง Izanagi เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดบนสรวงสวรรค์เดินทางกลับมาจากนรก และขณะที่กำลังชำระล้างร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์กำเนิดเป็นเทพ 3 องค์ ขึ้นมาคือ Amaterasu 「天照大神, เทพีแห่งดวงอาทิตย์/เทพีแห่งกลางวัน」, Susanoo 「素戔嗚尊, 素盞嗚尊, スサノオ, เทพแห่งพายุ/เทพแห่งท้องทะเล」และ Tsukuyomi「月読命, ツクヨミ, เทพแห่งดวงจันทร์/เทพแห่งกลางคืน」
พี่ใหญ่คือ Amaterasu เกิดจากการล้างตาข้างซ้าย เป็นเทพีแห่งดวงอาทิตย์มีหน้าที่ดูแล Takamagahara 「高天原」หรือแปลงนาสวรรค์ Susanoo เป็นเทพแห่งพายุผู้มีอารมณ์ฉุนเฉียว มีหน้าที่ดูแลท้องทะเล และ Tsukuyomi นั้นคือเทพแห่งดวงจันทร์ ทั้งหมดร่วมกันปกครองจักรวาล
ตามเทวตำนานของศาสนาชินโต เทพีอะมะเทระซึ (แปลว่า “ส่องแสงให้สวรรค์” หรือหมายถึงนางผู้ส่องแสงบนสวรรค์นั่นเอง) เป็นเทพีผู้ยิ่งใหญ่ มีรูปลักษณ์สวยงามและมีความกรุณาปรานี นอกจากจะเปล่งประกายให้แสงสว่างแก่จักรวาลรวมทั้งโลกมนุษย์แล้ว ยังสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับไร่นาดูแลด้านการเพาะปลูก และเป็นช่างทอผ้าชั้นเยี่ยม
มีอยู่ครั้งหนึ่ง Susanoo (บ้างก็เรียก Susanowa หรือ Susanowo) ผู้มีอารมณ์ร้าย ไม่พอใจที่เทพีอะมะเทระซึซึ่งมีอำนาจมากกว่าและเทพต่างให้ความเคารพยกย่อง Susanoo จึงบันดาลโทสะฆ่าลูกม้าตัวหนึ่งอย่างโหดร้ายทารุณ (ม้าถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งของเทพเจ้า) จากนั้นก็โยนซากม้าที่โชกเลือดนั้นเข้าไปในห้องทอผ้าของเทพีอะมะเทระซึ ทำลายเครื่องทอผ้า และฉีกทึ้งผ้าทอที่ประเมินค่าไม่ได้เสียหายไปมากมาย ทำให้เหล่าหญิงสาวผู้ช่วยเทพีอะมะเทระซึซึ่งกำลังทอผ้าอยู่ตกใจกลัว (บางตำนานก็เล่าว่ามีนางหนึ่งถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด บ้างก็ว่าเทพีอะมะเทระซึเองก็ได้รับบาดเจ็บเพราะถูก Susanoo ทำร้ายด้วยกระสวยเย็บผ้า)
เทพีอะมะเทระซึโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจากความทารุณโหดร้ายของ Susunoo มาก จึงหนีเข้าไปอยู่ในถ้ำที่มืดมิดกลางภูเขาแห่งหนึ่ง และปิดตายทางเข้าไม่ให้คนอื่นเข้าไป โดยไม่ยอมกลับสู่สวรรค์อีก เมื่อไม่มีนางก็ไม่มีดวงอาทิตย์ ทั่วทั้งจักรวาลจึงตกอยู่ในความมืดและความหนาวเย็น พืชพันธุ์ต่างๆ ยืนต้นตายท่ามกลางค่ำคืนที่ไม่มีวันสิ้นสุด ผู้คนก็ต้องหิวโหยเพราะขาดข้าวปลาอาหารและเริ่มเจ็บป่วย ปีศาจออกอาละวาดและสวรรค์ก็เกิดความโกลาหล
ทวยเทพนับร้อยมายังทาง เข้าถ้ำและขอร้องให้นางออกมา แต่ความเศร้าเสียใจของนางมีมาก นางจึงปฏิเสธคำขอเหล่านั้น จึงเกิดการชุมนุมของเหล่าทวยเทพขึ้นที่บริเวณแม่น้ำสวรรค์ Ama-no-yasu-gawara เพื่อหาทางให้เทพีอะมะเทระซึกลับมาทำหน้าที่ และ Uzume เทพีแห่งความรื่นเริง ก็นึกแผนการณ์หนึ่งขึ้นมา โดยให้เหล่าเทพเตรียมกระจกทองเหลืองบานใหญ่ไว้ที่ปากทางเข้าถ้ำ ขณะที่เทพีอุซึเมะขึ้นไปเต้นรำบนถังไม้ขนาดใหญ่ที่คว่ำไว้ นางเต้นรำอย่างมีความสุขสนุกสนาน เท้าของนางทำเสียงดังเป็นจังหวะเหมือนกำลังตีกลองอยู่บนถังไม้ นางยกชายกิโมโนขึ้นและเต้นรำอย่างเพลิดเพลิน เหล่าเทพต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องและหัวเราะเสียงดังอย่างสนุกสนาน

เมื่อเทพีอะมะเทระซึได้ยินเสียงหัวเราะอย่างตื่นเต้นสนุกสนาน และเสียงกลองที่เทพีอุซึเมะตีถังด้วยเท้า ก็เริ่มสงสัยและไปแอบดูที่ทางเข้าถ้ำ เมื่อเหล่าเทพเห็นแสงลอดออกมาจากภายในถ้ำ พวกเขาก็ทำให้เทพีอะมะเทระซึได้เห็นเงาสะท้อนเจิดจ้าของตนเองในกระจก เมื่อนางตาพร่าจึงถูกเหล่าทวยเทพจับไว้ได้ และปากถ้ำก็ยังถูกผนึกโดยเชือกฟาง shimenawa ทำให้นางไม่สามารถกลับเข้าไปได้อีก เมื่อนางออกมาจากถ้ำ ทั่วทั้งจักรวาลจึงกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง ความโศกเศร้าของนางค่อยๆ จางหายไปจากบรรยากาศที่รื่นเริงและสนุกสนานที่มีอยู่รอบตัวนาง เหล่าปีศาจต่างหวาดกลัวหนีไป และโลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
การกลับมาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะแห่งเทพีแห่งดวงอาทิตย์ เหนือเทพีแห่งพายุ เสมือนทำให้นางได้ปกครองโลก ที่แปลกอีกอย่างคือความเชื่อที่ว่าเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์เป็นหญิงนั้นหาได้ ยาก เพราะต่างจากความเชื่อและตำนานทั้งหลายบนโลกที่ว่าผู้ชายเป็นผู้นำ ส่วนหญิงเป็นผู้ตาม
บางตำนานก็เล่าว่าที่จริงแล้วเทพีอะมะเทระซึนั้นทะเลาะกับ คือเทพแห่งดวงจันทร์ Tsukuyomi (บ้างก็เรียก Tsuki-yomi) เพราะถูกเทพีองค์หนึ่งดูถูก Tsuki-yomi จึงฆ่านาง เทพีอะมะเทระซึจึงบอกว่านางไม่อยากเห็นหน้า Tsuki-yomi อีก จึงกลายเป็นเทวตำนานของญี่ปุ่นว่าทำไมดวงอาทิตย์และพระจันทร์จึงส่องแสง สว่างบนท้องฟ้าในเวลาที่ต่างกัน
นอกจากนี้ตำนานญี่ปุ่นที่ถูกบันทึกไว้ในตำรา Kojiki ยังกล่าวถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของเทพีแห่งดวงอาทิตย์ต่อชาวญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เทพีองค์นี้ได้รับความเคารพนับถือมากมาจนถึงปัจจุบัน เล่ากันว่าเทพีอะมะเทระซึส่งหลานชาย Nigiri-no-mikoto ไปดูแลดินแดนที่เรียกว่า Ashihara no Nakatsukuni หรือญี่ปุ่น โดยได้มอบกระจกวิเศษ ดาบ และอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ (สร้อยคอ) ติดตัวมาด้วย ภายหลัง Nigiri-no-mikoto ก็ได้กลายเป็นต้นราชวงศ์อิมพีเรียลของญี่ปุ่น ของวิเศษทั้ง 3 ก็คือเครื่องราชกกุฏภัณฑ์ของราชวงศ์ และเชื่อกันด้วยว่าเทพีอะมะเทระซึเป็นบรรพบุรุษของจักรพรรดิญี่ปุ่น โดยเหลนของ Nigiri-no-mikoto คือจักรพรรดิ์พระองค์แรก Emperor Jimmu (แต่ก็เชื่อกันอีกว่าจริงๆ แล้วชาวญี่ปุ่นทุกคนเกิดจากเทพเจ้า ไม่ใช่เฉพาะองค์จักรพรรดิ)

Grand Shrine of Ise (Ise-Jingu) ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ (Mie) เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในศาสนาชินโต เนื่องจากบูชาเทพีแห่งดวงอาทิตย์ Amaterasu Omikami เป็นสำคัญ โดยประดิษฐานกระจกเป็นเสมือนตัวแทน Omikami เทพีผู้ส่องแสงไว้ให้ผู้คนสักการะ ชาวญี่ปุ่นนิยมไปกราบไหว้บูชาเทพเจ้า ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ปีละเป็นล้านๆ คน เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต โดยเฉพาะชาวนาชาวไร่ ศาสนพิธีของศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีอยู่มากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นพิธีกรรมสำคัญที่ศาสนิกชนไม่ควรพลาด พิธีใหญ่อย่างหนึ่งก็คือการย้ายตัวศาลเจ้าอิเสะ ซึ่งจะถูกย้ายสถานที่ทุกๆ 20 ปี (ไม่ไกลจากจุดเดิม) และสร้างใหม่ให้มีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ

ใครที่จะแวะไปสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ เชื่อว่าจะได้ซึมซับความสงบ และบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์มาด้วยอย่างแน่นอน การเดินเข้าไปภายในบริเวณศาลเจ้า ผ่านทางเดินกรวดที่สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี เสียงน้ำจากแม่น้ำและลำธาร นำความสงบมาสู่จิตใจคนเราได้อย่างมากมายจริงๆ ลองหาโอกาสไปเยือนดูสักครั้ง (ด้านนอกมีโซนช้อปปิ้งตามสไตล์ญี่ปุ่นกว้างขวางเชียวแหล่ะ รับรองว่าไม่มีเบื่อ)

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ:
http://www.answers.com/topic/amaterasu
http://www.pantheon.org/articles/a/amaterasu.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Amaterasu
#Amaterasu #เทพีแห่งดวงอาทิตย์