ญี่ปุ่นพัฒนา AI ซึ่งจะคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแนะนำพฤติกรรมการกินที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ โดยอนาคตตั้งเป้าจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องระวังเรื่องการกิน เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น
ญี่ปุ่นพัฒนา AI ซึ่งจะคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแนะนำพฤติกรรมการกินที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ โดยอนาคตตั้งเป้าจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องระวังเรื่องการกิน เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน KDDI Research ได้ประกาศเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่เพื่อช่วยวิเคราะห์อาหารแบบเรียลไทม์ด้วย AI ซึ่งหลังจากใช้กล้องสแกนไปที่อาหารแล้ว AI จะช่วยแนะนำพฤติกรรมการกินที่เหมาะสม โดยอนาคตจะตั้งเป้านำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับผู้ป่วยที่ต้องระวังเรื่องการกิน เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ก่อนหน้านี้ ก็มีแอพฯ สำหรับให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทานอาหารอยู่บ้าง แต่ก็ยังติดปัญหาหลายอย่างเนื่องจากแอพฯ เหล่านั้นส่วนใหญ่จะตักเตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น เช่น “หากได้รับเกลือมากไปอาจมีปัญหาเกี่ยวกับไต” ไม่ได้ตักเตือนพฤติกรรมการกิน หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารในขณะนั้น
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่แอพฯ เหล่านั้นจะทำงานโดยการให้ผู้ใช้งานถ่ายรูปเพื่อให้ AI ทำงาน แต่ก็อาจมีปัญหาต่างๆ จากตัวผู้ใช้งานเองทำให้การแนะนำคลาดเคลื่อน เช่น ผู้ใช้งานเผลอเติมเครื่องปรุงลงไปหลังถ่ายรูป หรือบางทีผู้ใช้งานก็ลืมถ่ายรูปและกรอกแค่ข้อมูลว่าจะทานอะไรเข้าไปเท่านั้น ทำให้ AI วิเคราะห์ได้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ เป็นต้น
แต่เทคโนโลยี AI สำหรับวิเคราะห์อาหารแบบเรียลไทม์ตัวใหม่นี้ จะใช้ตัวเดียวกันกับ “เทคโนโลยี AI สำหรับจดจำวัตถุ” เพื่อวิเคราะห์ภาพมื้ออาหาร และ “AI แบบโต้ตอบกับผู้ใช้งาน” เพื่อให้คำแนะนำต่างๆ แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ทางผู้พัฒนายังบอกว่า การสนทนาโต้ตอบกับ AI สม่ำเสมอ จะทำให้ AI พัฒนาด้านการสนทนามากขึ้นด้วย
การทำงานของ AI นี้นั้น เมื่อผู้ใช้งานสแกนภาพอาหารบนโต๊ะผ่านกล้องแล้ว ให้ตั้งกล้องเอาไว้ก่อน หลังจาก AI วิเคราะห์ข้อมูลของอาหารแล้วจะช่วยให้คำแนะนำเรื่องลำดับการกินอาหารให้มีประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มขึ้น เช่น หากทานทงคัตสึซึ่งมีเครื่องเคียงเป็นสลัด AI จะแนะนำให้ทานผักก่อนเนื้อสัตว์ เพื่อทำให้ไขมันจับตัวกันยากขึ้น และช่วยปรับเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดได้ และหากในระหว่างทานอาหาร หากเราทานเร็วเกินไป AI ก็จะช่วยเตือนด้วยว่า “ไม่ทานเร็วเกินไปหน่อยเหรอ?” เพื่อให้เราทานช้าลง
นอกจากให้คำแนะนำเรื่องลำดับการกินแล้ว AI จะช่วยเตือนเรื่องปริมาณสารต่างๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น หากในมื้ออาหารมีซุปมิโสะ และผู้ใช้งานกำลังจะทานซุป AI จะทักเพื่อเตือนผู้ใช้งานก่อนว่า “ปริมาณเกลือที่อยู่ในซุปมิโสะไม่ได้มากเกินไปใช่ไหม ?” เพื่อให้ผู้ใช้งานเอะใจ และระวังเรื่องการกินมากขึ้น
เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา จะมีการทดลองสาธิตภายในบริษัทผู้ผลิตช่วงเดือนมีนาคม 2022 และจากนั้นจะมีการนำไปทดลองสาธิตที่สถาบันการแพทย์ในปีเดียวกัน
เรื่องแนะนำ :
– พิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum) ขอรับบริจาคจากแฟนๆ ต่างชาติ เพื่อช่วยพ้นวิกฤติ
– Ghibli Museum เปิดร้านค้าออนไลน์แล้ว !
– เข้าสู่ยุค Metaverse ! LAWSON ญี่ปุ่น เตรียมเปิดร้านบนโลกเสมือนจริง
– ญี่ปุ่นวางขายกาชาปองนกกระเรียนที่พับโดยสาวแกล!
– ร้านอาหารในฮอกไกโดใช้หุ่นยนต์น้องแมวเพื่อเสิร์ฟอาหาร
ที่มาและรูปภาพ :
https://japan.cnet.com/article/35179968/
https://news.tv-asahi.co.jp/news_economy/articles/000236285.html
#พฤติกรรมการกินที่เหมาะสม #AI