วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (6) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การแต่งคัมภีร์ทั้งห้าม้วนแห่งพิชัยสงครามนี้
สวัสดีครับวันนี้เราก็กำลังจะมาถึงครึ่งทางของ “คัมภีร์แห่งปฐวี” (ดิน) กันแล้วนะครับ ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เนื่องจากงดการเรียนสอนเกือบทั้งสัปดาห์ เลยไม่ได้เรียนการซ้อมท่า (drills) เลย แต่ใช้เวลาอยู่กับการ free sparring (ซ้อมเข้าคู่ประลอง) ใน open mat มากกว่า เพราะรู้สึกว่าตัวเองควร “ทำหัวให้โล่งๆ” เลิกคิดว่าจะใช้ท่านั้นท่านี้ แล้วตอบสนองตามการเคลื่อนไหวรุกรับของคู่ซ้อมแบบ “ให้มันไหลไปตามกระแส” (flow) มากกว่า…
…ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่าเราได้เรียนอะไรสักอย่างจากตัวการ free sparring นี่หละ แต่ทั้งนี้ต้อง “ทำหัวให้โล่ง” จริงๆ ตัดการคิดอะไรไปต่างๆ นานา ก่อนจะประลองไปเสีย ก็เลยดีใจมากที่ตอนนี้ตารางเรียนใหม่เน้นการ open mat มากขึ้น สิ่งที่ผมอยากจะบอกท่านผู้อ่านก็คือ ในการเขียนซีรี่ส์ “เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู” ที่ผ่านมานั้น ตั้งใจอ่านเอามาเขียน เขียนแล้วก็บางทีก็มาอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียนอีกรอบ แล้วก็มาตั้งคำถาม เอาสิ่งที่ได้เขียนได้อ่านมาใช้กับชีวิตจริงๆ นี่แหละครับ ถึงชีวิตจริงของผมจะไม่เพอเฟค มีผิดตก มีหลงทาง หลงลืมไปบ้าง แต่ก็พยายามดึงตัวเองกลับมา และก็เห็นว่าปรัชญาคำสอนของเซนมันมีประโยชน์จริงๆ หากท่านผู้อ่านท่านใดได้อ่านแล้วเอาไปใช้แล้วเห็นว่ามีประโยชน์ ถ้าผมได้รู้ผมจะดีใจมาก
ฉะนั้นวันนี้เราก็มาเดินหน้ากับ “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิกันต่อนะครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
地の巻
คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน)
五 一 此兵法の書五巻に仕立る事
ห้า การแต่งคัมภีร์ทั้งห้าม้วนแห่งพิชัยสงครามนี้
`五ツの道を分ち一まき一まきにして其利を知らしめんが為に `地 `水 `火 `風 `空 `として五巻に書顕す也
ข้าฯ ได้จำแนกวิถีทั้งห้าออกเป็นอย่างละม้วนละม้วน เพื่อให้รู้ถึงความดี (ของวิถีทั้งห้า) นั้น จึงเขียนสำแดงไว้แต่ละม้วนเป็น ปฐวี (ดิน) อาโป (น้ำ) เตโช (ไฟ) วาโย (ลม) อากาส (ที่ว่าง)
`地の巻 `に於ては兵法の道の大体我一流の見立 `剣術一通にしてはまことの道を得がたし `大きなる所よりちひさき所を知り浅きより深きに至る直なる道の地形を引ならすによつて初を `地の巻 `と名付也
คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน) นั้น เป็นภาพใหญ่ของวิถีแห่งพิชัยสงครามข้อวินิจฉัยของสำนักของข้าฯ ลำพังแต่วิชาดาบเพียงถ่ายเดียวนั้น ยากที่จะได้มาซึ่งวิถีที่แท้ รู้จากใหญ่มาหาเล็ก จากตื้นไปหาลึก อาศัยการลากทางลัดตัดตรงผ่านภูมิประเทศ จึงได้ตั้งชื่อม้วนแรกนี้ว่า “คัมภีร์แห่งปฐวี”
`第二 `水の巻 `水を本として心も水になる也 `水は方円のうつわものに随ひ一滴と也さう海となる `水に碧潭の色有り `清き所を用ゐて一流の事を此巻に書顕す也
ที่สอง คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ) นั้น ถือเอาน้ำเป็นแก่น เอาใจเป็นน้ำ น้ำนั้น (แปร) ไปตามภาชนะทรงเหลี่ยมทรงกลม เป็นหยดเดียว (ก็ได้) เป็นทะเลก็ได้ ในน้ำนั้นมีสีมรกตเข้ม จึงได้ใช้ตรงที่ใส เขียนสำแดงเรื่องของสายสำนักไว้ในม้วนนี้
`剣術一通の理さだかに見分け一人の敵に自由に勝時は世界の人に皆勝所也 `人に勝と云心は千万の敵にも同意也 `将たる者の兵法ちひさきを大きになす事尺のかたを以て大仏をたつるに同じ `箇様の儀こまやかには書分がたし `一を以て万を知る事兵法の利也 `一流の事を此 `水の巻 `に書しるす也
หากดูจำแนกได้อย่างจะแจ้งซึ่งหลักการแห่งวิชาดาบเพียงถ่ายเดียว ยามที่เอาชนะศัตรูหนึ่งคนได้ดังใจตนนั้นคือชนะทุกคนทั้งโลก ใจที่เรียกว่าชนะคนนั้น แม้ศัตรูเป็นพันหมื่นก็เป็นเช่นเดียวกัน พิชัยสงครามของผู้นำทัพคือกระทำเล็กให้เป็นใหญ่ เหมือนกันการอาศัยแบบจำลองแค่หนึ่งชาคุ (尺 คือราวหนึ่งฟุต) สร้างพระใหญ่ (ไดบุตสุ 大仏) คติเช่นนี้ยากจะเขียนจำแนกโดยพิสดาร การอาศัยหนึ่งรู้ได้ถึงหมื่นนั้นคือความดีของพิชัยสงคราม เรื่องของสายสำนักจึงเขียนบันทึกไว้ใน “คัมภีร์แห่งอาโป” นี้
`第三 `火の巻 `此巻に戦の事を書記也 `火は大小となりけやけき心有によつて合戦の事を書也 `合戦の道一人と一人との戦ひも万と万との戦ひも同じ道也 `心を大きなる事になし心を小さくなして能く吟味して見るべし `大きなる所は見えやすし `小さき所は見えがたし `其子細大人数の事は即座にもとほりがたし一人の事は心一つにてかはる事はやきによつて小さき所知る事得がたし `能吟味有べし
ที่สาม คัมภีร์แห่งเตโช (ไฟ) ในม้วนนี้เขียนบันทึกเรื่องราวของการศึก ไฟนั้นใหญ่ได้เล็กได้เปลี่ยนไปอย่างอัศจรรย์ จึงได้มีจิตคิดถึงตรงนี้ เขียนเรื่องของการสัประยุทธ์ วิถีแห่งการสัประยุทธ์นั้น จะเป็นการสู้รบหนึ่งคนต่อหนึ่งคนก็ดี หรือการสู้รบหมื่นต่อหมื่นก็ดี ก็เป็นวิถีเดียวกัน การทำจิตให้ใหญ่ ทำจิตให้เล็กนั้น ควรลองคิดพินิจให้ดี ที่ใหญ่นั้นมองเห็นง่าย ที่เล็กนั้นมองเห็นยาก สิ่งปลีกย่อยดังกล่าว เรื่องราวของคนจำนวนมากนั้น ยากจะแทงตลอดในทันใด เรื่องของคนหนึ่งคนนั้น เปลี่ยนแปลงไปตามใจหนึ่งใจ เนื่องเพราะมันเร็วไว การรู้ซึ่งที่เล็กนั้นจึงได้มาโดยยาก ขอจงคิดพินิจให้ดี
`此火の巻の事はやき間のことなるによつて日々に手馴常の如く思ひ心のかはらぬ所兵法の肝要也 `然るによつて戦勝負の所を `火の巻 `に書顕す也
คัมภีร์แห่งเตโชนี้ เนื่องเพราะเป็นสิ่งที่ชั่วขณะไว การฝึกให้เคยมือทุกวัน คิดอยู่เป็นนิตย์ ใจไม่เปลี่ยนแปลง คือข้อใหญ่ใจสำคัญของพิชัยสงคราม อาศัยความดังนั้น จึงเขียนสำแดงซึ่งการแพ้ชนะในศึก ใน “คัมภีร์แห่งเตโช”
`第四 `風の巻 `此巻を風の巻としるす事我一流の事にはあらず `世の中の兵法其流々の事を書載する所也 `風 `と云に於ては `昔の風 `今の風 `其家々の風 `などとあれば世間の兵法其流々のしわざをさだかに書顕す是風也 `他の事を能知らずしては自のわきまへ成がたし `道が事々をおこなふに `外道 `と云ふ心有り `日々に其道を勤むると云ふ共心のそむけば其身のよき道と思ふ共直なる所より見れば実の道には有らず `実の道をきはめざれば少心のゆがみに付て後には大きにゆがむもの也 `吟味すべし
ที่สี่ คัมภีร์แห่งวาโย (ลม) คัมภีร์นี้เขียนไว้ให้เป็นคัมภีร์แห่ง “วาโย” (ซึ่ง) มิใช่เรื่องของสายสำนักของข้าฯ เป็นส่วนที่เขียนใส่ไว้ซึ่งเรื่องของสายสำนักพิชัยสงครามต่างๆ ในโลก ที่เรียกว่า “วาโย” (ลม 風 คาเซะ นั้น หากถือเอาว่า (“ลม” ในที่นี้) หมายถึง แบบสมัยเก่า แบบสมัยนี้ แบบของตระกูลต่างๆ (ฟู 風 แบบ หรือฝรั่งเรียกว่า style) การเขียนสำแดงให้แจ้งจะซึ่งความประพฤติของสายสำนักพิชัยสงครามต่างๆ ในโลกนี่แหละคือ วาโย หากไม่รู้เรื่องของคนอื่นให้ดี การจะรู้ซึ้งซึ่งตนเองนั้นเป็นได้ยาก ในการที่วิถีปฏิบัติสิ่งต่างๆ นั้น ต้องมีจิคคิดถึงสิ่งที่เรียกว่า “การหลุดออกจากวิถี” แม้จะกล่าวว่าหมั่นเพียรในวิถีนั้นทุกวันๆ ก็ตาม หากใจหันหลัง (แผลงเป็น ออกห่าง) แม้คิดว่าเป็นวิถีอันดีของตัวแล้ว หากมองมาจากที่อันซื่อตรง จะ (เห็น) เป็นวิถีที่แท้ก็หาไม่ หากไม่ทำให้สุดซึ่งวิถีที่แท้ ใจมีความบิดเบี้ยวเพียงเล็กน้อย ภายหลังจะกลายเป็นความบิดเบี้ยวอันใหญ่ ควรคิดพินิจ (ข้อนี้)
`他の兵法 `剣術ばかり `と世に思ふ事尤也 `我兵法の利わざに於ても各別の儀也 `世間の兵法を知しめん為に `風の巻 `として他流の事を書顕す也
ในโลกนี้ (ผู้คน) คิดว่าพิชัยสงครามอื่นนั้น “มีแต่วิชาดาบ” กันเป็นที่ยิ่ง แม้ในความดีและกระบวนท่าของพิชัยสงครามของข้าฯ ก็เป็นข้อที่แยกต่างออกไป เพื่อให้รู้พิชัยสงครามในโลก จึงเขียนสำแดงซึ่งเรื่องของสายสำนักอื่นเป็น “คัมภีร์แห่งวาโย”
`第五 `空の巻 `此巻 `空 `と書顕す事 `空 `と云ひ出すよりしては `何をか `奥 `と云 `何をか `口 `といはん `道理を得ては道理をはなれ兵法の道におのれと自由ありておのれと奇特を得 `時にあひてはひやうしを知り自ら打自あたる是皆空の道也 `おのづと実の道に入事を `空の巻 `にして書とどむるもの也
ที่ห้า เป็นการเขียนสำแดง คัมภีร์แห่งอากาส (ที่ว่าง) เมื่อพูดว่า “ที่ว่าง” จะพูดว่าอะไรคือ “ลึกข้างใน” อะไรคือ “ปากทาง” หาได้ไม่ ได้มาซึ่งหลักการแล้วจึงถอยห่างจากหลักการ มีอิสระในวิถีแห่งพิชัยสงครามกับตัวเอง ได้สิ่งมหัศจรรย์กับตัวเอง รู้จังหวะเข้ากับเวลานั้นเอง ตีของมันเอง โดนของมันเอง นี้ล้วนคือ วิถีแห่งอากาส จึงเขียนหยุดที่เรื่องการเข้าสู่วิถีที่แท้ของมันเอง เป็น “คัมภีร์แห่งอากาส”
การตีความและอภิปราย
ยอมรับว่านี่เป็นบทที่แปลยากมากอันหนึ่งสำหรับผม ต้องอ่านทวนหลายรอบมากมาย แต่การอ่านทวนหลายรอบมันก็ดีอยู่อย่าง คืออ่านแล้วได้ขบคิดไปด้วย แต่เนื่องจากบทนี้เป็นเพียงอินโทรของเนื้อหาที่จะได้กล่าวต่อไป ผมจะไม่ขอพรรณนาให้มากเกินความไปเพราะเกรงว่ามันจะเพี้ยน แต่จะขอพูดถึงสิ่งที่ได้ “ฉุกคิด” จากการอ่านบทนี้ แล้วย้อนมองตัวเองในการฝึก bjj จนถึงเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวันนะครับ
ช่วงที่ผ่านมาราวหกเดือน หรือนับตั้งแต่ผมได้ขาวสี่แถบ มาถึงตอนนี้ปี 2565 มองย้อนไปปี 2564 ผมกลับรู้สึกว่าเป็นช่วงครึ่งปีหลังที่ผมจะใช้คำว่าอะไรดีล่ะ คล้ายๆ ว่า “หลงทาง” คือไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไป “เอาดี” ตรงจุดไหนดี (จนบางทีรู้สึกว่าตัวเองนี่ไม่มีไรดีเด่นสักอย่าง) แต่สุดท้ายก็ปลงตกว่าเราควรจะ “ถอยห่าง” จากความนึกคิดอะไรต่างๆ ที่มันวุ่นๆ วายๆ เสียก่อน ทำหัวให้ว่างๆ แล้วก็แค่ “ซ้อมไปเรื่อยๆ” ทุกวัน แล้วก็มองดูตัวเองตอนอยู่บนเบาะให้ได้ “ทุกขณะจิต” เวลาตัวเองขึ้นบน เวลาตัวเองโดนทับ เวลาตัวเองกำลังจะโดนซับมิชชั่น เวลาตัวเองมองหาทาง “หนีออกมา” (escape ในยูโดเรียกว่า นิเงะ 逃げ) แล้วพลิกมา pass guard กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ (เช่น side control เป็นต้น)
สุดท้ายมาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมสรุป “สิ่งที่ผมทำได้” (ดูจากผลประกอบการ sparring ที่ผ่านมา) ที่คิดว่า “ควรจะขัดเกลาให้ดีกว่านี้” ดังนี้
● ท่ายืน: ท่าสาย “ทิ้งตัว” คือสุมิกาเอชิ กับ อุระนาเงะ และจริงๆ ควรฝึกท่าสายเกี่ยวขา (leg trip) เพิ่ม
● Pass guard: knee cut pass
● Guard: closed guard, half guard
● Transition: closed guard to back take, kesa gatame-side control-reverse kesa-mount, daki wakare (when opponent in turtle position)
● Submission: cross collar choke from closed guard, bow and arrow choke, arm bar from kesa gatame
Arm bar from Kesa Gatame (ที่มา BJJ Kesa Gatame – arm bar and Key Lock – Brazilian Jiu Jitsu Technique with Edward Anthony – YouTube)
道理を得ては道理をはなれ(離れ)
โดริ โวะ เอเตะ วะ โดริ โวะ ฮานาเระ
“ได้มาซึ่งหลักการแล้วจึงถอยห่างจากหลักการ”
“ได้มาซึ่งหลักการแล้วจึงถอยห่างจากหลักการ” อะไรที่ถึงทำได้แล้ว ก็ต้องถอยห่างออกมา (เพราะถ้าเราลองถอยห่างออกมาเราอาจเห็นสิ่งที่ตอนแรกเรามองไม่เห็น) มองหา “สิ่งที่จะทำให้มันดีขึ้นกว่านี้” เหมือนผมจะค่อยเข้าใจคำนี้แล้ว แต่ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไปครับ
อีกคำที่อ่านแล้วสะกิดใจก็คือ
日々に手馴常の如く思ひ心のかはらぬ(変わらぬ)所兵法の肝要也
ฮิบิ นิ เทะนาเระ ทสึเนะ โนะ โกโตคุ โอโมฮิ โคโคโระ โนะ คาวารานุ โทโกโระ เฮียวโฮ โนะ คันโย นาริ
การฝึกให้เคยมือทุกวัน คิดอยู่เป็นนิตย์ ใจไม่เปลี่ยนแปลง คือข้อใหญ่ใจสำคัญของพิชัยสงคราม
ถ้าจะมีอะไรที่พอจะคุยได้ว่าทำสำเร็จในปีแล้ว ก็คงมีเรื่องที่ตั้งใจทำ Intermittent Fasting บวกกับ Flexitarian นี่แหละ พูดง่ายๆ คือมันเป็นการฝึกให้ตัวเองอยู่ในกรอบกำหนด (regimen) โดยมุ่งเป้าทำสุขภาพให้ดีขึ้น เพราะคิดว่าด้วยอายุแล้ว การจะ “เค้น” ให้ร่างกายตัวเองทนทานการฝึกได้ต่อเนื่องนั้น จำเป็นต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งในขณะที่ทำบอกตรงๆ ว่ามันก็มีทั้งช่วงที่เหมือนจะไม่ก้าวหน้า ช่วงที่เหมือนจะหยุดนิ่งเข็นไม่ขึ้น แต่สุดท้ายด้วยการทำให้ต่อเนื่อง (ฝึกให้เคยมือ) วันไหนพลาดท่าน้ำหนักขึ้นก็ต้องคิดหาสาเหตุ (คิดอยู่เป็นนิตย์) และแน่วแน่ทำไปให้ถึงเป้าที่ตัวเองวางไว้ (ใจไม่เปลี่ยนแปลง) ผลลัพธ์คือ ณ ปลายเดือนมกราคม 2565 ผมน้ำหนักเหลือ 78.7 กก. ถือว่ามาไกลแล้วนับจากปลายเดือนกันยายนปีที่แล้ว ดูเอาเองละกันครับ
ฉะนั้น คนเราหากตั้งใจเรียนรู้เอาภูมิปัญญาอย่างพิชัยสงครามในคัมภีร์ห้าห่วง แล้วเอามันมาใช้กับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างจริงๆ จังๆ ย่อมจะมีความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ ได้แน่นอนโดยที่หากรู้จักใช้ดีๆ มันจะใช้กับเรื่องอะไรก็ได้ไม่เกี่ยงว่าเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ดังคำที่ว่า
尺のかた(型)を以て大仏をたつるに同じ
ชาคุ โนะ คาตะ โวะ มตเตะ ไดบุตสุ โวะ ทัตสุรุ นิ โอนาจิ
เหมือนกันการอาศัยแบบจำลองแค่หนึ่งชาคุ (尺 เท่ากับราวหนึ่งฟุต) สร้างพระใหญ่ (ไดบุตสุ 大仏)
อีกสิ่งที่ผมคิดว่าเวลาคนเราตั้งใจจะทำอะไรนั้น สิ่งที่ต้องระวังก็คือ “การหลุดออกไปจากวิถี” (เกะโด 外道) อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า distracted คือใจเราถูกดึงออกไปทางนั้นทางนี้ที่แหละครับ (เพราะมันอาจทำให้เราเสียเวลาไปเปล่าๆ) โค้ชของผมยังเคยบอกว่า ผมน่ะจงลืมเซโออินาเงะไปเสีย แล้วตั้งใจทำสิ่งที่ทำได้อยู่แล้วตอนนี้ให้ดียิ่งขึ้นไปดีกว่า บางทีเราก็อยากได้อยากมีเนาะ เห็นคนอื่นทำได้ก็อยากทำได้บ้างแต่ลืมไปว่าความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ก่อนจากกันวันนี้ มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านบางท่านอาจสงสัยว่าผมอารมณ์ไหนจึงเอาคำบาลี ปฐวี อาโป เตโช วาโย อากาส มาใช้ ทำไมไม่ใช้คำไทยแบบ ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศ ล่ะ? โดยส่วนตัวผมคิดว่าแนวคิดของมูซาชินั้นเอาจริงๆ น่าจะอิงกับพุทธศาสนาไม่น้อย เลยเห็นว่าน่ายืมเอาคำใช้ในประเภทของ “กสิณ” ซึ่งเป็นสมถะกรรมฐานอย่างหนึ่งมาใช้ได้เหมือนกัน
วันนี้ก็ขอจบดื้อๆ แต่เพียงเท่านี้ก่อน พบกันใหม่สัปดาห์หน้าสวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (5) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): วิถีแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (4) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): ยกตัวอย่างวิถีแห่งพิชัยสงครามกับช่างไม้
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (3) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): สิ่งที่เรียกว่าวิถีแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (2) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): บทนำ
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (1) บทนำ
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (6) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การแต่งคัมภีร์ทั้งห้าม้วนแห่งพิชัยสงครามนี้