ครือว่า…เมษานี้ ดิ-ฉัน-จะ-หนี-ร้อน-ไป-ญี่-ปุ่น-ค่ะ! เย้! ไม่ได้ไปญี่ปุ่นมา 2 ปีแล้ว ดูใน Facebook ก็มีคนโพสต์รูปโตเกียวบานาน่ารสใหม่เอย หิมะเอย รูปซากุระเอย น่าอิจฉามาก แต่ในที่สุด…วันนี้ ก็ถึงทีข้าพเจ้าแล้ว วะฮ่าฮ่าฮ่า
ครือว่า…เมษานี้ ดิ-ฉัน-จะ-หนี-ร้อน-ไป-ญี่-ปุ่น-ค่ะ! เย้! (ขออนุญาตงด Comment ประเภทฝากซื้อของนะจ๊ะ…555)
ไม่ได้ไปญี่ปุ่นมา 2 ปีแล้ว ดูใน Facebook ก็มีคนโพสต์รูปโตเกียวบานาน่ารสใหม่เอย หิมะเอย รูปซากุระเอย น่าอิจฉามาก แต่ในที่สุด…วันนี้ ก็ถึงทีข้าพเจ้าแล้ว วะฮ่าฮ่าฮ่า
กว่าจะจองตั๋วและตกลงตารางเวลาได้ ก็เหลือเวลาก่อนออกเดินทางอีกไม่ถึง 3 อาทิตย์เองค่ะ แถมเดือนนี้มีหยุดสงกรานต์อีก วันนี้เลยแจ้นไปทำวีซ่าตรงศูนย์รับยื่นขอวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC) ตรงสีลมมา ขอเล่าเป็นข้อๆนะคะ
1. การเริ่มต้นและการรอคอย
ศูนย์ JVAC อยู่ชั้น 15 เปิดเวลา 8.30 น. ขณะขึ้นลิฟท์ มีคนกดชั้น 15 อีกแค่คนเดียวเอง ดิฉันก็แอบดีใจเพราะคาดว่า คนคงน้อยแน่เลย แถมเป็นวันจันทร์ด้วย คนเค้าคงไปทำงานกันแหละ
8.34 น. ประตูลิฟท์เปิด เดินมาตรงทางเข้าศูนย์ ถูกตรวจกระเป๋าแบบลวกๆ ตรงทางเข้าเสร็จภายใน 4 วินาที (แตกต่างกับสถานทูตอเมริกาฯโดยสิ้นเชิง รายนั้นเค้าบิ๊วอารมณ์ผู้สมัครวีซ่าให้รู้สึกเสมือนอยู่สนามบินด้วยการติดที่ตั้งเครื่อง X-ray กระเป๋าและคน คุณต้องถอดรองเท้าและเดินผ่านประตู X-ray)
8.35 น. เดินเข้าไปกดบัตรคิว
8.36 น. ปุ่มบัตรคิวแข็งมาก หลังจากใช้เล็บหัวแม่มือจิกไป 3 รอบ บัตรคิวเบอร์ 318 ก็มาอยู่ในเงื้อมมือดิฉัน
พอเงยหน้าจากตู้กดขึ้นมามองในศูนย์ฯ เห็นเก้าอี้คล้ายๆเก้าอี้ในสนามบินประมาณ 200 ที่นั่งเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา หน้าจอกำลังประกาศเรียกคุณเบอร์ 212 ให้ไปยื่นเอกสาร
นั่นแปลว่า มีคนรอก่อนหน้าดิฉัน 106 คน! ดิฉันไปหลังเวลาเปิดศูนย์แค่ 6 นาทีเอง คุณๆ ร้อยกว่าท่านมากันจากไหนยังไงคะ
2. คิดจากความว่าง…ว่างไม่มีอะไรทำ
ขณะรอคิว ดิฉันไม่มีอะไรทำ แอบนั่งฟังคนอื่นเม้าท์กันก็แล้ว สังเกตเสื้อผ้าหน้าผมคนที่ไปยื่นวีซ่าก็แล้ว เล่นมือถือก็แล้ว ผ่านไปชั่วโมงกว่า คิวยังผ่านไปแค่ 50 กว่าเบอร์ ดิฉันเลยเปลี่ยนมานั่งสังเกตการณ์สภาพต่างๆในศูนย์แทน
ยอมรับว่าสมเป็นศูนย์ของญี่ปุ่นค่ะ เขาใส่ใจดีจริงๆ (ตอนนี้ยังไม่รู้ผลวีซ่า ต้องชมเค้าไว้ก่อน..555)
ความใส่ใจอันดับแรก ได้แก่ ตู้กดน้ำ มีตั้งไว้ 2 ตู้ บริการน้ำร้อน-น้ำเย็นฟรี เขาคงเข้าใจว่าแต่ละคนต้องรอนานมาก เม้าท์แตกจนน้ำลายแห้งแล้วยังไม่โดนเรียกเสียที เลยใจดีตั้งตู้น้ำไว้ให้
ความใส่ใจอันดับสอง คือ บัตรคิว เวลากดบัตรคิว เขาจะแยกระหว่างผู้ยื่นขอคนไทย กับผู้ยื่นขอคนต่างชาติ หมายเลขคิวก็เรียงตามปกตินั่นแหละค่ะ เพียงแต่ถ้าคุณกดบัตรคิวคนต่างชาติ เวลาขานเบอร์ เขาจะขานเป็นภาษาอังกฤษ (ล้วน) คนต่างชาติจะได้รู้ตัวว่าถูกเรียกแล้ว
(เห็นแล้วนึกถึงร้านเสี่ยวหลงเปาชื่อดังในห้างแห่งหนึ่ง ตอนที่ดิฉันไป พนักงานขานบัตรคิวเป็นภาษาไทยกับจีนเท่านั้น คนญี่ปุ่นกับฝรั่งที่มาเข้าคิวต้องคอยชะเง้อบ่อยมาก เพราะฟังไม่ออกว่าเค้าเรียกเบอร์อะไร น่าสงสารจริงๆ)
ความใส่ใจประการสุดท้าย (เท่าที่ดิฉันสังเกตเห็น) คือ โทรทัศน์เสียงค่อยถึงค่อยมากที่สุด หลายคนอาจบ่นว่า เปิดไว้ทำไม ดูไปก็ไม่ได้ยิน แต่ตามธรรมเนียมญี่ปุ่น เขาจะชอบรักษาความเงียบในที่สาธารณะค่ะ เช่น ในรถไฟ ก็ขอให้ผู้โดยสารปิดเสียงและเปิดระบบสั่นแทน ก็ดีนะคะ ถ้าเปิดโทรทัศน์เสียงปกติ คนอยากเม้าท์อาจต้องตะเบ็งเสียงแข่งกับโทรทัศน์ คงเสียงเซ็งแซ่วุ่นวายน่าดู
นอกจากโทรทัศน์แล้ว เขายังมีป้ายติดขอให้ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือด้วยค่ะ ผู้ยื่นคนอื่นสังเกตเห็นหรือเปล่าดิฉันไม่ทราบ แต่ตลอด 3 ชั่วโมงกว่าที่ดิฉันนั่งรอ ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือแค่ 4-5 ครั้ง กับเสียง line ตึ่งตึ๊งไม่กี่ครั้งเอง น้อยกว่าตอนนั่ง BTS อีก 555
3. เผชิญสถานการณ์เฉพาะหน้า
11.10 น. ผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ในที่สุด ก็ถึงคิวดิฉันเสียที
“ขอเชิญหมายเลข สามร้อยสิบแปด ที่ช่องตรวจเอกสารเบอร์ 13 ค่ะ”
(3 ชั่วโมงที่ผ่านมา คุณจะได้ยินเสียงนี้หลอกหลอนทุก 2 วินาที และสะดุ้งเป็นพักๆ ว่าถึงคิวตูหรือยัง พอเหลืออีกแค่ 4-5 คิวจะถึงคิว คนส่วนใหญ่จะเก็บมือถือ/หนังสือ หยุดทำทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อฆ่าเวลาที่ผ่านมา หันมาตั้งสมาธิกับจอหมายเลขบัตรคิวด้วยความระทึกใจ)
ตอนเตรียมเอกสารสมัครวีซ่าครั้งนี้ ดิฉันเพิ่งทราบว่า เดี๋ยวนี้รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้ทำวีซ่า Multiple ได้ด้วย คือภายใน 3 ปี คุณจะเข้าออกญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้ ไม่ต้องทำวีซ่าทุกครั้ง แต่อยู่ได้ไม่เกิน 15 วัน สำหรับค่าวีซ่า ถ้าไปญี่ปุ่น 2 ครั้งขึ้นไปก็คุ้มแล้วค่ะ ดิฉันเลยตัดสินใจลองสมัครดู
ในเว็บไซต์ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าต้องยื่นอะไรแตกต่างจากคนที่ทำรอบเดียว (Single) แต่พอไปตรงเคาน์เตอร์ เจ้าหน้าที่บอกให้กรอกแบบสอบถามกับหนังสือแสดงเหตุผลในการขอวีซ่า Multiple ด้วย… มันคืออะไรกั๊น

ไปรู้เอาตอนเห็นอีใบนี้ว่า มันมีวีซ่า Multiple มีแบบที่สามารถอยู่ญี่ปุ่นได้เกิน 15 วันด้วย! มีของดีหยั่งงี้ไม่เห็นบอกกันในเว็บเลย เกตุวดีก็ลองตัดสินใจเสี่ยงดวงสมัครดู (เพิ่งมารู้ตอนอ่านรีวิวในพันทิปว่า มันได้ยากเหมือนกันนะ)

หนังสือแสดงเหตุผลในการขอวีซ่าแบบ Multiple
อันนี้ตกใจมากเพราะไม่ได้เตรียมไปและไม่รู้จะเขียนอะไรดี แบบฟอร์มหน้าตาอย่างกับข้อสอบเรียงความ และต้องรีบเขียนหน้าเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร สรุป ดิฉันมีปัญญาเขียนไปได้แค่ 4-5 บรรทัด พร่ำเพร้อว่าอยู่ญี่ปุ่นมา 8 ปี รักและผูกพันกับประเทศญี่ปุ่นมาก ดราม่าล้วนๆ ไม่มีเหตุผลเลย ไปเซิร์ชในพันธ์ทิพย์ทีหลัง เห็นมีคนที่ได้วีซ่า เค้าบอกเค้าเขียนหนึ่งหน้ากระดาษ แอบกังวลเล็กๆว่า ดิฉันจะสอบตกไหมเนี่ย…
ใครที่อยากสมัครวีซ่า Multiple อย่าลืมโหลดเอกสาร 2 อย่างข้างต้นจากเว็บนี้ด้วยนะคะhttp://www.jp-vfsglobal-th.com/thai/pdf/multiple-entry-14.06.12.pdf (ขอบพระคุณข้อมูลดีๆจากกระทู้นี้ค่ะ ลองเข้าไปอ่านประสบการณ์คนเคยสมัครวีซ่า Multiple ดูนะคะ)http://www.mikiiz.com/pantip.aspx?topicid=30128539)
4. การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
ที่นี่ … เจ้าหน้าที่ไทยเหมือนคนญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเหมือนคนไทย
เริ่มจากฝั่งพนักงานไทยก่อนก็แล้วกัน น้องเจ้าหน้าที่คอยตรวจรับเอกสารดิฉันอัธยาศัยดีมาก ถามอะไรก็ตอบด้วยความเต็มใจและสุภาพ ไม่มีทีท่าเซ็งหรือเหนื่อยหน่ายเลย ระดับการบริการพอๆกับคนญี่ปุ่นค่ะ ปลื้มมาก ^^ พอน้องตรวจเอกสารเรียบร้อย และดิฉันปั่นเรียงความแสดงเหตุผลการขอวีซ่าเสร็จ ก็ไปนั่งรอจ่ายเงิน
11.37 น. ดิฉันก็เดินหลั่นล้ากลับไปที่ทำงานอย่างสบายใจ
15.21 น. โทรศัพท์ดังขึ้น ดิฉันรับสาย ก็มีเสียงผู้หญิงว่า “สวัสดีก๊ะ คุณเกตุวดีใจ้ไหมก๊ะ” ฟังไป 2-3 ประโยค ถึงค่อยเข้าใจว่า เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นนั่นเอง พูดภาษาไทยคล่องมาก!
ฟังจากเสียงดังฟังชัดมีอำนาจ เธอน่าจะมีชื่อประมาณอากิโกะซัง เรียกอากิโกะละกัน 555
ที่แอบตกใจคือ มีอยู่ตอนหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ขาดๆ หายๆ อากิโกะก็พูดขึ้นมาว่า “อะไรนะ! พูดอีกทีซิ” เสียงดังๆ ดุๆ หน่อยด้วย อย่างกับคนไทยแน่ะ (ปกติ ในกรณีนี้ ผู้หญิงญี่ปุ่นจะเอียงคอและบีบเสียงพูดน่ารักๆหน่อยว่า “เอ๊ะ เอ๊ะ ไม่ได้ยินเลยค่ะ”)
ก่อนวางโทรศัพท์ ดิฉันเลยลองถามชื่อเขาดู หนึ่งเพราะประทับใจในความสามารถในการใช้ภาษาไทยมากๆ และสอง เพราะดิฉันต้องแฟกซ์เอกสารส่งไปให้อากิโกะเพิ่ม จะได้เขียนถูกว่าส่งให้ใคร น่าเสียดาย อากิโกะบอกว่า เธอไม่สามารถบอกชื่อ-สกุลจริงแก่บุคคลภายนอก ดิฉันเลยสืบทราบเพียงว่า อากิโกะคือเจ้าหน้าที่เบอร์ 7X
อากิโกะจะให้วีซ่า Multiple ดิฉันหรือไม่? ถ้าให้ จะให้แบบเกิน 15 วันหรือไม่? โปรดติดตามเป็นกำลังใจให้นางสาวเกตุวดีด้วยเค่อะ (ไว้จะมาอัพเดททางเพจเฟสบุ๊คน้า)
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura