ผมอยากจะบอกผู้อ่านทุกท่านว่า… ดิสนีย์แลนด์ในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่สวนสนุก แต่มันคือวิตามินของประเทศ!! ดิสนีย์ไม่ใช่สถานที่ที่ขาดไม่ได้… แต่มันเป็นสถานที่วิเศษที่ขายความสุขและผลิตสายสัมพันธ์ให้คนในญี่ปุ่น
ผมอยากจะบอกผู้อ่านทุกท่านว่า… ดิสนีย์แลนด์ในญี่ปุ่นไม่ใช่แค่สวนสนุก แต่มันคือวิตามินของประเทศ!!
ดิสนีย์ไม่ใช่สถานที่ที่ขาดไม่ได้… แต่มันเป็นสถานที่วิเศษที่ขายความสุขและผลิตสายสัมพันธ์ให้คนในญี่ปุ่น
อาทิตย์ที่แล้ววันที่สิบแปด.. เป็นวันเกิดมิกกี้เมาส์ หนูที่ดังที่สุดในดาวเคราะห์ของเรา ที่น่าทึ่งคือ มิกกี้เมาส์อายุ 88 ปีแล้ว ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนเลยอยากพูดถึง “บ้าน” ของมิกกี้เมาส์สักหน่อย… ซึ่งในเกาะฮอนชูก็มีบ้านของมิกกี้ตั้งตระหง่าน ตั้งรับลมทะเลที่สถานี ไมฮามะ แปลเป็นไทยว่า “อ่าวไม” มีที่มาว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจงใจตั้งชื่อ สถานีนี้เพื่อดิสนีย์แลนด์โดยเฉพาะ เพราะดิสนีย์เวิร์ลด์ตั้งอยู่ที่ “ไมอามี่” เขาเลยจงใจให้ตั้งชื่อ ไมฮามะ ให้สอดคล้องกับไมอามี่ พร้อมกับใช้คันจิที่แปลว่า อ่าวเริงระบำ (ผมว่าดูดีเลยนะ)
ดินแดนแห่งนี้มีขนาดประมาณหนึ่งตารางกิโลเมตร… นี่เป็นแดนแห่งความฝันของญี่ปุ่น เด็กน้อยทุกคนจากทั่วเกาะญี่ปุ่นต่างรัก ชื่นชอบและต้องการมาเยือนดินแดนแห่งนี้ พวกเขาเรียกดินแดนแห่งนั้นว่า “ดิสนีย์แลนโดะ”
1. หลักฐานว่าญี่ปุ่น รักดิสนีย์จริงๆ – ไปแล้วอยากไปซ้ำ
ผู้เขียนเองอยู่ญี่ปุ่นมากว่าสิบปี อยู่ตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยจนทำงานเป็นซาลารี่แมน… ปากก็บอกว่าดิสนีย์แลนด์ไม่สนุก ของเล่นไม่หวาดเสียว… แต่ความจริงผมไปดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซีรวมกันเก้าครั้ง ^^ (โดยส่วนตัวผมชอบดิสนีย์ซีมากกว่านะ เพราะวิวสวยกว่า รถเข็นเด็กน้อยไม่ต้องระวังมาก หรือจะกินเบียร์ก็ไม่ผิด)
คนญี่ปุ่นชอบและรักดิสนีย์จริงๆ อย่างทุกปีที่บริษัทจัดงานปีใหม่ รางวัลต้นๆ ที่ใครๆ ก็อิจฉาคือตั๋วดิสนีย์แลนด์/ดิสนีย์ซีสองใบนี่แหล่ะ!! (ไม่รู้ว่าสมมติซาลารี่แมนหรือเด็กมหาวิทยาลัยได้ตั๋วไปเที่ยว Dreamworld หรือสวนสยาม จะดีใจและมีคนอิจฉาเหมือนกันไหม) ขนาดผู้เขียนตอนจับฉลากได้ ยังดีใจมากๆ เลย
2. ดิสนีย์ของคนญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่ดินแดนความฝัน
แต่คือดินแดนแห่งความรักด้วย
อาจเพราะคนญี่ปุ่นถูกปลูกฝัง ตั้งโปรแกรมตั้งแต่เด็กถึงความสนุก สวยงามน่ารักของดิสนีย์ทำให้เหล่าหนังสือจีบสาวของญี่ปุ่น แทบจะเขียนไว้เป็นสูตรด้วยซ้ำ ว่าหากจีบสาวคนไหนแล้วเธอยอมไปกินข้าวกับเราถึงสองครั้งแล้ว ครั้งที่สามนี่แหล่ะให้ชวนเธอไปดิสนีย์ และปิดเกมด้วยการขอเป็นแฟน!! เพราะเวลาไปเที่ยวดิสนีย์เราจะใช้เวลาอยู่กับเธอคนนั้นกว่าแปดชั่วโมง จะได้กินข้าว ได้คุยกันตอนรอแถวแบบช่วยไม่ได้ (เพราะหนีไปไหนไม่ได้ ยังไงๆ ก็ต้องรอในแถวเป็นหลักชั่วโมง)
ดิสนีย์จริงจังกับมโนทัศน์ความเป็นดินแดนแห่งความฝันมาก สิ่งแรกที่เป็นเหมือนกฏเหล็กของดิสนีย์คือเป็นสวนสนุกที่ไม่มีชิงช้าสวรรค์ ทั้งๆที่สาวๆ หลายรายต่างน่าจะชอบนั่งชิงช้าสวรรค์ แต่ดิสนีย์จะไม่สร้างชิงช้าสวรรค์เพราะถ้ามี ก็จะเห็นทั้งที่จอดรถ ตึกด้านนอกมันจะทำให้เสียความรู้สึกการเป็นดินแดนในฝัน !!
และที่สุโก้ยที่สุดคือ ดิสนีย์ไม่ได้มีแค่สวนสนุก ดิสนีย์ยังมีโรงแรมรีสอร์ท ที่เรียกว่าแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์ต้องบอกว่า อดใจไม่ไหว ต้องนอนให้ได้ รวมถึงยังมีสถานที่ให้จัดงานแต่งอีกต่างหาก ซึ่งสาวๆ ญี่ปุ่นมากมาย แฮปปี้สุดๆ ที่จะเป็นเจ้าสาวดั่งซินเดอเรล่า ในจักรวาลดิสนีย์ บอกเลยมัน so sweet มาก
3. เมื่อดิสนีย์มาอยู่ญี่ปุ่น ทั้งรายละเอียด ศาสตร์แห่งจิตวิทยา จะอยู่ในทุกอณู
หากผู้อ่านที่รักมีโอกาสไปเที่ยวดิสนีย์แล้ว ขอให้ดื่มด่ำกับความละเอียดละเมียดละไมของสวนสนุกแห่งนี้เยอะๆ นะครับ เราจะเห็นได้ว่าของตกแต่งในขณะรอคิวเช่น รูปภาพ ถ้วยชากาแฟ (เช่นของ Winnie the Pooh ขอบอกว่าน่ารักมาก แถมยังมีกลิ่นน้ำผึ้งหวานๆ อีก) ป้ายบอกเวลาเป็นระยะๆ ว่ารออีกกี่นาทีจะได้เล่น ซ่อนจิตวิทยาทำให้คนรู้สึกว่า รออีกเท่าไหร่ รออีกนิดก็ถึงคิวแล้วทำให้คนรอไม่หงุดหงิด และคุณจะพบว่าในสวนสนุกมันสะอาดมาก… นักวิทยาศาสตร์ เขาทำการวิจัยว่า เมื่อคนมีขยะในมือ จะต้องการทิ้งมันให้ได้ภายในสิบห้าวินาที ถ้าเกินจากนี้ไปคุณธรรมในใจของมนุษย์คนนั้นจะเหลือน้อยกว่าความมักง่าย และอาจจะวางขยะไว้ข้างๆ ต้นไม้ แทนที่จะไปตั้งอกตั้งใจหาถังขยะ
ท้ายสุดแต่ไม่สุดท้าย… อยากจะบอกผู้อ่านว่า หากมีโอกาส หรือได้โอกาสไปเยือนดินแดนดิสนีย์ของญี่ปุ่น อย่าลังเล และขอให้เสพความรื่นเริง ความมีขีวิตชีวาในนั้นให้เยอะที่สุด มันคือวิตามินชั้นยอดในการใช้ชีวิตทีเดียว เพราะทันทีที่คุณออกมาจากจักรวาลความฝันดิสนีย์ คุณก็ต้องไปพบกับโลกความจริง เสียงวุ่นวายในสถานีรถไฟพร้อมกับเหล่าคนญี่ปุ่น ที่ไม่ได้จะหน้าตารื่นเริงเหมือนมิกกี้เมาส์หรือโดนัลด์ ดักส์อย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกท่านไปสัมผัสโลกในจินตนาการสักหนึ่งวันก็ยังดี… เพราะตัวผู้เขียนเอง เคยมีสาวที่อยากจะชวนไปดิสนีย์มาก และสุดท้ายก็ไม่ได้มีโอกาสนั้น…. ทำให้ผมยังติดในใจจนถึงทุกวันนี้
สุดท้ายนี้อย่างที่บอก ดิสนีย์แลนด์ไม่ใช่ของจำเป็น ไม่ไปก็ไม่ตาย แต่ถ้าเราเสียกำลังใจ/ผิดหวังหรือต้องการความ enjoy ในชีวิต ลองไปสวนสนุกแห่งนี้กับคนพิเศษหรือที่สนิทด้วยสิครับ.. มันจะช่วยคุณได้
และขอทิ้งท้ายกับคำคมในหนังดิสนีย์เรื่องนึงละกันครับ ที่น่าจะสร้างความหวังและความฝันให้ทุกท่านได้ดี
<Quote of this week>
“Even miracles take a little time.”
– Fairy Godmother, Cinderella
แม้แต่ปาฏิหาริย์ ก็ยังต้องการเวลา
เรื่องแนะนำ :
– ญี่ปุ่น ไม่คาวาอี้… not cool Japan
– สนั่นวงการนาซ่า “Kimi no na wa” x พระเอกตัวจริง
– The Meigen คำคม คนทำงานญี่ปุ่น (เท่าที่เจอเอง)
– ฮอนดะ โซอิจิโร่ สอนคนให้กลายเป็นมนุษย์
– 哀悼 (Aitou) ว่าด้วยเรื่องความอาลัย
ขอขอบคุณภาพประกอบที่น่าตกใจและน่าสนุกจาก
http://tg.tripadvisor.jp/news/ranking/tokyo_disneyhotels/
http://www.kiitdoo.com/
https://www.facebook.com/hotnanews/?fref=ts
http://xn--dckcx9c2cdtm8lrg8g.com/