100 日後に死ぬワニ “จระเข้จะตายใน 100 วัน”
จระเข้ตายในวันที่ 100 แต่ความรักและความผูกพันที่มีต่อจระเข้ไม่ได้ตายในวันที่ 100
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มองไปทางไหนในทวิตเตอร์ก็จะเห็นการ์ตูน 4 ช่องชื่อว่า 100日後に死ぬワニ หรือชื่อไทย “จระเข้จะตายใน 100 วัน” ไปทั่วทวิตภพญี่ปุ่น ผู้เขียนเรื่องนี้ชื่อว่า きくちゆうき (Kikuchi Yuki)
เนื้อเรื่องก็ตามชื่อการ์ตูนเลย จระเข้จะตายใน 100 วัน โดยนักวาดเริ่มอัพทวิตเตอร์ตอนแรกในวันที่ 19 ธ.ค. 2019 เรื่อยมาทุกวันวันละ 1 ตอน โดยในวันแรก ท้ายการ์ตูนมีข้อความเขียนว่า
ตอนที่ 1 “จระเข้จะตายในอีก 99 วัน”
ตอนที่ 2 “จระเข้จะตายในอีก 98 วัน”
ไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านไปวันตายของจระเข้ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นั่นแหละ
การ์ตูนเรื่องนี้ดังถล่มทลาย การตายของจระเข้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจนมีฟอลโลวเวอร์ทะลุล้านในเวลาอันรวดเร็ว ขณะนี้แอคเค้าท์คนวาดมีฟอลโลวเวอร์ 2.2 ล้านคนเข้าไปแล้ว
จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้
เจ้าจระเข้ไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะตาย มีเพียงผู้อ่านนี่แหละที่รู้ว่าอีกกี่วันจระเข้จะตาย และทุกๆ วันที่เข้ามาอ่านก็เป็นการนับถอยหลังวันตายของจระเข้ คนอ่านตามติดตามสังเกตชีวิตของจระเข้ทุกวัน เราเฝ้าดูชีวิตของจระเข้ในแต่ละวัน เราสงสัยว่าในแต่ละวันจะเกิดอะไรขึ้น และเรามีความหวังอันน้อยนิดว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่ทำให้เจ้าจระเข้ไม่ตาย
การ์ตูนเริ่มต้นตอนที่ 1 ด้วยการเห็นจระเข้ดูรายการทีวีอย่างมีความสุข
เราเห็นจระเข้หัวเราะ 555 เราเห็นว่าจระเข้มีความสุข แต่แล้วข้อความท้ายการ์ตูนเขียนว่า
“อีก 99 วันจระเข้จะตาย”
เราในฐานะคนอ่านก็ยิ้มไม่ออก เราเริ่มสงสัยว่าเรื่องจะเป็นไปอย่างไร จะไปจบที่ไหน เราเฝ้าติดตามแต่ละวันไปเรื่อยๆ จนวันที่ 100
เรื่องของเรื่องก็คือ คนอ่านรู้ แต่จระเข้ไม่รู้ จระเข้ใช้ชีวิตธรรมดาทั่วๆ ไป ดูทีวี อ่านวันพีซ กินราเมงกับเพื่อนๆ ไม่รู้เลยว่าตัวเขาเหลือเวลาอีกเท่าไหร่
วันที่ 3 จระเข้ช่วยชีวิตเจ้าไก่ขณะข้ามถนน
วันที่ 12 จระเข้ตกหลุมรักเพื่อนร่วมงาน
ชีวิตของจระเข้ดำเนินไปเรื่อยๆ เราเฝ้าตามติดชีวิตจระเข้จนเกิดความผูกพัน และแล้วในวันที่ 99 เหลืออีก 1 วันจระเข้จะตาย
วันที่ 99 อีก 1 วันจระเข้จะตาย
นักวาดเริ่มต้นด้วยการมีเสียงประกาศจากโทรทัศน์ว่าซากุระจะบานสะพรั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ อาจมีฝนบ้างบางพื้นที่ แต่หลายพื้นที่ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมซากุระ เจ้าจระเข้ฟังข่าวด้วยจิตใจเบิกบาน ยิ้มกว้าง
อีก 1 วันจระเข้จะตาย
การรอคอยมาอย่างยาวนานกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 มี.ค.2020 ขณะนั้นชาวเน็ตมากมายออกมาวิเคราะห์ หาทฤษฎีคาดเดาการตายของจระเข้ บางคนตั้งข้อสงสัยว่าจระเข้จะแก่ตาย บอกคนบอกจระเข้จะป่วยตาย บางคนบอกจะมีหักมุมสุดท้ายก็ไม่ตาย
จนกระทั่งวันที่ 100 วันที่จระเข้ตาย
ในตอนปกติเป็นการ์ตูน 4 ช่อง ตอนจบทั้งหมด 13 ช่อง และสุดท้ายจระเข้ก็เสียชีวิตลงจริงๆ ตอนจบทำให้น้ำตาของใครหลายคนนองหน้า ยิ่งพอได้เข้าทวิตเตอร์ไปพูดคุยกัน ตีความการ์ตูน ยิ่งทำให้ประทับใจเข้าไปใหญ่ และเมื่อยิ่งรู้ว่านักวาดวาดเรื่องนี้ด้วยแบ๊คกราวด์ที่ว่าเขามีเพื่อนที่จากไปเพราะอุบัติเหตุ เรื่องนี้เขียนเพื่อระลึกถึงเพื่อน เลยยิ่งทำให้คนอ่านอินร้องไห้เข้าไปอีก
การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูน “ชีวิต” ที่ใครหลายๆ คนเฝ้ามองชีวิตจระเข้ รวมไปถึงเกิดความผูกพัน
เสียงจากผู้อ่านที่ได้บทเรียนชีวิตดีๆจากจระเข้นั้นมีมากมาย เป็นต้นว่า
? นักวาดช่างล้ำลึกเหลือเกิน เขาอยากให้เราตระหนักว่าเราทุกคนมีเพียง 1 ชีวิต เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะตาย เราควรถามตัวเองว่าเราอยากทำอะไร และเรากำลังทำมันอยู่หรือไม่
? เราควรขอบคุณที่ตัวเรายังมีชีวิตอยู่-คุณค่าในการมีชีวิตอยู่คืออะไร ..
? จระเข้ทำให้ชั้นทบทวน เราไม่ควรเสียเวลาชีวิตไปกับสิ่งที่เราจะมาเสียใจภายหลัง
? อย่าให้มีความว่าสายเกินไปเลย
ฯลฯ
เสียงจากผู้อ่านที่ถล่มทลายในทวิตผู้เขียนและเว็บบอร์ดต่างๆ ทำให้เราเห็นว่ามีผู้อ่านมากมายที่เศร้าโศกไปกับการจากไปของจระเข้ และในขณะเดียวกันเรื่องราว “ชีวิต” ของจระเข้ก็สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้กับเราเช่นกัน
เมื่อจระเข้ตายในวันที่ 100 ดราม่าก็เริ่มขึ้นในวันที่ 100 เช่นกัน
หลังจากจระเข้ตายไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่ผู้อ่านยังคงซึ้งเศร้าโศกเสียใจกับการตายของจระเข้ ขณะที่กำลังอินกับบทเรียนชีวิต การไขปริศนาที่ซ่อนอยู่ในการ์ตูน ฯลฯ อยู่ๆ พี่นักวาดแกก็ปล่อยคลิปที่ร่วม collaboration กับ Ikimonogakari (วงดังของญี่ปุ่น) กำลังจะไปเปิดป๊อปอัพสโตร์ขายของ ไปร่วมกับมีเดียมากมายทำสินค้าออกมา ผู้อ่านปรับอารมณ์ไม่ทัน งุนงงจนมีการตั้งคำถามรวมทั้งเสียงวิพากษ์ตามมาว่าแท้จริงแล้วนี่มันคือการตลาดตั้งแต่ต้นเลยหรือไม่ และแล้วมหกรรมการแหกก็เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้
- พี่เข้มีทวิตที่เป็น Official account ในวันเดียวกัน
- บริษัทที่ทำการพีอาร์ให้คือ Dentsu ผู้ดูแลแอคเค้าท์ทวิตทางการของจระเข้ชื่อ basica แต่พอสืบค้นไปก็เจอว่าเป็นบริษัทกรุ๊ปเดียวกับเอเจนซี่ชื่อดังเดนท์สึนั่นเอง
- ตามสืบต่อใน YouTube ไม่มีชื่อ Dentsu แต่เอาชื่อของ PR planner 根本陽平 ไปสืบเจอว่านายคนนั้นแท้จริงแล้วเป็นคนทำพีอาร์ของ Dentsu จ้า
- หนังสือภาพ ภาพยนตร์อนิเมชั่น และสินค้า ก็ออกมาขายหลังจากจระเข้ตายได้ไม่กี่ชั่วโมง
- 電通案件 ติดเทรนด์ทวิตในวันที่ 21 มี.ค. เป็นทวิตที่ตามแหก Dentsu และความไม่ชอบมาพากล การบอกว่า จระเข้คือการตลาดแอบแฝง (Stealth Marketing) เดนท์สึวางแผนอยู่เบื้องหลัง เพราะโปรดัคส์ทุกอย่างไม่ว่าจะสินค้า หนังสือ อนิเมชั่น อีเว้นท์ ไลน์สติ๊กเกอร์ ฯลฯ ออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันราวกับเตรียมการไว้ล่วงหน้า เรียกว่ามีการเตรียมไว้ล่วงหน้านั้นแหละถึงออกมาได้ขนาดนี้ผู้อ่านรู้สึกว่าเป็นการเล่นกับความรู้สึกของคน จากเสียงชื่นชมกลายเป็นความโกรธในชั่วข้ามคืน
- ต่อมามือกีต้าร์วง Ikimonogakari กับผู้วาดการ์ตูน Tokuchiyuki ออกมาไลฟ์ชี้แจงเพื่อลดความโกรธของผู้อ่าน เนื้อหาก็คือปฏิเสธนั่นแหละ ตัวเขานั้นวาดการ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นมาโดยระลึกถึงเพื่อนที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เมื่อการ์ตูนดังก็มีสื่อต่างๆติดต่อเข้ามาในเดือนม.ค.เท่านั้น ในระหว่างไลฟ์นักวาดถึงกับเสียน้ำตาเลยทีเดียวเพื่อพูดถึงคอมเม้นท์ที่วิจารณ์แรงๆ เข้ามา อย่างเช่น เขาเอาการตายของเพื่อนมาเป็นเครื่องมือหากิน (แรงมากกกก)
ระหว่างไลฟ์ นักวาด (ขวามือ) ถึงกับหลั่งน้ำตา
? นักวิเคราะห์หลายสำนักทำการวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ทำให้คนไม่พอใจจนทำให้ดราม่านี้ลุกลามก็คือ
1. การออกมาขายสินค้าหลังจากจระเข้ตายโดยที่ไม่ได้ดูไทม์มิ่งช่วงเวลา
2. การที่เดนท์สึเอเจนซี่โฆษณาชื่อดังที่พูดถึงที่นี่ทีไรก็จะนึกถึงการที่พนักงานฆ่าตัวตายจากการทำงานหนัก ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับ “ชีวิต” บทสรุปท้ายเรื่องที่ผู้อ่านได้จากการอ่านก็คือการเห็นคุณค่าของชีวิต แต่เอเจนซี่เดนท์สึที่บังคับพนักงานให้ทำงานจนฆ่าตัวตายมาพีอาร์โฆษณาชิ้นนี้ มันตลกร้ายยิ่งนัก
สรุปสุดท้ายนี้ นี่เป็น case study อย่างดีของนักการตลาด
ความล้มเหลวสิ่งเดียวของเรื่องนี้ก็คือ ความรีบร้อนจนเกินไป จระเข้ตายในวันที่ 100 แต่ความรักความผูกพันที่คนอ่านที่มีต่อจระเข้ไม่ได้ตายไปในวันที่ 100 นะ มันต้องใช้เวลาทำใจ คนเราไม่พร้อมหรอกถ้าคนที่รักและผูกพันตายปุ๊บกลายเป็นสินค้าปั๊บ และ Dentsu เอเจนซี่นักวางแผนการตลาด แต่วางแผนปล่อยสินค้า ขายของ ประกาศงานอีเว้นท์ต่างๆ ออกมาในวันที่คนกำลังเศร้าโศกเสียใจ กำลังสอบตกในฐานะนักการตลาดหรือไม่ ?
ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าถึงจะเป็นไทม์มิ่งที่ไม่ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นผลงานที่ดีมากเรื่องหนึ่ง (เราแอบจุกเลยตอนอ่านจบ)
เอาเป็นว่าใครชอบก็ไปอุดหนุนสินค้าได้ เพราะมีสินค้าออกมาวางจำหน่ายเพียบ
สินค้ามากมายของพี่เข้
ป๊อปอัพสโตร์ขายของพี่เข้เชิญทางนี้จ้า
Photo credit https://matomedane.jp
ก่อนจะจบจริงๆ แล้ว เรื่องตลกร้ายอีกอย่างของดราม่านี้ก็คือ ในขณะที่ดราม่านี้กำลังเดือดลุกเป็นไฟอยู่นั้น คุณผู้อ่านกำลังคิดว่าสินค้าจะขายไม่ได้ใช่ไหม กลายเป็นว่าสินค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยจ้า
คนก็ด่ากันว่าเราต้องแบนสิวะ บ้างก็บอกว่าคนวาดก็ต้องกินต้องใช้จะมาวาดให้เอ็งซึ้งแล้วไม่มีแ-ก(กิน) รึไง แล้วเรื่องราวนี้จะจบอย่างไร พี่เข้ขึ้นสวรรค์ไปแล้วใช่ไหม สินค้าก็ยังขายโดยไม่สนใจความรู้สึกคนอ่านต่อไปหรือไม่ หากมีความคืบหน้าเราจะมารายงานต่อในตอนต่อไปโดยพลัน
ติดตามบทความสนุกๆ แบบนี้ได้อีกที่ >>> WA-Japan
เรื่องแนะนำ :
– ถ้าภูเขาไฟฟูจิระเบิดขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ !?!?
– ปีนไปให้ถึงยอดฟูจิ แล้วหย่อนจดหมายที่ไปรษณีย์บนภูเขาไฟ
– ชมฟูจิซังสวยปัง! ผ่าน 3 มุมมองใหม่
– Yahoo Japan เผยคำค้นหายอดฮิต Yahoo Japan Search Awards 2019
– สำหรับญี่ปุ่นแล้ว #ตื่นเช้าหน่อยไม่ได้มีแค่คนน้อยกว่า
เครดิตของเรื่องราวทั้งหมดที่เขียน
– https://twitter.com/yuukikikuchi
– https://news.livedoor.com/article/detail/18002855/
– https://matomedane.jp/potato/page/49533
– https://feizeus.com/wanidentu/