หลังจากที่ผมเคยเขียนเรื่องของน้อง “บลู โลตัส” นักมวยปล้ำหญิงคนแรกของไทยลงในเว็บนี้ ก็ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับดีมากๆ ผมจึงอยากจะต่อยอดตรงส่วนนี้ว่า นอกจากน้องเค้าแล้ว เมืองไทยยังมีนักมวยปล้ำอาชีพอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น และมีแฟนๆติดตามมากพ
สวัสดีครับแฟนๆ marumura ทุกคน ห่างหายจากหน้าจอไปนานพอสมควร เนื่องจากต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมทัวร์มวยปล้ำรายการ “สวัสดีค่ะ ทัวร์” ของค่ายกาโตห์ มูฟ โปร เรสลิ่ง (GATOH MOVE PRO WRESTLING) ค่ายมวยปล้ำหนึ่งเดียวของไทยในความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น โดยผมมีหน้าที่ดูแลในส่วนนี้โดยตรง จริงๆ จะปล่อยเรื่องนี้ผ่านเลยไปก็ได้ครับ
แต่หลังจากที่ผมเคยเขียนเรื่องของน้อง “บลู โลตัส” นักมวยปล้ำหญิงคนแรกของไทย ลงในเว็บนี้ ก็ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับดีมากๆ ผมจึงอยากจะต่อยอดตรงส่วนนี้ว่า นอกจากน้องเค้าแล้ว เมืองไทยยังมีนักมวยปล้ำอาชีพอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น และมีแฟนๆ ติดตามมากพอสมควร จนนำไปสู่การทัวร์ญี่ปุ่นในเมือง โอซาก้า – นาโกย่า – โตเกียว เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวของวงการมวยปล้ำอาชีพ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในดินแดนสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ครับ
สำหรับในสัปดาห์นี้ ผมจะพูดในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ก่อนที่จะไปเจาะลึกในแต่ละจังหวัดในตอนต่อๆ ไปครับ ในทริปครั้งนี้ เราเดินทางไปในวันที่ 30 มีนาคม และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 11 เมษายน ซึ่งมีนักมวยปล้ำชาวไทยร่วมเดินทางไปทั้งหมด 5 ท่าน ดังนี้
นักมวยปล้ำชาวไทย มีจุดเด่นในเรื่องของ Strong Style ที่เต็มไปด้วยความหนักหน่วง รุนแรง แต่ยังแฝงไว้ด้วยเทคนิคมากมาย ที่พร้อมจะต่อกรกับศัตรูทุกคน
นักมวยปล้ำหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่สู้เต็มที่เสมอเพื่อความภาคภูมิใจของทุกคน
นักมวยปล้ำขาโหดที่หลุดออกมาจากป่าในประเทศไทย นี่คือการตะลุยญี่ปุ่นครั้งแรกของเขา
นักมวยปล้ำหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย มีอายุเพียง 16 ปี แต่ต้องบอกว่าฝีมือ ไม่น้อยตามอายุเลย !
นัก มวยปล้ำร่างยักษ์ แต่สามารถสู้ได้ทั้งแนวแข็งแกร่งและพลิ้วไหว นี่คือการลุยญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ของเขา ถือว่ามีประสบการณ์ในแดนอาทิตย์อุทัยมากที่สุด
การปล้ำที่ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นงานที่หนักสำหรับนักมวยปล้ำชาวไทยทุกคนมากๆ ครับ เพราะนอกจากการฝึกฝนที่หนักตามแบบของนักมวยปล้ำอาชีพแล้ว พวกเขายังต้องเดินทางทั่วญี่ปุ่นซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมง อุปสรรคมากมายที่พวกเขาต้องเจอไม่ว่าจะเป็นความเหนื่อยล้า หรือประสบการณ์บนเวทีที่น้อยกว่านักมวยปล้ำอาชีพชาวญี่ปุ่นมากๆ นั่นทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาในการฝึกมากขึ้น
ญี่ปุ่นของพวกเขาไม่ใช่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แต่มันคือสังเวียนวัดใจ ที่จะพิสูจน์ตนเองในฐานะนักมวยปล้ำอาชีพกลุ่มแรกของประเทศไทย เหตุนี้ เราคงจะสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า “ประเทศญี่ปุ่นในสายตาพวกเขาทั้ง 5 คน แตกต่างจากญี่ปุ่นที่คนอื่นรู้จักอย่างสิ้นเชิง”
นอกจากนี้ “สวัสดีค่ะ ทัวร์ 2014” ยังได้รับเกียรติอย่างสูงในการลงนิตยสาร “มวยปล้ำรายสัปดาห์” ซึ่งเป็นนิตยสารมวยปล้ำอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น โดยการลงนิตยสารเล่มนี้นั้นถือเป็นเรื่องยากมากๆ โดยเฉพาะกับสมาคมมวยปล้ำที่เป็นของประเทศไทย และยังได้ลงเป็นภาพสีเต็มๆ หน้า (ปกติในนิตยสารเล่มนี้ จะแบ่งส่วนของมวยปล้ำค่ายอิสระ ไว้เพียงกรอบเล็กๆ หรือหากใหญ่หน่อย ก็จะปรับเป็นภาพขาว-ดำ ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เป็นภาพสีเต็มๆ หน้าแบบนี้) ดังนั้น ส่วนนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของวงการมวยปล้ำไทย-ญี่ปุ่นครับ
และก่อนที่จะไปดูรายละเอียดของการแข่งขันในสัปดาห์หน้า ผมขอปิดท้ายบทความในสัปดาห์นี้ ด้วยความรู้สึกจากนักมวยปล้ำหญิงสังกัดค่าย GATOH MOVE PRO WRESTLING สาขาญี่ปุ่น จำนวน 5 คน ที่ได้พูดถึง “สวัสดีค่ะ ทัวร์ 2014 และนักมวยปล้ำไทย” เอาไว้ดังนี้
สวัสดีค่ะ ! ฉัน คิตาซาวะ ฟุกิน นะคะ ! ในสวัสดีค่ะ ทัวร์ครั้งนี้ ฉันได้ขึ้นปล้ำอาชีพเป็นครั้งแรก ซึ่งฉันมีความสุขจนร้องไห้เลยล่ะค่ะ ! มันตื่นเต้นมากๆ ! ฉันพยายามหายใจเข้าลึกๆ แต่ก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย เพราะคู่ต่อสู้ของฉัน คืออาจารย์เอมิ ซากุระ ! ฉันพยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็แพ้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ! ฉันมีความสุขมากๆ ตอนฉันกลับบ้านไป ก็คิดในใจว่า ความฝันของฉันสำเร็จไปอีกขั้นแล้วนะ ! ฉันได้เป็นนักมวยปล้ำอาชีพแล้ว ! จากนี้ ฉันก็จะพยายามอย่างเต็มที่ ไม่ให้แพ้นักมวยปล้ำชาวไทย ฉันจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ !
สวัสดีค่ะ ! ฉันริโฮเองนะคะ ! ฉันมีความสุขมากๆ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนไทยมาเยอะขนาดนี้ นอกจากนี้ “สวัสดีค่ะ ทัวร์” ยังสนุกมากอีกด้วย เพราะฉันคิดในใจอยู่เสมอว่า การปล้ำดีๆแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หรอก หากว่ามีแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้น ฉันเชื่อว่าสาเหตุที่มันออกมาสำเร็จแบบนี้ ก็เป็นเพราะคนไทย-ญี่ปุ่น ร่วมมือกันนั่นเอง ดังนั้น… ขอบคุณทุกคนนะคะ !
สวัสดีค่ะ ! หนูชื่อ [โคโตริ] ก่อนอื่นหนูคิดว่าทัวร์ครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วและจบไปเร็วมากเลย เราตระเวนไปทั่วทั้ง โอซาก้า นาโกย่า โตเกียว หนูรู้สึกมีความสุขมากๆ ค่ะ หนูดีใจที่นักมวยปล้ำไทยตื่นเต้นไปกับภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่น นอกจากนี้หนูยังตื่นเต้นมากๆที่ได้สู้กับ Peppermint นักมวยปล้ำหญิงคนที่สองของไทย และถึงแม้หนูจะชนะไปได้ แต่ต้องยอมรับเลยว่าเธอพัฒนาขึ้นเยอะมาก ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง ! อย่างไรก็ตาม หนูคิดว่าหนูก็ต้องพยายามฝึกฝนให้มากกว่านี้ หนูอยากจะชนะให้มากขึ้น อยากจะเก่งขึ้นอีกเรื่อยๆค่ะ ! และที่สำคัญ ! หนูยังตื่นเต้นมากที่มีรายการโทรทัศน์จากประเทศไทยมาทำข่าวการทัวร์ครั้งนี้ ! หนูรู้สึกว่า “สวัสดีค่ะ ทัวร์” ครั้งนี้เป็นเหมือนสมบัติล้ำค่าอย่างหนึ่งที่เด็กอายุ 16 ปีอย่างหนูจะได้รับ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย มีนักมวยปล้ำจากค่ายอื่นๆมาสนุกด้วยกัน มีหลายต่อหลายอย่าง หนูเลยใจหายเมื่อทุกอย่างมันผ่านไปซะแล้ว… ขอบคุณนักมวยปล้ำทุกคน และหวังว่าจะได้พบกันใหม่เร็วๆนี้พร้อมกับรอยยิ้มนะคะ !
สวัสดีค่ะ ! ฉันชื่อ “โอบิ” นะคะ ! ก่อนอื่นฉันต้องบอกว่าทัวร์นี้มันเต็มไปด้วยเรื่องสนุก เสียงหัวเราะ หรือแม้กระทั่งน้ำตา ! ฉันพูดตรงๆว่าตอนแรกที่สมาคมของเราร่วมมือกับประเทศไทย ฉันก็ไม่แน่ใจนักว่านักมวยปล้ำไทยจะเป็นยังไง แต่หลังจากทัวร์นี้ผ่านไป ฉันก็มั่นใจเลยว่า “ฉันอยากจะเดินไปบนเส้นทางเดียวกันกับพวกเขา” ดังนั้นฉันขอบคุณนักมวยปล้ำไทยทุกคนนะคะที่สนับสนุนกันและกันมาโดยตลอด ฉันจะพยายามให้เต็มที่ค่ะ !
สวัสดีค่ะ ฉันไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง แต่ก็ต้องบอกว่าทัวร์ครั้งนี้จบลงแล้ว และเราก็กลับเข้าสู่ชีวิตตามปกติ ฉันมานั่งคิดไปถึงเรื่องสมัยก่อน ตอนตัดสินใจเดินทางมาเมืองไทย มันเหมือนกับว่าฉันแบกความฝันอันยิ่งใหญ่ ไปใส่ไว้ในรถบัสเล็กๆ แต่สุดท้ายจากสิ่งเล็กๆ มันก็ค่อยๆเติบโตขึ้นทีละนิดทีละน้อย ฉันอยากให้มันใหญ่ขึ้น อยากให้มันสูงขึ้นเรื่อยๆ และฉันไม่อยากให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน ดังนั้นทุกคนในกาโตห์ มูฟจะพยายามกันอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นรากฐานดีๆ ให้กับมวยปล้ำอาชีพ “แห่งแรก” ในประเทศไทยค่ะ
ติดตามสรุปเรื่องราว “การเดินทางของนักมวยปล้ำไทย ในประเทศญี่ปุ่น” ได้ในสัปดาห์หน้า ทั้งผลการแข่งขัน และบรรยากาศระหว่างการเดินทาง ทั้งการพบเจอดอกซากุระครั้งแรก การไปทัวร์ปราสาทนาโกย่า และการเผชิญหน้ากับแฟนมวยปล้ำ “ที่ไม่เคยรู้จักนักมวยปล้ำไทยมาก่อน” จะสนุกสนานและน่าสนใจขนาดไหน ติดตามอ่านกันได้ในสัปดาห์หน้าครับ
ติดต่อปูมิได้โดยตรงทางทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii ขอบคุณภาพประกอบจาก aoikougei และ tanaka ichiro ครับ !