เที่ยวสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองไทย ก็เราจะพาไปสัมผัส Yunomori Onsen & Spa ออนเซนแห่งแรกในประเทศไทยกันไงล่ะ เคยแนะนำกันมาบ้างแล้ว คราวนี้จะมาไปชมด้านนั้นกันเลย..
พาเที่ยวในญี่ปุ่นกันมาเยอะแยะแล้ว ครั้งนี้ก็ยังจะพาเพื่อนๆ ชาว marumura เที่ยวในสไตล์ญี่ปุ่นนะ แต่.. เป็นเที่ยวสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองไทย ก็เราจะพาไปสัมผัส Yunomori Onsen & Spa ออนเซนแห่งแรกในประเทศไทยกันไงล่ะ เคยแนะนำกันมาบ้างแล้ว คราวนี้จะมาไปชมด้านนั้นกันเลย..
ที่จับตามองเป็นอย่างมากสำหรับ Yunomori Onsen & Spa เนื่องจากเป็นสถานที่พักผ่อนสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่จัดว่าวางธีมได้แหวกแนวไลฟ์สไตล์คนไทยอยู่ไม่น้อย หลายคนคิดว่าเมืองไทยก็อากาศร้อนแสนร้อนเกือบตลอดทั้งปี แล้วทำไม๊.. ทำไมจึงคิดสร้างสถานที่ดึงดูดลูกค้าด้วยการแช่น้ำร้อนๆ อย่างออนเซนขึ้นมาอีก และจะรอดมั้ยเนี่ยะ ^^”
แต่เชื่อมั้ยว่า ตั้งแต่เริ่มเปิด Soft Opening มาตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 2012 ทั้งคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย รวมถึงคนไทยที่นิยมวัฒนธรรมการแช่น้ำแร่ออนเซนสไตล์ญี่ปุ่น ต่างก็สนใจมาใช้บริการที่ Yunomori Onsen & Spa จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และน่าแปลกใจมั้ยล่ะ ว่าจำนวนคนไทยที่มาเยี่ยมเยือนมาใช้บริการที่นี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่หลายคนตคิดว่า Yunomori Onsen & Spa น่าจะเป็นที่สนใจในหมู่กับคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยมากกว่า
ในฐานะผู้ที่ชื่นชอบการแช่น้ำแร่ออนเซน เราก็เลยแวะไปเยี่ยมเยือน Yunomori Onsen & Spa เพื่อพิสูจน์ความน่าสนใจของที่นี่มาแล้ว เอาล่ะ.. ไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
เราเริ่มต้นด้วยการใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท 26 เพื่อเดินทางไปยัง Yunomori Onsen & Spa ตรงเข้าไปในซอยเรื่อยๆ จะพบโครงการ A-Square อยู่ทางด้านขวามือ (อีกไม่กี่สิบเมตรก็ออกถนนพระราม 4 แล้วหล่ะ) เลี้ยวเข้าไปเลย.. ที่จอดรถที่นี่กว้างขวาง จอดรถได้สะดวกสบายมากๆ
ด้านหน้า Yunomori Onsen & Spa มีลักษณะเป็นอาคารเหลี่ยมๆ รูปทรงทันสมัย คงสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นร่วมสมัยด้วยระแนงไม้ที่พรางความแข็งของโครงสร้างปูนไว้ได้อย่างน่ามอง
เมื่อก้าวเท้าเข้าไปภายใน จะพบกับโถงนั่งรอ นั่งเล่นขนาดกว้างขวางเช่นกัน แล้วก็จะมีพนักงานคอยต้อนรับอยู่เรียบร้อย ซึ่งก็สามารถเข้าไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ของทาง Yunomori Onsen & Spa ได้เลย มี Package นวด สปา ต่างๆ เพียบ และที่แน่นอนก็คือมีบริการแช่ออนเซนในราคาเดียว แช่ได้ทั้งวันคือ 450 บาทเท่านั้น!!
เลือกบริการที่ต้องการจะใช้เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปเปลี่ยนรองเท้าก่อน เพราะสำหรับธรรมเนียมญี่ปุ่นแล้ว เวลาเดินเข้าอาคาร เขาก็จะเปลี่ยนจากรองเท้าที่ใส่ภายนอกอาคาร มาใส่เป็นรองเท้าสำหรับเดินภายในอาคารโดยเฉพาะ ซึ่งก็ดีนะ ฝุ่นละอองอะไรจะได้ไม่ค่อยเข้าไปทำให้ภายในสกปรกมาก
ถ้ามีเวลาก็อยากจะแนะนำให้ลองใช้บริการยอดนิยมของที่นี่ก่อนนั่นก็คือ บริการจำพวกนวดต่างๆ หรือไม่ก็สปาหน้า สปาตัว เพราะพอนวดกันพอสบายตัวแล้วไปแช่ออนเซนต่อ เราก็จะรู้สึกสบายตัวกันแบบสุดๆ ไปเลย
โดยผู้ที่จะใช้บริการนวดหรือสปาเนี่ยก็จะมีชุดให้เปลี่ยนก่อนใช้บริการแบบหนึ่งก่อน พอจะใช้ออนเซนก็จะมีชุดยูกาตะหลากสี ไว้ให้เปลี่ยนด้วย ใครที่อยากใช้เวลาอยู่ที่ Yunomori Onsen & Spa ทั้งวัน ใช้บริการนู่น นี่ นั่น หรือหาอะไรทาน แล้วก็เข้าไปนวด ไปออนเซนกันต่อ ก็ใส่เจ้าชุดยูกาตะเนี่ย เดินวนเวียนอยู่ในเนี่ย ได้ทั้งวัน ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสัมภาระอื่นๆ เพราะเราเก็บไว้ในล็อคเกอร์ไว้หมดแล้วนั่นเอง
คราวนี้เรายังไม่ได้ใช้บริการร้านอาหารญี่ปุ่น บริการนวดและสปา รวมถึงบริการเสริมความงามใดๆ ภายใน Yunomori Onsen & Spa เพียงแต่เดินชมไปเรื่อยๆ เพราะจิตใจมันฝักใฝ่แต่จะมาแช่ออนเซน (แต่พอเห็นลูกค้าท่านอื่นๆ มานั่งเลือก package นวดๆๆๆ เราก็แอบน้ำลายหก อยากลองกับเค้ามั่งเหมือนกันนะ โอกาสหน้าๆ ^^ )
ห้องบริการด้านนวดและสปานั้นก็กว้างขวาง และเน้นความเป็นส่วนตัวมากๆ จึงกินพื้นที่ชั้นสองของ Yunomori Onsen & Spa เกือบทั้งหมด โดยมีทั้งพื้นที่ที่เป็นห้องรวม และเป็นห้องพิเศษ แยกแบบเดี่ยว หรือจะใช้บริการแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว แต่มาแบบเป็นคู่ก็มีห้องพิเศษประเภทคู่ไว้บริการด้วย จ่ายเพิ่มอีกเพียงเล็กน้อยแค่ 100 เดียวเองนะ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แถมด้านบนนี้ยังออกแบบมาคล้ายๆ กับเรียวกังในญี่ปุ่น ถ้าได้ลองไปนอนให้นวดสักพัก ท่าทางเราคงจะอยากนอนหลับไปเลย เพราะถึงว่าอยู่ในห้องพักที่ญี่ปุ่นในโรงแรมแบบเรียวกังนั่นเอง อิ อิ
พอกลับลงมาที่ชั้น 1 ก็มุ่งหน้าสู่โซนออนเซน ห้องแช่น้ำแร่ออนเซนสำหรับทั้งชายและหญิงนั้นอยู่ติดกัน แต่แยกกันเป็นสัดส่วนห้องใครห้องมัน แถมยังกว้างขวางพอควรเลยทีเดียว
พอเข้าไปแล้วก็เปลี่ยนชุด ถอดทุกสิ่งอย่างออกให้หมด…
จากนั้นก็อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย หรือจะสระผมก็ทำให้เรียบร้อยเสียก่อน
จากนั้นก็เลือกแช่น้ำร้อน น้ำแร่ออนเซนกันได้ตามอัธยาศัย มีหลายบ่อ หลายคุณสมบัติให้เลือก แต่แนะนำว่าเริ่มแช่จากบ่อที่อุณหภูมิต่ำๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มดีกรีไปลองบ่อร้อนๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นบ่อน้ำแร่จากระนองเนี่ยแหล่ะที่ดูแล้วร้อนสุดๆ เพราะบ่อที่มีน้ำแร่จากระนองจะมีอุณหภูมิประมาณ แร่ระนอง 43 องศา (อุณหภูมิระดับเดียวกับที่ญี่ปุ่นเลย) ใครน้ำวนๆ หน่อย จะได้รีแลกซ์ผิวพรรณและกล้ามเนื้อ ก็ขอแนะนำบ่อ Jet bath อุณหภูมิประมาณ 40 องศา ส่วนใครที่สนใจอยากให้ผิวดูดี ดูนุ่มขึ้น นี่เลย.. บ่อโซดาสปา อุณหภูมิประมาณ 38 องศาเท่านั้น
(บ่อไหนอุณหภูมิ 40 องศาขึ้นไปก็แช่สัก 5 – 10 นาที ส่วนบ่อไหนอุณหภูมิต่ำกว่า 40 ก็แช่ได้นานสัก 20 – 30 นาทีเลยทีเดียวนะ อ้อ! แช่เสร็จแล้วก็ไม่ต้องอาบน้ำอีกนะ ผิวจะได้ซึมซับแร่ธาตุดีๆ เอาไว้ไง)
สำหรับห้องฝ่ายหญิงกับฝ่ายชายจะต่างกันเล็กน้อย ตรงที่ห้องผู้หญิงจะมีโซดา ชาวเวอร์ แต่จะไม่มีห้องซาวน่า (เค้าคงวิจัยกันมาแล้วว่าสาวๆ อยากจะผมสวยกันมากกว่า.. จะโดนอบผิว เหอ เหอ) สำหรับโซดาสปาชาวเวอร์นี้ จะเพิ่มความเงางามให้กับผม ทำให้ดูสุขภาพผมดีมากๆ ลองดูแล้วจะติดใจ ซึ่งโซดาสปาชาวเวอร์ รวมถึงบ่อแช่โซดาสปานั้นนำเข้าเทคโนโลยีนี้มาจากญี่ปุ่นกันเลยทีเดียวนะ
และทั้งฝั่งห้องผู้หญิง รวมถึงห้องฝั่งผู้ชาย นอกจากจะมีบ่อแช่น้ำแร่ น้ำร้อนด้านในแล้ว (In-door) แล้ว ทาง Yunomori Onsen & Spa ก็มีการจัดบรรยากาศประมาณการแช่น้ำร้อน Out-door (ถึงจะไม่ได้เปิดโล่งจริงๆ ก็ตาม) ไว้บริการด้วยนะ ถือว่าแช่น้ำร้อนกินบรรยากาศ ชิวๆ ไปอีกแบบนะ
แช่ๆ ขึ้นๆ …ขึ้นๆ แช่ๆ จนสบาย หรือจนตัวเปื่อยก็แล้วแต่ชอบ (แต่.. ตั้งแต่แช่ออนเซนมา ไม่ว่าจะนานแค่ไหนไม่เคยเห็นตัวจะเปื่อยเลย เพราะน้ำที่แช่มันร้อนหรือเปล่าน๊า) เราก็จะมารองท้องแก้หิวที่ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ด้านนอกห้องอาบน้ำร้อนก็ได้ (ใส่ยูกาตะออกมาเลย ไม่ต้องเขินอาย.. เขาก็ใส่กันทั้งนั้นแหล่ะ)
อากาศร้อนไม่ได้มีผลกับการแช่น้ำร้อนเลยนะ ก็เพราะคนไทยน่ะ ไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน ก็ยังอาบน้ำอุ่นเนอะ ยังเปิดแอร์แล้วก็ห่มผ้านวมใช่มั้ยล่ะ การแช่น้ำแร่ น้ำร้อนนี้มันก็เป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ให้ผิวรู้สึกสบาย สุขภาพดี แล้วยังจะรีเฟรซ แล้วก็ทำให้หลับสบาย หิว และเจริญอาหารด้วยนะ ดังนั้นเชื่อว่า Yunomori Onsen & Spa นั้นก็เป็นสถานที่ซึ่งนำคอนเซปแบบญี่ปุ่นมาใช้ได้ไม่แปลกประหลาดอะไรเลยสำหรับคนเมืองร้อนอย่างเราๆ
นอกจากนี้ Yunomori Onsen & Spa ก็จะมีบริการเสริมความงาม (Yuhomori Clinique เสริมสวย รวมไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ไม่ว่าจะเป็น แว็กขน โบท็อก ฯลฯ) ร้านกาแฟ รวมถึงร้านกินดื่ม (ร้านเหล้า) เรียกว่าเอาใจลูกค้าแบบครบวงจรกันเลยทีเดียว แม้จะยังอยู่ในช่วง Soft Opening ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการชนิด Grand Opening เพราะบริการบางส่วนยังต้องใช้เวลาปรับปรุงให้เข้ากับทั้งวิถีของคนไทยและวิถีของลูกค้าชาวญี่ปุ่น และบางโซนก็ยังเตรียมทยอยเปิดกันอยู่ อย่างไรซะ ก็ลองหาเวลาเข้าไปพิสูจน์ความน่าสนใจของที่นี่ด้วยตัวท่านเองกันได้แล้ว ราคาก็ไม่แพง เขาเปิดสาย.. ปิดดึก มาใช้บริการกันได้ทั้งวันทีเดียว ขอบอกว่าวันหยุดและช่วงหัวค่ำ ลูกค้าเพียบ! ลองแล้วจะติดใจอยากไปแล้ว ไปอีก.. ไปแล้ว ไปอีก แน่ๆ
YONOMORI ONSEN & SPA
ที่ตั้ง A-Square MALL ซอยสุขุมวิท 26 (เส้นทางลัดสู่ถนนพระรามสี่)
เปิดบริการ 10.30 – 24.00 น.
โทร. 0-2259-5778
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.facebook.com/YunomoriOnsen?fref=ts