Kusatsu…เอ้า! 42 องศายังแทบแย่ แล้วทำไมต้องไปแช่ออนเซน 45-48 องศาด้วย??? ก็เพราะว่าประสบการณ์แบบนี้ หาไม่ได้ง่าย ๆ ค่ะ ออนเซนที่มีระดับอุณหภูมิของน้ำที่ 45-48 องศานั้น เรียกว่าเป็นระดับซุปเปอร์สูงค่ะ (超高温浴) เป็นการแช่น้ำร้อนจัดในเวลาสั้น ๆ โดยต้องมีคนดูแลควบคุม เป็นการใช้น้ำแร่บำบัด
เวลาแช่ออนเซนที่ญี่ปุ่น เคยสังเกตที่บอกอุณหภูมิของน้ำที่ติดไว้ข้าง ๆ บ่อไหมคะ ว่าอุณหภูมิของน้ำร้อนในบ่อนั้นประมาณเท่าไหร่
โดยทั่วไป อุณหภูมิของน้ำตามออนเซนในญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ
1. ประมาณ 37-39 องศาเซสเซียส คือสูงกว่าอุณหภูมิร่างกายเล็กน้อย เรียกว่าเป็นระดับอุ่น ๆ ( 微温浴) ใคร ๆ ก็แช่ได้สบาย ๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเบา ๆ
2. ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นอุณหภูมิระดับกลาง (中温浴) ที่มีผลช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และกระตุ้นระบบการเผาผลาญได้ดี ออนเซนส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะอยู่ที่ประมาณนี้ โดยเฉพาะที่ 42 องศา คนญี่ปุ่นจะถือว่าเป็นอุณหภูมิที่กำลังสบายที่สุด
3. แต่ก็มีออนเซนบางแห่ง ที่ปรับอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ 42-45 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูง (高温浴) เพิ่มอัตราการสูบฉีดของหัวใจ และความดันโลหิต
สำหรับคนไทยเราที่ไม่ได้เคยชินกับการแช่ออนเซนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ นั้น ความร้อนที่ 42 องศาเซลเซียส เรียกว่าอยู่ในระดับที่หลายคนลงไปแช่ไม่ไหว เพราะรู้สึกว่ามันร้อนเกินไป
เอ้า! 42 องศายังแทบแย่ แล้วทำไมต้องไปแช่ออนเซน 45-48 องศาด้วย???
ก็เพราะว่าประสบการณ์แบบนี้ หาไม่ได้ง่าย ๆ ค่ะ
ออนเซนที่มีระดับอุณหภูมิของน้ำที่ 45-48 องศานั้น เรียกว่าเป็นระดับซุปเปอร์สูงค่ะ (超高温浴) เป็นการแช่น้ำร้อนจัดในเวลาสั้น ๆ โดยต้องมีคนดูแลควบคุม เป็นการใช้น้ำแร่บำบัด คือวิธีการรักษาพยาบาลด้วยการแช่ออนเซนแบบดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะหรือร้อยกว่าปีมาแล้วค่ะ เรียกว่า Jikanyu : 時間湯 ซึ่งบอกว่ามีคุณสมบัติช่วยบำบัดรักษาสารพัดโรค ทั้งที่เกี่ยวกับผิวหนัง กระดูกและข้อ กล้ามเนื้อ หอบหืด ภูมิแพ้ ฯลฯ

ที่สำคัญคือ… สามารถร่วมประสบการณ์ Jikanyu นี้ได้ที่คุซัทสึออนเซน จังหวัดกุนมะเท่านั้นค่ะ
คุซัทสึออนเซน 1 ใน 3 ออนเซนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นแล้ว เชื่อว่าเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากพอสมควร เพราะอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ไหน ๆ ไปญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องสัมผัสประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแท้ ๆ กันใช่ไหมคะ ฉะนั้นตามเจ๊ไปเจแปนตอนนี้ เราไปลองประสบการณ์จิกังยุ ที่คุซัทสึออนเซนกันค่ะ
ในปัจจุบันสามารถร่วมประสบการณ์จิกังยุได้ที่บ่อน้ำร้อนเพียง 2 แห่งในคุซัทสึออนเซนค่ะ คือที่ Chiyo no yu (千代の湯) และ Jizou no yu (地蔵の湯) ทั้งสองบ่อเป็นบ่อน้ำร้อนที่เปิดให้บริการฟรีสำหรับผู้คนในท้องถิ่น แต่ช่วงเวลากลางวันจะมีกำหนดเวลาสำหรับการทำจิกังยุ ซึ่งเก็บค่าบริการค่ะ
เค้าบอกว่าอุณหภูมิน้ำที่ Chiyo no yu คือ 45 องศา ส่วนที่ Jizou no yu จะเป็น 48 องศา เอ่อ… ครั้งนี้เจ๊ขอพาไปชิมลางเบา ๆ ที่ 45 องศาก่อนละกันนะคะ กลัวสุก…

การทำจิกังยุที่นี่ จะแบ่งเป็นรอบ ๆ คือ วันละ 4 รอบ คือ 9:00, 11:00, 14:00 และ 17:00 น. โดยจะมีวันหยุดคือ ทุกวันจันทร์และทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน ค่าบริการครั้งละ 560 เยน ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 40 นาที สิ่งที่จะต้องเตรียมไปด้วยคือ ผ้าขนหนูทั้งแบบผืนใหญ่และผืนเล็ก แต่ถ้าไม่มีก็สามารถซื้อได้ที่บ่อได้ค่ะ
มาดูกันค่ะว่าช่วงเวลา 40 นาทีนี้ทำอะไรบ้าง
ก่อนอื่นเลย ทางเจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวของเราค่ะ เพราะการแช่ออนเซนจะไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดตีบหรือความดันโลหิตสูง ถ้าไม่มีปัญหาใด ๆ ก็ชำระเงิน 560 เยนได้เลยค่ะ
เมื่อถึงเวลาที่กำหนดเจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนให้กับผู้เข้าร่วมจิกังยุทุกคนฟัง พร้อมกำชับให้ทุกคนดื่มน้ำเยอะ ๆ และทำตามขั้นตอนที่บอก แน่นอนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ แต่มีภาพและคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้อ่าน
ในช่วงแรกไม่ได้แบ่งชายหญิงค่ะ ยังไม่ต้องแก้ผ้าแก้ผ่อนอะไรทั้งสิ้น แค่ถอดถุงเท้าอย่างเดียวพอ แล้วเข้าไปด้านในซึ่งมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่
เริ่มต้นขั้นตอนแรกด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสดงความเคารพเทพเจ้าที่สถิตย์อยู่ที่ออนเซน (神棚に参拝) ตามแบบชินโต คือโค้ง 2 ครั้ง ตบมือ 2 ครั้ง และโค้งอีก 1 ครั้ง เป็นการเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจก่อนเข้าทำการ treatment
ขั้นตอนที่ 2 คือ Yumomi(湯もみ) การกวนน้ำ
น้ำแร่ที่คุสะทสึออนเซน มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส ร้อนเกินกว่าจะลงไปแช่ได้ ยูโมมิเป็นกรรมวิธีดั้งเดิมในการลดอุณหภูมิของน้ำ โดยการกวนน้ำด้วยไม้พายขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 1.8 เมตร กว้าง 30 ซม.
เจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการกวนน้ำให้เราทำตามไป ค่อย ๆ พลิกไม้พายไปทีละข้างตามจังหวะ เพื่อทำให้อุณหภูมิของน้ำลดลงเหลือประมาณ 45 องศา เค้าบอกว่าอย่างนั้นนะคะ เจ๊ก็ไม่ทราบหรอกค่ะว่ามันลดลงจริงหรือเปล่า รู้แต่ว่า…ไม้พายหนักชมัด!
จริง ๆ แล้ว ในขั้นตอนนี้เค้าบอกว่าอนุญาตให้ถ่ายรูปได้ค่ะ เพราะยังไม่โป๊ ^^ แต่พอดีเจ๊ฉายเดี่ยวไปคนเดียวท่ามกลางคนญี่ปุ่นล้วน ๆ ซึ่งทุกคนดูตั้งใจมาก ไม่มีใครวางพายออกไปหยิบกล้องถ่ายรูปเลยสักคนเดียว เจ๊เลยแอบเกรงใจ (พอออกมาแล้ว รู้สึกเสียดายมากค่ะ)
หลังจากกวนน้ำแล้ว คราวนี้ก็จะแบ่งชายหญิงล่ะค่ะ ออกมาแก้ผ้าล่อนจ้อนแล้วเข้าไปใหม่พร้อมกับผ้าขนหนู
ขั้นตอนที่ 3 Kaburiyu (かぶり湯) ราดน้ำ
อยู่ดี ๆ จะลงไปแช่น้ำเลยไม่ได้ค่ะ ต้องปรับอุณหภูมิร่างกายทีละส่วนก่อน เริ่มจากตักน้ำจากบ่อขึ้นมาราดที่เท้า 10-20 ครั้ง ราดครั้งแรก โอ้ว….ร้อนจนสะดุ้งค่ะ แต่ราดไปหลาย ๆ ครั้งก็ชิน
และเพื่อให้การไหลเวียนของเลือดไปที่ศีรษะ ป้องกันอาการหน้ามืด จึงต้องมีการราดน้ำที่ศีรษะด้วย โดยโพกศีรษะด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก แล้วค่อย ๆ ตักน้ำจากบ่อราดลงศีรษะจากทางด้านหลัง 30 ครั้ง เพื่อให้หลอดเลือดขยายตัว
ราดขาราดหัวเรียบร้อย คราวนี้ก็ตักน้ำขึ้นมาราด… อวัยวะครึ่งท่อนล่างของร่างกาย เอ่อ นั่นล่ะ.. ตรงนั้นอ่ะค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 Nyuutou (入湯) แช่น้ำ
ขั้นตอนนี้คือลงไปแช่ในน้ำ 3 นาทีค่ะ อย่าถามว่าน้ำร้อน 45 องศา มันทรมานแค่ไหนกว่าจะค่อย ๆ หย่อนตัวลงไปยืนในบ่อได้ แค่นั้นยังไม่พอ ต้องค่อย ๆ นั่งลงให้ร่างกายทั้งตัวลงไปอยู่ใต้น้ำ โผล่ขึ้นมาแค่ศีรษะ ขอบอกว่า…พอลงไปแล้วขยับตัวไม่ได้ค่ะ มันร้อนจนเจ็บขยับทีเหมือนโดนเข็มทิ่มตัว
เค้าให้นั่งหลับตา แล้วหายใจเข้าออกจากช่องท้อง เจ้าหน้าที่พูดอะไรมาตอนนั้นหูอื้อฟังไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ จับใจความได้แค่ตอนที่บอกว่าผ่านไปกี่นาที และถ้าเค้าพูดอะไรมา ต้องส่งเสียง oh (オー) ออกไป พอผ่านไปสักพักเริ่มรู้สึกชินก็สบายขึ้นมากค่ะ
ขั้นตอนที่ 5 Mushi taoru (蒸しタオル)
ครบ 3 นาทีก็ขึ้นจากบ่อค่ะ เค้าบอกว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญ จะออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าในทันทีไม่ได้ ต้องนั่งพักโดยเอาผ้าขนหนูโพกศีรษะเอาไว้ ประมาณ 10 นาที ให้เหงื่อออกแล้วดื่มน้ำเยอะ ๆ
หลังจากจบขั้นตอน จะได้ประกาศนียบัตรกลับมาด้วยค่ะ ออกมาเจออากาศเย็น ๆ ข้างนอก รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามาก ๆ ชอบค่ะอยากลองอีกทีแต่ขอไม่ไปลองระดับ 48 องศาล่ะ ใครไปลองมาแล้ว มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
ส่วนคนที่ไม่อยากจะแช่น้ำร้อนมาก ๆ ขนาดนี้ แต่อยากลองกวนน้ำ หรือ yumomi ดูสามารถทดลองได้ที่ Netsu no Yu ซึ่งจะมีการแสดงโชว์ yumomi แบบดั้งเดิม และให้ผู้ชมได้ทดลองกวนน้ำด้วยตนเองได้
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.visitgunma.jp/th/sightseeing/detail.php?sightseeing_id=4
นอกจากนั้นแนะนำให้ลองไปแช่ออนเซนสาธารณะ (共同浴場) ของชุมชนซึ่งมีอยู่หลายแห่ง สามารถเข้าไปแช่ได้ฟรีดูนะคะ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง กลางค่ำกลางคืนก็เดินไปลองแช่ดูได้ รับรองว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์และบรรยากาศของท้องถิ่นแท้ ๆ ไปอีกแบบค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุซัทสึ
https://www.visitgunma.jp/th/sightseeing/detail.php?sightseeing_id=8
เรื่องแนะนำ :
– 5 เรื่องราวของภูเขาไฟฟูจิ ที่คนญี่ปุ่นก็ไม่รู้
– วันอังคาร…งานการสำเร็จ วันพุธ…ห้ามเดท! เอ๊ะ…ยังไง?
– เรียนต่อญี่ปุ่นด้านแฟชั่นคอสเพลย์ โกธิค โลลิต้า… พี่ไม่ได้มาเล่นๆ
– เรื่องที่มักจะเข้าใจผิด ในซุปเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น
– รับน้องนักเรียนไทยในญี่ปุ่น ความอบอุ่นในแดนซากุระ