วันนี้เรามีร้านยากินิคุ หรือเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาดมาฝาก ขอบอกว่าแค่เห็นรูป เพื่อนๆ ก็คงอยากจะลุยไปซะเดียวนี้เชียวแหล่ะ ฮะ ฮะ ก็มีตัวเลือกมาให้แล้ว หลายร้านเลย ตามไปดูกันจ้าาาาา
เรียบเรียงโดย : ทีมงาน www.marumura.com
วันนี้เรามีร้านยากินิคุ หรือเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาดมาฝาก ขอบอกว่าแค่เห็นรูป เพื่อนๆ ก็คงอยากจะลุยไปซะเดียวนี้เชียวแหล่ะ ฮะ ฮะ ถ้าใครอยากกินเนื้อย่าง แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปร้านไหนดี เราก็มีตัวเลือกมาให้แล้วหลายร้านเลย ตามไปดูกันจ้าาาาา
1. Carnival Yakiniku ร้านเนื้อย่างที่เสิร์ฟเนื้อวากิวชั้นดีจากญี่ปุ่น

ร้านเนื้อย่างชื่อดัง “Carnival Yakiniku” บริหารงานโดยเจ้าของเดียวกับร้านซูชิ “Sushicyu” ที่คัดสรรแต่เนื้อวากิวชั้นดีมาเสิร์ฟให้ลูกค้าทุกท่าน เพราะที่ร้านคัดมาแต่เนื้อระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น จึงมีลูกค้าแวะเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งบรรดาคนดังเซเลปไปจนถึงเชื้อพระวงศ์ต่างก็เคยมาทานเนื้อย่างเด่นดังของ ที่นี่กันทั้งนั้น ที่ร้านมีเมนูเนื้อวากิวให้เลือกมากถึง 10 เมนู ไม่ว่าจะเป็นเนื้อโกเบกิวระดับพรีเมียม เนื้อเซอร์ลอยน์จากจังหวัดซากะ เนื้อบุนโกะกิวส่วนสะโพก เนื้อคาโงะชิมะส่วนหัวไหล่ที่ถือว่าเป็นเนื้อส่วนที่หายากมากๆ นอกจากนี้ยังมีเนื้อวากิวอื่นๆ ที่ส่งตรงมาจากแต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่นให้เลือกอีกมากมาย ไม่ใช่แค่เนื้อวากิวเท่านั้น ที่ร้านยังมีเนื้อไทยเฟรนช์ที่สั่งมาจากฟาร์มวัวเนื้อชั้นดี ให้ลูกค้าได้ทานเนื้อวัวมีคุณภาพ สดใหม่ของไทย เครื่องดื่มของที่นี่ก็มีมากหลายร้อยชนิดทั้งเหล้าญี่ปุ่น โชจู พร้อมบริการห้องส่วนตัว (จำเป็นต้องจองล่วงหน้า) หากท่านกำลังมองหาร้านเนื้อย่างสุดแสนอร่อยอยู่แล้วล่ะก็ ร้านเนื้อย่างที่นี่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
Owner’s Voice:
ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากร้าน Suhicyu มาทานที่โต๊ะได้ นอกจากนี้ลูกค้ายังอิ่มอร่อยกับเนื้อเมนูเดียวกันกับช่วงเวลาปกติได้ในช่วง อาหารกลางวันในราคาสุดคุ้ม (ช่วงกลางวัน11.30 – 14.00 น. L.O. 13.45 น.)
ที่อยู่: Eight Thonglor ชั้น 2 Bldg., Thonglor Soi 8, Sukumvit 55 Rd.
เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันศุกร์ 11.30 – 14.00 น. / 18.00 – 22.30 น. วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.30 – 22.00 น.
2. Gyu Gyu Tei จากสูตรเด็ดลับเฉพาะของร้านเนื้อย่างชื่อดัง Jojoen มาเป็นร้านเนื้อย่างระดับพรีเมียมและเซ็ตอาหารกลางวันสุดคุ้ม

คุณรักษ์เจ้าของร้านเนื้อย่าง Gyu Gyu Tei ที่มีประสบการณ์ทำงานที่ร้านเนื้อย่าง “โจโจเอ็น” ชื่อดังของญี่ปุ่นมานานถึง 8 ปี เมื่อ15 ปีที่แล้วด้วยแนวความคิดที่ว่า “ผมอยากให้คนไทยได้ลิ้มรสเนื้อย่างระดับพรีเมียมของญี่ปุ่น” คุณรักษ์จึงตัดสินใจเปิดร้านเนื้อย่างนี้ขึ้นมา ในปัจจุบันร้าน Gyu Gyu Tei มีสาขามากถึง 8 สาขา เช่น รัชดา บางนาและอีกหลายๆ สาขา แม้จะเปิดที่ไทย แต่ที่ร้านก็ยังใช้วัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีจากญี่ปุ่น เนื้อไทยเฟรนช์ เนื้อวากิวออสเตรเลียที่ผสมผสานกันอย่างดีระหว่างเนื้อแดงและส่วนที่เป็นมัน เนื้อโอมิที่นุ่มละลายในปาก เนื้อมัตสึซากะและอีกมากมายในราคาที่แตกต่างกันไป ให้ลูกค้าได้เลือกทั้งเนื้อที่ชอบและราคาที่ใช่ได้ตามสไตล์ของตัวเอง นอกจากนี้เมื่อสั่งเมนูอาลาคาร์ทแล้ว ลูกค้าจะได้อิ่มไม่อั้นกับขนมหวานและผลไม้ วันนี้คุณสามารถลิ้มรสชาติของน้ำจิ้มมาจนถึงเมนูแต่ละชนิดที่ถ่ายทอดมาจาก ร้าน Jojoen ชื่อดังได้แล้วที่ร้าน Gyu Gyu Tei
Owner’s Voice
ในบรรดาเซตอาหารกลางวันทางร้านขอแนะนำ Gyu Set (250 บาท) ที่เสิร์ฟทุกวันแม้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นเมื่อทานอาหารครบ 1,000 บาทขึ้นไปทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 16.00 น. รับไปเลยส่วนลด15%
ที่อยู่: Jasmine City Tower ชั้น 1 สุขุมวิท ซอย 23
เวลาทำการ: 11.30 – 22.00 น. (ช่วงเซตอาหารกลางวัน เวลา 11.30 – 14.00 น.)
3. Genpukan Thonglor ซอสรสเผ็ดสูตรลับเฉพาะของทางร้านที่ใครได้ชิมก็ต้องติดใจ!

Genpukan เป็นร้านเนื้อย่างเก่าแก่ซึ่งเปิดบริการอยู่ที่เมืองฮากาตะ ประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ทีเด็ดของทางร้านที่ติดอกติดใจคนรักเนื้อย่างเป็นอย่างมากก็คือซอสสูตรลับ เฉพาะของทางร้านที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยิ่งได้ทานกับเนื้อชั้นดีซอสสูตรเฉพาะที่โรยด้วยงาและต้นหอมก็เรียกได้ว่า เป็นการผสมผสานที่แสนจะลงตัวเลยทีเดียว เนื่องจากทางร้านรับซื้อวัวทั้งตัวทำให้มีเนื้อส่วนที่เราไม่ค่อยเห็นที่ร้า นอื่นๆ ให้คุณลิ้มลองอีกด้วย ทางร้านขอแนะนำเซตเนื้อวัวหรือเซตหมูที่รวมเนื้อหลายๆ ส่วนมาไว้ในจานเดียวให้คุณได้เลือกรับประทานร่วมกันกับครอบครัวหรือเพื่อน สนิทได้แบบชิลล์ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ทางร้านยังมีจานเด็ดเป็นเมนูอาหารจานเดียว เมนูตับดิบที่รับประกันความสดใหม่หรือจะเป็นราเม็งซุปหางวัวสไตล์เกาหลีซึ่ง ใช้เวลาตุ๋นถึง 2 วันเต็มๆ ซึ่งคุณไม่ควรพลาดอีกด้วยเช่นกัน
Owner’s Voice:
ตอนนี้ที่สาขาทองหล่อเรามีเซตมื้อกลางวัน อาทิ เซตเนื้อฮาราทิผสมกับเนื้อคารูบิ (400 บาท) เซตรวม (300 บาท) เซตหมู (250 บาท) และในเซตก็มีทั้งซุป ผักปรุงรสรวมมิตร กิมจิ ผักย่าง และน้ำแข็งใสหรือเบียร์รวมมาในเซตอีกด้วย
ที่อยู่: 43 สุขุมวิท ซอย 55
เวลาทำการ: 12.00 – 24.00 น.
4. Miraku ร้านปิ้งย่างบนถนนธุรกิจย่านธนิยะที่เปิดบริการในตอนกลางวันด้วย

ร้าน Miraku ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารธนิยะ พลาซ่า ใจกลางของย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิง ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 19 ปี เป็นร้านที่ทั้งคนญี่ปุ่นในไทย และนักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ ผู้จัดการร้านคนไทยผู้มีประสบการณ์การทำงาน 25 ปีที่ร้านปิ้งย่างชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น “โจโจเอ็น” ได้คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี สดใหม่ รับประกันความอร่อย ยิ่งไปกว่านั้นทางร้านเสิร์ฟเนื้อส่วนที่หาทานที่ร้านอื่นได้ยาก อย่างเช่น “หางวัว” และยังเสิร์ฟเนื้อชิ้นโตอย่าง “เนื้อซี่โครงเกตะ” ที่ร้านภูมิใจ และยังมีเมนูที่ไม่สามารถหาทานได้ที่ญี่ปุ่นอย่าง “เนื้อดิบปรุงรส ยุคเกะ” และ “ตับสด” ให้บริการที่นี่ ซึ่งถูกใจลูกค้าผู้ชื่นชอบรับประทานเนื้อดิบและตับสดเป็นอย่างมาก
Owner’s Voice
ทางร้านให้บริการโดยผู้จัดการร้านที่เข้าใจวัฒนธรรมการทานเนื้อปิ้งย่างของ ญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง และนอกจากปิ้งย่างแล้ว ทางร้านยังมี “ชาบู ชาบู หมูคุโระบูตะ” “เทมปุระ” และอื่นๆ ให้เลือกทานมากมาย
ที่อยู่: 230 – 235 ชั้น 2 อาคารธนิยะ พลาซ่า 52 ซอยธนิยะ ถ. สีลม
เวลาทำการ: กลางวัน 11.00 – 14.00 น. (L.O. 13.45 น.) เย็น 17.00 – 22.00 น. (L.O. 21.45 น.)
5. Ginzado ความสดและคุณภาพที่เรามั่นใจ! ทางร้านภูมิใจนำเสนอเนื้อวัวไทยคุณภาพดี

ถ้าพูดถึงเนื้อดีมีคุณภาพและสดใหม่แล้วล่ะก็ ต้องที่นี่ ! ร้านนี้โดดเด่นด้วยเนื้อวัวในไทย ติดต่อซื้อโดยตรงจากฟาร์มเลี้ยงที่มั่นใจได้ในคุณภาพ และไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางทำให้ได้เนื้อวัวที่สดใหม่ ราคาไม่แพง ซึ่งทางเจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นยังต้องกล่าวเชิญชวนว่า “อยากให้ทุกท่านได้มาลิ้มลองเนื้อวัวไทยที่เลี้ยงอย่างใส่ใจทำให้ได้ เนื้อที่นุ่มและหวานอร่อย”
นอกจากนี้ยังสามารถทานเนื้อส่วนที่หายาก ซึ่งไม่สามารถหาทานที่อื่นได้ เนื้อวัวดำจากญี่ปุ่น ความอร่อยจากเนื้อคุณภาพดีที่สอดแทรกด้วยลายไขมันยิ่งเพิ่มความอร่อยให้กับ เนื้อ และทางร้านยังมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะวันธรรมดามื้อกลางวันจะราคาถูกอย่าง เหลือเชื่อ เพียงแค่ 180 บาท ++ ทำให้รู้สึกได้ถึงคำว่า “ของดีราคาถูก” ถ้าไม่ต้องการนั่งทานที่ร้านก็สามารถซื้อเนื้อวัวหรือไส้กรอกกลับไปทานที่บ้านได้
Owner’s Voice
มีบริการห้องส่วนตัวที่รองรับได้มากสุดถึง 8 ท่าน และยังสามารถเหมาร้านจัดงาน ทางร้านรองรับได้มากสุด 40 ท่าน ส่วนสาขาทองหล่อก็เช่นกัน เหมาร้านจัดงานได้มากสุด 25 ท่าน และมีที่นั่งพื้นแบบญี่ปุ่นด้วย กรุณาจองล่วงหน้าถ้าต้องการใช้ห้องหรือจัดงานเลี้ยง
ที่อยู่: 53/1 สุขุมวิท 26
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 11.30 – 14.00 น. และ 17.00 – 23.00 น. (L.O. 22.00) เสาร์ – อาทิตย์และวันหยุด 11.30 – 23.00 น. (L.O. 22.00 น.)
6. Hattori ร้านเก่าแก่กับความคุ้มค่าคุ้มราคา คนแน่นร้านทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น

ถือว่าเป็นร้านปิ้งย่างเก่าแก่ร้านหนึ่งในกรุงเทพที่เปิดให้บริการมายาวนานถึง 23 ปี มีให้บริการอาหารมื้อกลางวันสุดคุ้ม (ราคาเริ่มต้นที่ 140 บาท) ทำให้มีผู้มาใช้บริการช่วงกลางวันมากมาย และสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ แนะนำให้มาลิ้มลองเนื้อคุณภาพเยี่ยม “เนื้อซี่โครงคัดพิเศษลายหินอ่อน” ซึ่งทางร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหาร และจะเสิร์ฟแต่เฉพาะวัตถุดิบที่ได้มาในแต่ละวันเท่านั้น เคล็ดลับความอร่อยของเนื้อย่างร้านนี้ คงหนีไม่พ้นถาดกระทะเหล็กที่นำเข้าโดยตรงจากประเทศเกาหลี นอกจากนั้นการบริการของที่นี่ยังเป็นกันเอง เจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นให้บริการด้วยตนเอง ในบรรยากาศสบายๆ ทำให้อยากมาทานที่นี่บ่อยๆ เชิญมาทานเนื้อย่างอย่างจุใจ ในราคาเบาๆ คุ้มค่าความอร่อยได้ที่นี่
Owner’s Voice
ร้าน “ผู้บุกเบิก” ต้นฉบับเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นของกรุงเทพ เพราะทางร้านให้ความสำคัญกับลูกค้าขาประจำ จึงได้พยายามรักษาราคาให้ไม่แพงจากเมื่อก่อน และสำหรับผู้ที่อยากลิ้มรสความอร่อยของเนื้อซี่โครงคัดพิเศษตามรูปด้านบน กรุณาสั่งจองล่วงหน้า
ที่อยู่: Sakura Home สุขุมวิท 35
เวลาทำการ: กลางวัน 11.00 – 14.00 น. บ่าย 14.00 – 17.00 น. เย็น (ปิ้งย่าง) 17.00 – 22.00 น. (L.O. 21.30 น.)
7. Sumi Grand Sukhumvit 16 บุฟเฟ่ต์เนื้อย่างพร้อมอาหารทะเลหลากหลายให้คุณทานได้ไม่อั้นในราคาสุดคุ้ม

Sumi Grand Sukhumvit 16 เป็นร้านเนื้อย่างที่เปิดมาแล้วนานกว่า 5 ปี พร้อมสาขาที่มากถึง 6 สาขา โดยมีเซตเมนูทานไม่อั้นมีให้เลือกถึง 3 ประเภทคือ 299 บาท 399 บาท และ 699 บาท นอกจากเนื้อย่างในเตาถ่านไร้ควันแล้วที่ร้านยังมีเมนูชาบูชาบู ผักสด สลัด ซอฟต์ดริ้งค์ และไอศกรีมให้คุณทานได้แบบไม่อั้น เมนูแต่ละชนิดที่นำมาเสิร์ฟก็ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบชั้นดีนำเข้าจากทั้ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แต่นำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าในราคาถูกแสนถูก เพราะเจ้าของร้านนำเข้ามาแต่ละครั้งในปริมาณมากด้วยตนเอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกท่านจะได้ทานเมนูที่สดใหม่คุณภาพดีพร้อมน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน และซอสงาแสนอร่อยอีกด้วย ลูกค้าทุกท่านจะได้ลิ้มรสเมนูแสนอร่อยไม่เหมือนใครในช่วงเวลา 90 นาทีนี้อย่างแน่นอน
Owner’s Voice
ที่นี่เป็นร้านเนื้อย่างที่ให้คุณทานเมนูต่างๆ ระดับพรีเมียมได้ในราคาแสนประหยัด ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์จะมีลูกค้าเต็มทุกที่นั่ง ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าควรจองก่อนล่วงหน้า นอกจากนี้ที่ร้านยังมีบริการรับส่งจากหน้าปากซอยสุขุมวิท 16 อีกด้วย
ที่อยู่: 199/9 สุขุมวิท ซอย 16
เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ กลางวัน 11.30 – 15.30 น. เย็น 17.30 – 22.00 น. (L.O. 21.30 น.)
วันเสาร์อาทิตย์ 11.30 – 22.00 น.
8. Gyu-Kaku Thonglor เตรียมพบกับเมนูและราคาใหม่ของร้านได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

Gyu-kaku เป็นร้านเนื้อย่างชื่อดังจากญี่ปุ่นซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 2 สาขาในไทยที่ธนิยะและทองหล่อ เรื่องคุณภาพไม่ต้องพูดถึง เพราะร้านนี้เป็นแบรนด์เนื้อย่างที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น แล้วยังมีสาขาในต่างประเทศอีกหลายสาขาทั่วโลก และตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ทางร้านก็จะปรับเปลี่ยนเมนูและราคาใหม่ให้คุณได้คุ้มค่าคุ้มราคากว่าเดิม อาทิ เมนูยอดฮิตอย่างเนื้อซี่โครงและเนื้อสันนอกสดใหม่คุณภาพเยี่ยมที่ลดราคา เหลือเพียงจานละ 150 บาทเท่านั้น แถมยังมีเนื้อวากิวคัดพิเศษที่แทบจะละลายในปาก ราคาย่อมเยาอีกด้วย
แต่ถ้าคุณยังลังเลไม่รู้ว่าจะสั่งเมนูไหนดีเราขอแนะนำเมนูสุดคุ้มที่คุณจะได้ ลิ้มลองกับเนื้อยอดนิยมหลากหลายชนิดของทางร้านอย่างเซต “Gyu-Kaku Kannou Set” นอกจากนี้ทางร้านยังมีที่นั่งแบบโซฟาที่มีเตาย่างให้คุณได้นั่งปิ้งเพลินๆ ละเมียดละไมกับการสัมผัสรสชาติของเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
Owner’s Voice:
ใครที่อยากสัมผัสกับรสชาติของเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริงในราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ขอเชิญแวะมาได้ที่ Gyu-Kaku!
ที่อยู่: 115 Somerset สุขุมวิท ซอย 55
เวลาทำการ: วันจันทร์ – ศุกร์ 17.30 – 23.00 น. (L.O.22.30 น.) วันเสาร์ – อาทิตย์ 11.30 – 14.00 น. และ 17.00 – 23.00 น. (L.O. 22.30 น.)
9. Segawa ร้านปิ้งย่างชื่อดังที่คุณจะได้เต็มอิ่มกับเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นและอาหารเกาหลีกันอย่างจุใจ

Segawa เป็นร้านปิ้งย่างที่ไม่ได้มีแค่เนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังมีเมนู อาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับอีกหลากหลายให้คุณได้เลือกกันอย่างจุใจ ทำให้ถูกอกถูกใจทั้งคนที่ชอบเนื้อย่างและอาหารเกาหลี ไม่เว้นแม้แต่ดาราและนักกีฬาชาวเกาหลีก็ยังต้องแวะเวียนมาชิมกันอยู่เสมอๆ ทางร้านมีเนื้อชั้นดีมากมายไว้ให้คุณเลือก และเนื้อที่ทางร้านแนะนำเป็นพิเศษก็คือ “เนื้อซี่โครงแบบพิเศษ” ที่คนรักเนื้อจะไม่ผิดหวังกับความนุ่มของเนื้อลายสวยจานใหญ่ปริมาณเต็มอิ่ม พอนำไปย่างไฟร้อนๆ คุณก็จะได้สัมผัสกับความชุ่มฉ่ำและนุ่มละมุนจนแทบจะละลายในปาก และถ้าคุณสั่งเมนูเนื้อย่างทางร้านก็จะมีเครื่องเคียงอีก 5 – 6 ชนิดตามสไตล์เกาหลี อาทิ ผักปรุงรสรวมมิตร กิมจิ เสิร์ฟมาให้ได้ทานคู่กับเนื้อย่างด้วย
นอกจากนี้ที่ร้านนี้ก็ยังมีเมนูอาหารเกาหลีหลากหลายเมนูที่หาทานไม่ได้จากร้านอื่นๆ อาทิ ปูดองซอสสไตล์เกาหลี ต้มเนื้อส่วนเข่าและกระดูกอ่อน และอีกสารพัดเมนูเตรียมไว้ให้คุณได้มาลิ้มลอง และที่ชั้น 2 ของร้านก็ยังมีห้องส่วนตัวที่สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 14 ท่านและ 20 ท่านไว้สำหรับลูกค้าที่มาจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์กันเป็นกลุ่มได้อีกด้วย
Owner’s Voice:
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบอาหารปิ้งย่างและอาหารเกาหลีรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะเรามีอาหารที่หลากหลายไว้คอยให้บริการ
ที่อยู่: 5/3 ซอย พร้อมศรี 2 สุขุมวิท ซอย 39
เวลาทำการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 17.00 – 24.00 น. (L.O. 23.30 น.) วันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.30 – 24.00 น. (L.O. 23.30 น.)
10. Yakiniku Iroha ร้านเนื้อย่างชั้นดีสไตล์ญี่ปุ่นที่ครองใจคนรักเนื้อมาอย่างยาวนาน

ร้าน Yakiniku Iroha เป็นร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดมาอย่างยาวนาน ภายในร้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมที่นั่งรองรับมากกว่า 100 ที่นั่ง แม้จะพาเด็กๆ มาด้วยก็ไม่เป็นปัญหา แม้ว่าสุดสัปดาห์ลูกค้าจะเยอะมากจนที่นั่งเต็มทุกที่ก็ตาม ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่น แต่ลูกค้าชาวไทยก็มีแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย รวมไปถึงบรรดาคนมีชื่อเสียงที่แวะเข้ามาทานอยู่ตลอด
ที่ร้านนำเข้าเนื้อวากิวคุณภาพดีมากมายจากทั้งโกเบ ฮอกไกโด ฮากาตะ เพื่อให้ได้รสชาติราวกับทานที่ญี่ปุ่นทางร้านจึงใส่ใจพิถีพิถันกับซอส น้ำจิ้ม และกิมจิที่ทางร้านทำเอง นอกจากนี้ที่ร้านจะยังใช้ถ่านคุณภาพดีอีกด้วย จุดเด่นของทางร้านคือด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ลูกค้าทานได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอาหาร นอกจากเนื้อย่างแล้ว ที่ร้านยังมีอาหารจานเดียวหลากหลายเมนูรวมถึงซูชิอีกด้วย
Owner’s Voice
ร้านเนื้อย่าง Yakiniku Iroha เป็นร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เปิดมานานถึง 17 ปีแล้ว จากคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้งร้านมาจนถึงตอนนี้รสชาติแท้ๆ แต่แรกเริ่มก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากเมนูเนื้อย่างแล้ว ยังอยากให้มาลิ้มลองซีฟู้ดปิ้งย่างหรือเมนูใหม่อย่างซูชิกันดู
ที่อยู่: ทองหล่อ ซอย11 ถนนสุขุมวิท 55
เวลาทำการ: กลางวัน (เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์) 11.00 – 14.30 น. (L.O. 14.00 น.)
เย็น 17.00 – 22.30 น.
11. Sutamina En ที่นี่คุณสามารถลิ้มรสเนื้อวัวออสเตรเลียคุณภาพเยี่ยมในราคาที่เป็นกันเอง

“Sutamina En” มีทั้งหมด 4 สาขาในกรุงเทพและศรีราชา เนื้อที่ร้านนี้ภูมิใจเสนอคงหนีไม่พ้นเนื้อคุณภาพยอดเยี่ยมในราคาเบาๆ ซึ่งจะต่างกับร้านปิ้งย่างร้านอื่นๆ ในกรุงเทพ เพราะที่นี่เขาจะนำเข้าเนื้อวัวออสเตรเลียจากฟาร์มเลี้ยงเจ้าประจำ จึงสามารถควบคุมคุณภาพเนื้อ และราคาที่ทุกคนพอใจได้ สำหรับเมนูที่ทุกคนถ้าได้มาทานที่นี่แล้วจะต้องสั่งก็คือเมนูขึ้นชื่อของ ร้าน “Aka Mix” รวมมิตรเนื้อแดง (Aka) เป็นการนำเอาเนื้อวัวออสเตรเลียส่วนที่เป็นสีแดงเสิร์ฟรวมกัน ทั้งคุณภาพและปริมาณเต็มร้อย อีกเมนูที่นิยมกันก็คือ “Shiro Mix” รวมมิตรเครื่องใน เป็นจานที่เน้นส่วนที่เป็นสีขาว (Shiro) ของวัว ได้แก่ เครื่องในวัวส่วนต่างๆ และตับ เป็นอีกหนึ่งจานที่อุดมไปด้วยวิตามินและธาตุเหล็ก แนะนำสำหรับสาวๆ ที่อยากมีผิวสวย นอกจากเนื้อแล้วทางร้านยังเสิร์ฟข้าวสวยหุงสไตล์ญี่ปุ่น ทานคู่กันกับเนื้ออร่อยแล้วล่ะก็ คงจะอร่อยจนหยุดไม่ได้จริงๆ
Owner’s Voice
อย่างแรกเลยอยากให้มาลองเมนูขึ้นชื่อของร้าน “Aka Mix”! และทางร้านก็มีเมนูพิเศษเฉพาะให้ได้ลิ้มลองรสชาติใหม่อยู่เรื่อยๆ ถ้ามาร้านก็อย่าลืมสั่งมาทานกันดูนะ
ที่อยู่: Nihonmachi ชั้น 2 สุขุมวิท 26
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 17.00 – 01.00 น. (L.O. 24.00 น.) เสาร์ – อาทิตย์ 11.30 – 24.00 น. (L.O. 23.00 น.)
12. TAN ร้านเนื้อย่าง “TAN” เปิดใหม่แล้วที่อารีน่า 10!

ร้านเนื้อย่าง TAN มีด้วยกันทั้งหมด 3 สาขา เป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรักเนื้อย่างอย่างเหนียวแน่น เพราะที่นี่ใช้เนื้อชั้นดีอย่างเนื้อวากิวคุณภาพที่คัดสรรมาแล้ว เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทางร้านได้ย้ายจากแกรนด์ทาวเวอร์ทองหล่อ ไปเปิดที่อารีน่า10 ด้วยบรรยากาศใหม่ๆ ภายในร้านมาพร้อมเตาไร้ควัน ให้ลูกค้าทุกท่านได้ลิ้มรสเนื้อคุณภาพดีไม่เหมือนใคร แถมที่สาขาเอกมัยยังมีโปรโมชั่น 598 บาทให้ทุกคนได้ทานเนื้อวากิวกันแบบไม่อั้นเลยทีเดียว เนื้อที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟนั้นมีการจัดการและนำส่งอย่างดี ให้ลูกค้าได้ทานเนื้อคุณภาพดีและปลอดภัยอย่างแน่นอน
Owner’s Voice
ทางร้านมีเมนูอาหารเกาหลีต่างๆ ให้เลือกมากมาย แล้วก็ยังมีเซตอาหารกลางวันราคาประหยัดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์อีกด้วย หรือใครสนใจทานเนื้อคุณภาพดีแบบไม่อั้นก็มาทานได้ที่สาขาทองหล่อ มีให้เลือกทั้งเซต A 998 บาท B 798 บาท C 658 บาท
ที่อยู่: โครงการอารีน่า 10 ทองหล่อ ซอย 10
เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันศุกร์ 17.00 – 23.00 น. วันเสาร์อาทิตย์ 11.30 – 15.00 น. และ 17.00 – 22.30 น.
13. Yakidō Yakiniku บุฟเฟ่ต์ที่คุณฟินได้ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่ม

ถ้าคุณอยากจะทานเนื้อย่างเราขอแนะนำ “Yakido Yakiniku” ร้านปิ้งย่างสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นชาวไทยซึ่งคุ้มค่าด้วยราคาที่คุณจะต้องตกใจ เพราะราคาเริ่มต้นเพียง 299 บาทเท่านั้น ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มกับเพื่อนหรือจะมาคนเดียวก็ไม่มีปัญหา ทางร้านมีทั้งหมด 3 คอร์สให้คุณเลือก ได้แก่คอร์ส “Buta” ซึ่งจะมีทั้งหมูและปลาให้เลือก ส่วนคอร์ส “Classic” ก็จะมีเนื้อเป็ดและหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และ “Premium” ซึ่งมีเนื้อวัวชั้นดีและแซลมอนซาชิมิพิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ทั้งนี้ทุกๆ คอร์สก็จะมีข้าวและเครื่องเคียงรวมอยู่ด้วยรับประกันความหลากหลายให้คุณได้ เลือกกันอย่างจุใจ นอกจากนี้ทางร้านยังใช้เตาไร้ควันซึ่งคุณไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลิ่นเหม็นติด เสื้อผ้าให้กวนใจในตอนที่กำลังออกเดทกับคนรู้ใจหรือไปช้อปปิ้งต่ออย่าง แน่นอน
Owner’s Voice:
นอกจากจะมีเนื้อหลากหลายชนิดให้ เลือกแล้ว ทางร้านเราก็ยังมีท็อปปิ้งหลากหลายชนิด อาทิ วาซาบิหรือต้นหอมให้ลูกค้าเลือกได้อีกด้วย เชิญทานกันให้เต็มที่เลยนะคะ
ที่อยู่: MBK Center ชั้น 7 โซน SF
เวลาทำการ: 11.00 – 22.00 น. (L.O. 21.15 น.)
14. Kintarou สาขาแรกที่สุขุมวิท 33 รสชาติเทียบเท่าร้านปิ้งย่างในอากาซะกะ โตเกียว โดดเด่นที่ราคาย่อมเยา

“Kintarou” ร้านปิ้งย่างที่ครองใจคนญี่ปุ่นด้วยบริการที่ดีเยี่ยม เป็นกันเอง และราคาอาหารที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ ร้านนี้มีสาขาแม่อยู่ที่โตเกียว (ขณะนี้กำลังปรับปรุงร้าน) ให้บริการเมนูอาหารสไตล์เกาหลี ไม่ว่าจะเป็นกิมจิ ซุปชิเกะ ผัดวุ้นเส้นฉับเช และอื่นๆ ซึ่งที่ไทยก็สามารถสั่งมารับประทานได้เหมือนกัน และด้วยรสชาติที่อร่อยเหมือนได้ไปกินที่โตเกียวก็ทำให้มีลูกค้าขาประจำอยู่ เพียบ ร้านนี้ให้อร่อยกับปิ้งย่างด้วยเตาถ่าน กลิ่นหอมของเนื้อย่างขณะปิ้งก็ช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี พริกแดงที่ใช้ก็นำเข้าจากเกาหลี ที่นี่เอาใจใส่กับวัตถุดิบทุกอย่างที่นำมาเสิร์ฟ อีกหนึ่งอย่างที่เจ้าของร้านภูมิใจคือเนื้อไทยเฟรนช์ และการไม่แช่แข็งเนื้อทำให้เนื้อมีความสดใหม่ ซึ่งเมนูที่นิยมอันดับ 1 ของทางร้านที่พลาดไม่ได้คือ “ลิ้นวัวหมักเกลือและต้นหอม” นอกจากนี้สำหรับที่สาขาทองหล่อยังมีห้องส่วนตัวไว้สำหรับจัดงานเลี้ยงอีกด้วย ถ้าใครยังไม่เคยมาทานปิ้งย่างที่นี่ ลองมาดูสักครั้งแล้วจะติดใจกับราคาเบาๆ และเนื้ออร่อยๆ
Owner’s Voice
รสชาติอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่ถูกปากคนญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่เนื้อที่ทางร้านภูมิใจเท่านั้น เมนูอาหารข้างเคียงอื่นๆ เราก็มั่นใจว่าอร่อย มาลองทานกันให้ได้นะ
ที่อยู่: 4/6 – 7 สุขุมวิท 33
เวลาทำการ: 17.00 – 02.00 น. (L.O. 01.00 น.)
15. Gyu-maru ร้านปิ้งย่างชื่อดังของกรุงเทพฯ ที่คัดสรรเฉพาะเนื้อชั้นดีมาเสิร์ฟให้กับคุณ

Gyu-maru ซึ่งตั้งอยู่ที่ทองหล่อซอย 13 เป็นหนึ่งในร้านเนื้อย่างชั้นนำที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในหมู่คนรักเนื้อ ย่างทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และยังเป็นอีกหนึ่งร้านประจำของเหล่าดาราและเซเลบของไทยอีกด้วย จุดเด่นของทางร้านอยู่ที่การคัดสรรเฉพาะเนื้อชั้นดีคุณภาพเยี่ยมมาให้ลูกค้า ได้ลิ้มลองในราคาที่ย่อมเยา และยังมีเชฟผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์การทำงานจากโรงแรม 5 ดาวเป็นผู้คัดเลือกวัตถุดิบและคอยดูแลควบคุมคุณภาพของเนื้อให้สดใหม่จนกว่าจะเสิร์ฟถึงมือลูกค้า
เมนูที่ทางร้านขอแนะนำคือเนื้อริบอายพิเศษ รสกลมกล่อม เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และตามมาด้วยอีกหนึ่งทีเด็ดของเชฟอย่างเทปันยากิเนื้อหั่นลูกเต๋า ทั้งนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูพิเศษที่จะปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล และในช่วงกลางวันทางร้านก็ยังเปิดทำการโดยมีเซตอาหารกลางวันไว้บริการให้คุณ ได้เต็มอิ่มกันแบบสุดๆ
Owner’s Voice:
ถ้าคุณอยากสัมผัสกับเนื้อชั้นดีคุณภาพเยี่ยมในราคาที่ย่อมเยา และเมนูพิเศษจากสุดยอดเชฟของเราที่หาทานไม่ได้จากที่ไหนขอเชิญได้ที่ Gyu-maru ทองหล่อ ซอย 13
ที่อยู่: Nihonmura ชั้น 2 ทองหล่อ ซอย 13
เวลาทำการ: 11.30 – 14.30 น. และ 17.00 – 23.30 น.
แผนที่ร้านยากินิคุ
อ่านรีวิวร้านอาหารเพิ่มเติมได้ที่ www.spoooooon.com เว็บไซต์รีวิวร้านอาหารทั่วกรุงเทพฯ น้องใหม่ ลองเข้าไปดูกันได้นะจ๊ะ
เรียบเรียงโดย : ทีมงาน www.marumura.com