World Cup 2022 series Ep.1 “กล้า”
“หากปราศจากความกล้า คุณก็จะไม่มีวันรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง ไม่มีวันรู้จักโลกนี้อย่างลึกซึ้งตามที่ควรจะเป็น และชีวิตก็คงจะด้อยค่ากว่าที่หวังไว้”
Elizabeth_Gilbert (ผู้เขียน Eat Pray Love แต่ผมได้ยินผ่านจาก น้อง เกตุวดี Marumura)
โดยส่วนตัว ผมชอบฟุตบอลมาก ยิ่งช่วงจะเข้าบอลโลก ยิ่งอยากแชร์เรื่องราว เกี่ยวกับฟุตบอล ผ่านมุมมองประสบการณ์ที่ญี่ปุ่น ไม่ได้อยากเน้นเรื่องบอล แต่อยากให้เน้นเรื่องความคิดกับทัศนคติชีวิต ผ่านเส้นทางของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น…
เรื่องแรกที่ผมอยากหยิบยกขึ้นมาคือ “ความกล้า”
ย้อนกลับไป 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่น ถูกยอมรับถึงความเจริญก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี คุณภาพผู้คน เรียกว่า number one ในเอเซียแทบทุกอย่าง แต่สิ่งนึงที่ติดใจ หรือค้างคาใจคนญี่ปุ่นยาวนานคือ พวกเขาเล่นฟุตบอลอยู่ใต้เงา หรือเป็นรองกับทีมชาติเกาหลีใต้มาโดยตลอด ทั้งที่สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นตอนนั้น มีทรัพยากรทุกอย่างที่น่าจะเสกให้ทีมชาติญี่ปุ่น ไปถึงฝั่งฝันคือการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก
ในวันที่เกาหลีใต้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ไปแล้วสิบปี ญี่ปุ่นก็ยังไม่เคยไปถึงฝันนั้น แต่ในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น พวกเขามองเห็นเรื่องบางเรื่อง ที่อาจะเป็นคำตอบเพื่อการไปถึงความฝัน หรืออาจจะเป็นตำตอบของชีวิตคนธรรมดาๆ อย่างพวกเราว่าทำไมเราถึงไม่ได้ไปถึงฝันที่ควรจะเป็น
“กล้าที่จะลอง กล้าที่จะเสี่ยง”
เจ้าหนูคนนึง นาม คาซูโยชิ มิอุระ… (แต่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า คาซู) ในวันที่เขาเห็นทีมชาติข้างบ้านอย่างเกาหลี ได้ไปบอลโลก หรือแม้แต่ทีมจากตะวันออกกลางก็ไปบอลโลกแล้ว คาซูโยชิ ทำเรื่องที่ในสมัยนั้นดูบ้าบอมาก คือเด็กอายุเพียง 15 ปี เก็บข้าวเก็บของใส่กระเป๋า พร้อมรองเท้าอีกคู่ มุ่งตรงสู่ดินแดนที่อยู่ห่างไกลจากญี่ปุ่นที่สุด “บราซิล” ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งลูกหนัง (มีคำกล่าวว่า คนอังกฤษให้กำเนิดฟุตบอลก็จริง แต่คนบราซิลทำให้ฟุตบอล สมบูรณ์แบบ)
“ตัวผมก็ไม่สูง เทคนิคก็ไม่เคยถูกใครยอมรับว่าเป็นอันดับต้นๆ … ถ้าจะไปถึงฝัน มันก็ต้องออกไปโลกข้างนอกนั่นเท่านั้น”
ในวันที่คาซูโยชิ ไปบราซิล โลกของเรายังไม่รู้จักอินเตอร์เนต คนบราซิล แปลกใจและตื่นตาตื่นใจ กับเด็กยุ่นคนนึง ที่เดินก้าวออกมาจากซีกโลกนึงมาที่นี่ โดยแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้ชีวิต หรือจะเตะบอลที่นี่ได้ยังไง
แต่ในสมัยนั้น เราต้องยอมรับอย่างนึงว่า การไม่เข้าถ้ำเสือก็คงไม่ได้ลูกเสือ การกระโดดเข้าไปอยู่ในแหล่งตาไต้ฝุ่น อาจเป็นวิธีที่เร็วและได้ผลที่สุดเพื่อที่จะได้ความรู้หรือสกิลใดๆ มา ถึงแม้มันอาจจะอันตรายมากหรืออาจถึงอดตายก็ตาม เหมือนกับหากคุณอยากได้สกิลภาษาญี่ปุนที่แข็งแกร่งในศตวรรษที่แล้ว ก็คงต้องไปญี่ปุ่นจริงๆ คาซูโยชิคงคิดเช่นนั้น
สื่อญี่ปุ่นรับรู้เรื่องราวของเขา ถึงความทะเยอทะยานของเด็กคนนึง เรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้คนในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นมาก อย่างแม้แต่การ์ตูนเรื่องกัปตันสึบาซะ ผู้เขียนก็ได้อิทธิพลจากคาซูเนี่ยแหล่ะ ที่ให้พระเอกสึบาซะของเราไปเล่นในลีกบราซิลตั้งแต่เด็ก รวมถึงปัจจุบันนี้ ที่ลูกหลานนักเตะญี่ปุ่น ก็ออกไปสู่โลกกว้าง ไม่ว่าจะเป็นั้งแต่นากาตะที่ไปอิตาลี ตอนที่อิตาลีมีลีกอาชีพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก หรือวันที่ตอนนี้พรีเมียร์ลีก กำลังรุ่งเรื่อง คะกาวะ มินามิโนะ ก็ออกมาจากญี่ปุ่น เพื่อจะได้รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้รู้จักโลกของฟุตบอลที่ลึกซึ้งขึ้น รวมถึงชีวิตที่ไม่ด้อยค่า แม้จะแลกด้วยความเสี่ยงว่าจะไม่ได้ติดแม้แต่ตัวสำรองของทีมก็ตาม…
ถามว่าคาซูได้อะไรเมื่ออุตส่าห์ไปถึงบราซิล เขากลายเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเอเซียในปี 1992 และที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ อาจเป็นเพราะไปฝึกร่างกายที่อเมริกาใต้ตั้งแต่เด็ก เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่ยังคงเล่นในลีกสูงสุดของประเทศ (เจลีก ที่เมซซี่ เจของเราเล่นอยู่) จนถึงอายุห้าสิบ ซึ่งเป็นสถิติโลกไปแล้วเช่นกัน….
ยังไม่พอ… ด้วยความกล้าเช่นนี้ นอกจากจะส่งผ่านไปสู่เหล่านักเตะญี่ปุ่นรุ่นลูกรุ่นหลาน แม้แต่ลูกชายของเขาคาซูเอง ก็กล้าที่จะหันหลังให้กับฟุตบอลและเดินทางเข้าสู่กีฬาต่อสู้แทน หากเราจำกันได้เมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมาโคตะ มิอุระลูกชายแท้ๆ ของคาซูเนี่ยแหล่ะ ที่ไปกล้าชกกับบัวขาวของเราที่เวทีราชดำเนิน!!
เครดิตภาพ : https://www.sanook.com/sport/1344029/ และ
https://www.gqthailand.com/
ที่ผมเอาเรื่องนี้หยิบขึ้นมาเขียน ไม่ใช่แค่อยากให้มีความกล้า หรือให้ใจบรรดาลแรง แต่ตัวผู้เขียนเองก็เช่นกัน ที่ตอนนี้ก็แทบไม่กล้าจะเขียนอะไรใหม่ๆ ด้วยซ้ำ
“ความกล้าหาญไม่ใช่การที่ไร้ซึ่งความกลัว แต่แท้จริงคือการที่เราสามารถเอาชนะความกลัวได้ต่างหาก”
— Nelson Mandela
เรื่องแนะนำ :
– นิทาน อาเบะ กับเวทมนต์ต้องห้าม
– นิทานมนุษย์เงินเดือน : เข็มนาฬิกา กับ มินามิโนะ
– [18+] “MEXT” วันแห่งโชคชะตา
– [18+] 10 วิธี เพื่อ “ซ่อมบำรุงสมอง” ใน 10 นาที ง่ายจนอยากแชร์
– “กล้า” เมสเสจของเกตุวดี ถึง ซาลารี่แมนบ้าพลัง
#World Cup 2022 series Ep.1 “กล้า”