เที่ยวกุนมะเก๋ๆ…วันนี้นะอีฮั้นไม่ได้ไปผจญภัยคนเดียวอ่ะ มีเพื่อนๆ ไปด้วยเพียบ คือมีป้าพนอจัน ลุงสาหร่าย เพื่อนคนญี่ปุ่น 1 คน และแอดมินโซระ เพจไม่ใช่กรูรูฯ โตเกียวไปเที่ยวด้วยกัน พูดเลยทริปนี้สนุกมากๆ คร้าาาา
วันนี้นะอีฮั้นไม่ได้ไปผจญภัยคนเดียวอ่ะ มีเพื่อนๆ ไปด้วยเพียบ คือมีป้าพนอจัน ลุงสาหร่าย เพื่อนคนญี่ปุ่น 1 คน และแอดมินโซระ เพจไม่ใช่กรูรูฯ โตเกียวไปเที่ยวด้วยกัน พูดเลยทริปนี้สนุกมากๆ ถึงจะยังไม่ถึงวันที่สวยที่สุด แต่พวกเราทำเพื่อให้ได้ภาพบรรยากาศของการเดินทางมาฝากเพื่อนก่อนวันที่จะบาน สุดๆ คร้าาาา

อย่าได้เสียใจไปสำหรับคนที่พลาดหวังจากการไปฮอกไกโด ที่นี่ถือว่าช่วยให้คุณเจอลาเวนเดอร์ได้เป็นอย่างดีทีเดียวนะคะ!!
ดูรายละเอียดทัวร์ได้ที่นี่ >> http://goo.gl/s2QkzY

เริ่มจากเราก็ไปเช็คอินที่เดิมเลยคร้าาา โรงแรมเคโอพลาซ่า โตเกียว ชินจุกุ ในเวลา 8.15 น.
ใครไปไม่ถูกเดินทางง่ายๆ ดูที่นี่เลยนะคะ >> http://goo.gl/6bxOLN
ที่นี่สามารถเดินจากสถานี Shinjuku ที่ทางออก West Exit ประมาณ 5 – 7 นาที หรือเดินจากสถานี Tochomae กรณีเดินทางด้วยรถไฟสาย Toei Oedo โดยให้เดินจากทางออก B1-A1 เลี้ยวซ้ายแล้วเจอทันทีคร้าาาา

ไกด์ก็สรรหาสรรพสิ่งมาอธิบายให้เราฟังนางชื่อ ‘เอมี่’ นางเป็นไกด์ดีเด่นเลย ทั้งใจดี และพยายามอธิบายทุกๆ เรื่องแม้ว่า….พวกเราจะแอบงีบ 5555
การเดินทางครั้งนี้แอบมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันนิดหน่อยคือ มีเด็กป่วยกะทันหัน น่าจะท้องเสียค่ะ แล้วต้องมีรถพยาบาลมารับ คุณเอมี่ นางเก่งมากค่ะ แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น รถพยาบาลมาตอนไหน แล้วเอาเด็กกลับมาส่งเมื่อไหร่ ?!?! นางทำได้เนียนมาก สมเป็นมืออาชีพ การไปเที่ยวกับมืออาชีพก็ดีตรงนี้แหล่ะค่ะ อันนี้ขอชื่นชมมากๆ

การเดินทางไปกุนมะด้วยบัส จะเดินทางไม่ได้นานมากค่ะ สองชั่วโมง หลับบ้าง ไรบ้าง ฟังไกด์บ้าง เมื่อเดินทางนานเราก็ต้องพักช้อปปิ้งกันที่เซอร์วิสแอเรียนิสสสส นึง

จุดแรกที่เราจะไปที่นี่เลยค้าาาาา น้ำตก Fukiware ที่ เค้าว่ากันว่าเป็นน้ำตกที่เปรียบเสมือนไนแองการ่าของญี่ปุ่นเลยนะ เนื่องจากมันมีหินที่ถูกกันเซาะ เป็นแอ่งๆ ซึ่งที่น้ำตก ที่นั่นมีความลึก และน้ำที่ตกลงมานั้นยาวลงมาถึง 7 เมตร และมีความกว้าง 30 เมตร พูดเลยว่าอลังการงานสร้างมาก ธรรมชาติทำได้จริงๆ อีฮั้นเคยมาเมื่อสองปีก่อนแล้วครั้งนึงเพื่อมาเก็บลูกเชอรี่ ตอนนั้นน้ำยังไม่เยอะเท่ากับครั้งนี้ ทางเดินอีกเส้นนึงเลยถูกปิดเพราะน้ำแรงมากๆ ครั้งนี้มาประทับใจกว่าเดิมอีก แต่เสียดายไปเล่นที่สะพานไม่ได้

หลายคนตะลึงพรึ่งเพริดกับธรรมชาติ และร้านค้าข้างทางก่อนเข้าน้ำตก เพราะว่ามันธรรมชาติมากๆ ไม่ได้มาต่างจังหวัดจะไม่ได้เจอแบบนี้แน่ๆ



ตลอดเวลาการเดินเข้าไปยังน้ำตกคุณลุงกับคุณป้าก็จูงมือกันเดินเป็นภาพที่ประทับ ใจมากๆ สมเป็นคู่สร้างคู่สม เนื่องจากทางชัน ป้าก็เก่งมาค่ะ เดินเก่ง และเดินทน สุดยอดไปเลยค่ะ นับถือสุดๆ ส่วนลุงคอยระวังทางให้ป้า พร้อมกับโซระจัง นางก็จูงป้าพลัดกับลุง

ส่วนน้ำตกก็เป็นอะไรที่สวยได้สมใจที่เราตั้งตารอคอยเดินทางไปดูกัน จุดต่อมา เราก็รอคะรอกิน 5555
คือมันเป็นบุฟเฟ่ต์ อาหารสุขภาพนานาชาติ แต่จะบอกก่อนโชว์ภาพนะว่าอร่อย เพราะป้าพนอจันก็ทานมาแล้ว เมนูนี่เน้นผัก มีเวลคัมเมนูเป็น roast beef!
ใครจะไม่ทานก็ได้ค่ะ ให้คนข้างๆ ไป 5555
ส่วนที่บาร์บุฟเฟ่ต์ก็มีพิซซ่า เทมปุระ คาราเกะ อุด้ง ฯลฯ และที่ชอบที่สุดนะคะ คือเมนูชีสคล้ายๆ ลาซานญ่า คือมันอร่อยมาก แล้วก็อ้วนมากแน่ๆ เลยตักกินไปแค่สองครั้งค่ะ 555




เรียกได้ว่าแต่ละคนก็จัดเมนูที่ตัวเองชอบกันแตกต่างกัน 555
เมื่อเรากินกันอิ่มแล้ว กองทัพเดินด้วยท้องค่ะ เราจะเดินเข้าสวนแล้วนะคะ ตลอดทางเป็นทุ่งค่ะ มีทั้งสวน ทั้งนาข้าว ข้าวโพด สวนแอปเปิ้ล แล้วก็ลูกพีช หรือคนญี่ปุ่นเรียกว่าโมโมะ


เราได้รับถุงพลาสติก และโฟมตาข่ายกันกระแทก 2 แผ่นค่ะ กติกาคือ ใครจับลูกไหนแล้วให้เลือกลูกนั้นเลย เราจะจับเล่น ถ่ายรูปแล้วไม่เอาไม่ได้เพราะว่ามันจะช้ำค่ะ โมโมะค่อนข้างบอบบาง เพราะเปลือกเค้าบางมากๆ เราเอามือช้อนที่ก้นของลูก งัดหัวลงแล้วขยับนิดนึงก็หลุดแล้วค่ะ ทำได้ไม่ยาก สามารถเลือกได้ 2 ลูก แล้วเค้าจะมีให้เป็นของแถมกลับบ้านอีก 1 ลูกค่ะ

ที่สวนมีบันไดลิงให้ด้วย ปีนได้นะคะ แต่อย่าเล่นกัน ดูโซระจังจะชอบโมโมะนะคะ
ใครที่อยากรับประทานตรงนั้นเลยก็ได้ ส่วนใครที่จะเอากลับไปทานที่บ้านที่โรงแรม ก็จัดได้เลยค่ะ จะบอกว่าเลือกไม่ค่อยเก่ง ลูกนึงหวานมาก อีกลูกยังอ่อนอยู่ แต่ลูกที่เค้าแถม เป็นลูกที่สุกมากแล้ว ลูกนั้นแหล่ะ อร่อยที่สุด 5555
เย้!! เอาใส่ถุงเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาเราก็เดินทางไปยังทุ่งลาเวนเดอร์กันนะ! ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึงค่ะ
การเดินทางเอง ถ้าใครเดินทางมาเองก็สามารถใช้คันโตพาสได้เช่นกันนะคะ เดินทางจากโตเกียวจะต้องโดยสารรถไฟชินกันเซ็น Toki ที่เดินทางไปนีงาตะ แล้วลงที่สถานี Takasaki เพื่อต่อรถไฟสาย JR Joetsu จากนั้นให้ลงที่สถานี Numata แล้วต่อบัสที่นั่น ใช้เวลาสิริรวม 3 ชั่วโมงค่ะ คือสองชั่วโมงบนรถไฟ และอีก 1 ชั่วโมงจะมีบัสไปถึงสวน ค่าใช้จ่ายบัสประมาณ 1 พันเยน และค่าเข้าสวน (กรณีเดินทางเอง) 1 พันเยน
*อันนี้คือข้อดีของการที่เดินทางโดยซื้อทัวร์ 1 Day นะคะ คือรวมหลายๆ อย่างไว้แล้ว สบายๆ

เอาหล่ะถึงเวลาสำหรับลาเวนเดอร์แล้ว เย้ๆ
เราเดินทางถึง Tambara Lavender Park ที่นี่มีลาเวนเดอร์กว่า 50,000 ต้น 15 สายพันธุ์ซึ่งที่สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,300 เมตร อากาศเย็นๆ ค่ะ ตื่นเต้นๆ

เข้ามาถึงสวนแล้วค่ะ แปลกนะคะ ที่นี่อากาศไม่ร้อนเลย เย็นๆ ด้วยซ้ำ ทั้งที่จุดอื่นๆ นี่ไม่ได้ต่างจากไทยเลยนะ สงสัยหน้าหนาว ที่นี่คงหนาวมากๆ เค้าบอกว่าสวนนี้จะเปิดให้เข้าแค่ในฤดูนี้เท่านั้น แอบสงสัยว่ามีลิฟต์ ที่นี่เป็นลานสกีในยามหนาวหรือเปล่าน้อ 55 คิดเองนะคะ


พวกเราตัดสินใจซื้อตั๋วเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 450 เยนเพื่อโดยสารลิฟต์ไปลงด้านบน เพราะอยากได้ภาพจากลิฟต์ด้วย แต่เพลงที่เปิดคลอตอนนั่งลิฟต์นี่ทำเอาเราทุกคนเกือบหลับ 5555 ลมโชยๆ ด้วยอ่ะ















เพื่อนๆ คนไหนมาโตเกียวแล้วเสียใจไม่ได้ไปชมลาเวนเดอร์เหมือนหลายๆ คนที่ไปฮอกไกโด ต่อไปนี้ก็ลองเปลี่ยนมาเที่ยวที่นี่ดูบ้างนะคะ ถึงจะไม่เหมือนกัน แต่ว่าที่นี่ก็เป็นจังหวัดที่น่ารักๆ ผู้คนเป็นกันเอง อาหารอร่อย ผลไม้อร่อยค่ะ
ของกินอร่อยไม่แพ้ใครในคันโตต้องที่นี่เลย กุนมะ!!!
ตามติดของดีๆ ถูกๆ ที่ยังมีรอให้คนไทยมาช๊อปกันกับ Nat Nana ทั้งหมด คลิ๊ก >>> ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่>>> Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว