ถ้าไม่มี “ผม” คุณจะทำยังไง??? คนเราจึงพยายามสรรหา “ทรงผมที่คิดว่าเหมาะกับตัวเรา” แต่ในอีกด้านหนึ่ง ทรงผมของคนญี่ปุ่นล่ะเป็นยังไงกัน?? เพราะอย่างนี้เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ “ทรงผม” ของชาวญี่ปุ่นว่าเค้ามีประวัติความมายังไงกัน!!!
เส้นผม เป็นสิ่งที่อยู่คู่กะคนเรามาตั้งแต่เรายังแบเบาะ เส้นผมจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับมนุษย์เราเป็นอย่างมาก!!
ถ้าไม่มี “ผม” คุณจะทำยังไง??? คนเราจึงพยายามสรรหา “ทรงผมที่คิดว่าเหมาะกับตัวเรา” แต่ในอีกด้านหนึ่ง ทรงผมของคนญี่ปุ่นล่ะเป็นยังไงกัน?? เพราะอย่างนี้เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ “ทรงผม” ของชาวญี่ปุ่นว่าเค้ามีประวัติความมายังไงกัน!!! แบ่งเป็นยุคๆ จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนกันนะคะ
![ผมของคนญี่ปุ่น](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair2.png)
ยุคโคะฟุง (古墳時代 ช่วงประมาณศตวรรษที่ 3 – 4) ทรงผม Shimada-mage เป็นทรงผมแบบออริจินอล ซึ่งลักษณะก็จะเป็นการเกล้าผมขึ้นบนศรีษะ แต่ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไป ก็นิยมเกล้าต่ำ เพราะว่าชาวบ้านส่วนเป็นเกษตรกร ก็จะต้องแบกของใส่ไว้ที่ศีรษะจึงนิยมมัดต่ำ
ส่วนผู้ชายทุกคนก็จะมัดเป็นแบบ mizura เป็นทรงผมตั้งแต่สมัยยาโยอิ ลักษณะก็จะเป็นรวบผมจากด้านล่างขึ้นข้างบนแล้วมัดไว้ข้างหูทั้งสองข้าง
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair4.png)
ยุคถัดมาป็นช่วงศตวรรษที่ 8 นั่นคือยุคอะซึกะ(飛鳥時代)และยุคนะระ(奈良時代)ยุคนี้เป็นยุคที่รับอิทธิพลจากประเทศจีนค่อนข้างมาก และเพราะได้รับคำสั่งจากจักพรรดิ์นินโชคุ ว่า “ผู้ชายและผู้หญิงทุกคนต้องมัดผมขึ้น” แต่ทรงผมก็จะแตกต่าง ก็จะแตกต่างกับยุคโคฟุนนิดหน่อย ตรงที่ว่าสามารถหาเครื่องประดับอื่นๆ มาประดับ ทำให้พวกผู้หญิงนั้นสนุกสนานกับการตกแต่งผมของตนเองด้วย ^^
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair5.png)
ส่วนทรงผมของผู้ชายนั้นก็จะมีหมวกสูงๆ ที่เหล่าขุนนางเค้านิยมใส่กัน โดยลักษณะคือรวบผมสูงๆ เหนือศรีษะ แล้วสวมหมวกทรงสูงเพื่อยึดผม
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair6.png)
ช่วงประมาณศตวรรษ 8 -11 นั่นก็คือช่วงเฮอัน (平安時代)เป็นช่วงที่หยุดความสัมพันธ์กับประเทศจีนและได้เริ่มปฏิเสธวัฒนธรรมของจีน ญี่ปุ่นจึงเริ่มปรับวัฒนธรรมกลับมาเป็นเหมือนเดิม ช่วงยุคนั้นเป็นยุควัฒนธรรมที่บริสุทธ์และเริ่มมีค่านิยมว่า ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานไม่ควรที่จะให้ผู้ชายเห็นหน้า ทรงผมช่วงยุคนั่นจึงมีลักษณะยาวที่พอมัดได้ เพื่อปกปิดใบหน้าได้อีกด้วย
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair7.png)
ต่อมาในช่วง ยุคคะมะคุระ(鎌倉時代)และยุคมุโระมะจิ(室町時代)พอหมดยุคเฮอันไปความอิสระต่างๆ ก็เริ่มมีมากขึ้นทั้งรวมทั้งเรื่องของทรงผม มีความหลากหลายมีแบบใหม่ๆ มากขึ้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงานว่าเราทำงานอะไร ในช่วงยุคเฮอัน พวกผู้หญิงแทบจะไม่ได้ย้ายไปไหนเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเส้นผมของผู้หญิงยุคนั้นถึงยาวมากๆ แต่พอมาในยุคนี้ หลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปจากเดิมส่วนทรงผมของผุ้ชายก็มีการโกนผมและไม่โกนผม ^6^
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair8.png)
ยุคที่ถือว่าเป็นอิสระ ทางด้านทรงผมมากที่สุดต้องยุคนี้ ยุคอะซึจิโมะโมะยะมะ (安土桃山時代)ทรงผมของยุคนี้ก็ออกแนวคล้ายๆ กับยุคโคฟุนแต่มีความทันสมัยกว่ามาก ก็คือมีการรวบให้สูงกว่าเดิม และก็มีเครื่องประดับที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ส่วนทรงผมของผู้ชายในสมัยนั้นก็จะไม่ค่อยโกนหัวกันสักเท่าไหร่ หรือเป็นยุคแห่งเสรีภาพของเส้นผมจริงๆ!!
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair9.png)
มาถึงประมาณศตวรรษที่ 16 – 17 หรือยุคเอะโดะ (江戸時代)ช่วงยุคนี้เป็นช่วงที่ละครคาบูกิ ค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลต่อทรงผมของผู้หญิงยุคนี้ ซึ่งในตอนนั้นคาบูกิค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงและเป็นแฟชั่นนิยมในสมัยนั้น
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair10.png)
มาถึงช่วงยุคเมจิ – โชวะก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง (明治~昭和前戦)ยุคนี้ที่เริ่มมีความเป็นตะวันตกเข้ามามากเนื่องจากการมีการเปิดความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับอเมริกา^^ ทรงผมจึงถูกออกแบบให้สามารถเข้ากันได้ทั้งญี่ปุ่นและทางตะวันตก
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair11.png)
ทรงผมก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้มีความสากลมากขึ้นตามกาลเวลา ในช่วงศตวรรษที่ 21 หรือ ยุคเฮเซ (平成) เป็นทรงผมปัจจุบันที่พบเห็นทั่วไปมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าอยากพบเห็นทรงผมที่เป็นออริจินอล ก็สามารถเห็นได้ตามงานพิธีสำคัญคล้ายๆ กับที่ประเทศไทยของเรานี่ล่ะค่ะ
นี่เป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของทรงผมของชาวญี่ปุ่น โดย Junno Abe
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair12.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair13.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair14.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair15.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair16.png)
![](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Culture/Japanese%20Hair/Hair17.png)
วิวัฒนาการของทรงผมยังไม่มีคงที่ ยังคงมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ตามวันเวลาที่หมุนไป แต่ถ้ามีโอกาสที่จะธำรงรักษาความเป็นดั้งเดิมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆ ซึ่งประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นประเทศที่ธำรงไว้ซึ่งความเป็นออริจินอลในด้านวัฒนธรรม น่าปรบมือให้เค้าจริงๆ ^6^
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://www.opendemocracy.net/arts-hair/article_766.jsp
http://towaiwai.com/thread-16.html
http://asianhistory.about.com/od/japan/ss/JapanHair_4.htm