ศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียว …ตั้งอยู่เลียบทะเลในอาริอาเกะ เป็นสถานที่เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ ทัวร์แผ่นดินไหวโตเกียว 72 ชั่วโมง ของศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียวสำหรับเรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ “แผ่นดินไหว” กันค่ะ ^^
“ถ้าเกิดไม่ได้รับการช่วยเหลือภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ก็อาจมีโอกาสสูงมากที่ผู้ประสบภัยจะเสียชีวิตไปก่อน แต่ผมคิดว่าเวลาในเหตุการณ์จริงมันสั้นยิ่งกว่า 72 ชั่วโมงซะอีก”
และนี่ก็คือคำพูดของไกด์ทัวร์จาก The Tokyo Rinkai Disaster Prevention Park (ศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียว) นั่นเอง
ศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียว ที่ตั้งอยู่เลียบทะเลในอาริอาเกะแห่งนี้เป็นสถานที่เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ ทัวร์แผ่นดินไหวโตเกียว 72 ชั่วโมง ของศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียวสำหรับเรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ “แผ่นดินไหว” กันค่ะ ^^

“ทัวร์แผ่นดินไหวโตเกียว 72 ชั่วโมง” ของศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียว

สถานที่จัดทัวร์ตั้งอยู่ภายในอาคารหลักของศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียว โดยมีชื่อว่า ทัวร์แผ่นดินไหวโตเกียว 72 ชั่วโมง ซึ่งเราสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ ฟรี
ทัวร์สัมผัสประสบการณ์ตลอด 2 ชั่วโมงแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกันประกอบด้วย ศูนย์สัมผัสประสบการณ์ บนชั้น 1F เป็นโซนทดสอบความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อเอาตัวรอดภายใต้การเกิดภัยพิบัติ ส่วน ศูนย์เรียนรู้ บนชั้น 2F เป็นโซนเรียนรู้ประเด็นสำคัญในการปฏิบัติตนที่ถูกต้องเมื่อเกิดภัยพิบัติ ข้อเท็จจริงว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร และในกรณีที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นภายในพื้นที่คนเยอะจะส่งผลกระทบอย่างไร เป็นต้น
ทัวร์นี้สามารถสมัครเข้าร่วมได้ตรงหน้างานเลยก็จริง แต่ในกรณีที่มากันเป็นหมู่คณะควรจองล่วงหน้าผ่าน เว็บไซต์หลัก ก่อนเสมอ
เตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เมื่อเริ่มทัวร์เราก็จะได้รับอุปกรณ์แท็บเล็ตจากพนักงานก่อนเป็นอันดับแรก โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นไอเทมชิ้นสำคัญสำหรับใช้เช็คแผนที่ระหว่างทัวร์และตอบคำถามต่างๆ
หลังจากรับอุปกรณ์มาแล้วก็รีบออกเดินทางกันเลยดีกว่า..เมื่อเข้าไปในลิฟท์ด้านหน้าแล้วก็จะเริ่มรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนและเสียงครืนๆ บริเวณโดยรอบอย่างฉับพลัน พอไฟดับลงก็มีเสียงประกาศจากระบบของลิฟท์ขึ้นมาว่าได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นและให้ทุกคนรีบออกจากลิฟท์ทันที
ถึงตรงนี้ให้ออกจากลิฟท์และเดินผ่านถนนอันมืดสลัวจากการไฟดับทั้งแถบ บรรยากาศตรงหน้าเป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ เราจะต้องมุ่งหน้าฝ่าฟันไปเรื่อยๆ ท่ามกลางไฟไหม้ซึ่งเกิดขึ้นจากอาคารถล่ม สายไฟที่ห้อยระโยงระยางน่ากลัว และเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
เราจะต้องตอบคำถามสไตล์ควิซที่แสดงขึ้นบนหน้าจอแท็บเล็ตให้ถูกต้องเมื่อเดินผ่านเส้นทางต่างๆ เช่น “ถ้าเราอยู่ในลิฟท์พอดีขณะที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวควรปฏิบัติตัวอย่างไร?” หรือ “ความหมายที่ถูกต้องของสัญลักษณ์บนแผนที่คืออะไร?” เป็นต้น บอกเลยว่ายากมากทุกข้อเลย! ดังนั้นเราจะต้องคิดให้รอบคอบก่อนตอบเสมอ
ในที่สุดเราก็สามารถหาทางออกจากจุดเกิดแผ่นดินไหวไปยังศูนย์อพยพจำลองได้สำเร็จ ภายในศูนย์อพยพจำลองมีการจัดแสดงข้อมูลที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำห้องน้ำชั่วคราวหรือเตาชั่วคราวจากม้านั่งภายในสวนสาธารณะ เป็นต้น นอกจากนี้ ระหว่างทางเรายังได้รับข้อมูลของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีประโยชน์ผ่านอุปกรณ์แท็บเล็ตอีกด้วย
ตรงกลางห้องเป็นที่ตั้งของโซนนอกระบบป้องกัน โดยตรงกลางมีหุ่นจำลองนั่งอยู่บนม้านั่งสูง เมื่อเจ้าหน้าที่ป้อนคำสั่งระบบแรงสั่นสะเทือน ม้านั่งก็จะเริ่มกระเด้งขึ้นพร้อมกับเสียงครืนๆ ตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 7 เมื่อแรงสั่นสะเทือนถึงขีดสูงสุด เราจะได้เห็นเลยว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหวในปี 2011 นั้นต้องพบกับอะไรบ้าง
เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญหลังจบกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์
หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยัง โซนเรียนรู้การป้องกันแผ่นดินไหว บนชั้น 2F กันต่อเลย~ โดยเราจะได้เรียนรู้ข้อมูลการวิจัยมากมาย เช่น วิธีที่ดีที่สุดซึ่งได้รับการรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญในการเอาตัวรอดภายใต้เหตุการณ์ภัยพิบัติอันรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและการคาดการณ์ความเสียหายจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและผลกระทบที่อาจตามมา เป็นต้น
เนื่องจากผู้เข้าร่วมทัวร์ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มนักเรียน-นักศึกษาและครอบครัวที่พาเด็กๆ มาด้วย บนชั้น 2F จึงมีการสร้างโซนการ์ดเกมสำหรับเพิ่มพูนทักษะในการตัดสินใจและการคิดเชิงวิพากษ์เอาไว้ด้วย
“เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เราจำเป็นต้องรีบไปรับลูกสาวให้เร็วที่สุด แต่ในขณะนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเด็กดังขึ้นมา เราควรไปช่วยเหลือเด็กคนนั้นหรือว่ารีบไปรับลูกสาวเพื่อเช็คว่าเธอปลอดภัยดีหรือไม่ก่อนดี”
โดยเต็มไปด้วยหัวข้อมากมายที่ยากต่อการตัดสินใจแม้กระทั่งสำหรับผู้ใหญ่เองก็ตาม บอกเลยว่าการตอบให้ถูกนั้นไม่ง่ายเลย…


ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ
บนชั้น 2F เราจะได้รู้จุดประสงค์สำคัญของการสร้างศูนย์แห่งนี้ขึ้นมา
ที่นี่คือห้องควบคุมภารกิจซึ่งจะถูกแปลงโฉมกลายเป็นห้องปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครนั่งเก้าอี้กว่า 200 ตัวที่จัดเตรียมเอาไว้เลยก็ตาม แต่ทั้งคอมพิวเตอร์ แฟกซ์ และเครื่องพิมพ์เสียบปลั๊กไฟทิ้งเอาไว้แล้วทั้งหมดเพื่อให้พร้อมกับการใช้งานทุกเมื่อ เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น รัฐบาลก็จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าควรใช้ระบบนี้แล้วหรือยัง
ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางสวนรกชัฏก็เป็นอีกหนึ่งผู้รับบทบาทสำคัญประจำศูนย์แห่งนี้เลยก็ว่าได้ พื้นที่อาคารจะเปิดรองรับบุคคลทั่วไปอยู่แล้วเพื่อเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะมีการจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์พร้อมปฏิบัติการเอาไว้ด้วยอีกถึง 7 ลำเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าผู้เยี่ยมชมส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่พาเด็กเล็กๆ มาด้วยก็จริง แต่ก็อย่าคิดเอาว่าผู้ใหญ่ไม่สามารถเรียนรู้อะไรจากที่นี่ได้ ความจริงแล้วผู้เขียนเองก็ไม่ได้ตอบคำถามจากแท็บเล็ตถูกต้องทุกข้อ ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงอยากแนะนำศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียวแห่งนี้ให้กับเพื่อนๆ ด้วย
สุดท้ายนี้ก็ขอทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยคำพูดแสนประทับใจจากไกด์ทัวร์…
“ความเป็นไปได้ของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นภายในช่วง 30 ปีต่อจากนี้ไปมีมากกว่า 70% แม้ในปัจจุบันก็มีอัตราการเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เราจึงควรเตรียมตัวรับมืออยู่เสมอในทุกเวลาโดยไม่ตื่นอกตกใจ”
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยมากก็จริง แต่ถ้าเกิดเตรียมตัวรับมืออย่างดี เราก็จะสามารถลดความเสียหายเหล่านั้นลงไปได้บ้าง ยังไงก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ ทุกคนมาเตรียมความพร้อมโดยการเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องจากทัวร์แผ่นดินไหวโตเกียว 72 ชั่วโมงเพื่อให้ท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสบายใจกันนะคะ ^^
The Tokyo Rinkai Disaster Prevention Park (ศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียว)
ที่ตั้ง : 3-8-35 Ariake, Koto-ku, Tokyo 135-0063
เปิด-ปิด : 9.30 – 17.00 น. (เปิดให้เข้าได้ถึงเวลา 16.30 น.) / หยุดวันจันทร์
การเดินทาง : เมื่อเดินออกจาก Ariake Station (Yurikamome Line) เราจะเห็น Japanese Foundation for Cancer Research (สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งประเทศญี่ปุ่น) ตั้งอยู่ตรงฝั่งซ้ายด้านหน้าของ Tokyo Big Sight (โตเกียว บิ๊ก ไซท์) ส่วนศูนย์เตือนภัยพิบัติโตเกียวตั้งอยู่ทางซ้ายมือด้านหน้า
ค่าเข้าชม : ฟรี
เว็บไซต์ : http://www.tokyorinkai-koen.jp/
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA http://mcha-th.com
เรื่องแนะนำ :
– โทโยบุนโกะ (Toyo Bunko) สถานที่รวบรวมตำราซีกโลกตะวันออกกว่าหนึ่งล้านเล่ม
– รูปปั้นวีรบุรุษ ผู้สร้างรากฐานญี่ปุ่นสมัยใหม่ ณ สวนสาธารณะอุเอโนะ
– Seishun 18 Ticket บัตรรถไฟเที่ยวญี่ปุ่นแบบเหมาจ่ายสุดคุ้ม!
– แนะนำตั๋วโดยสารสำหรับเที่ยวโตเกียวใน 1 วัน!
– เที่ยวชิโกกุและจูโกกุด้วยรถไฟตู้นอน Sunrise Seto และ Sunrise Izumo