ชวนอ่าน : นกต่อ
อดีตที่ตามหลอกหลอนและการเอาชีวิตรอดของนางนกต่อ
เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่เราได้มีโอกาสอ่าน “นักล้วง” ซึ่งจำได้ว่าเป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก พอได้เห็น “นกต่อ” ผลงานจากผู้เขียนคนเดียวกัน ทั้งยังเป็นเรื่องที่ได้รับทุนสนับสนุนการแปลและการจัดพิมพ์จาก JAPAN FOUNDATION และได้นักแปลที่เราชื่นชอบอย่างคุณกนกวรรณ เกตุชัยมาศ มาแปล ก็ยิ่งทำให้หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ
“นกต่อ” เป็นผลงานการเขียนของ นากามุระ ฟุมิโนริ นักเขียนร่วมสมัยชาวญี่ปุ่น ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในประเทศญี่ปุ่นเองและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ หนังสือเล่มนี้ถือว่าเป็นงานแนวอาชญนิยายที่นำเสนอเนื้อหาแห่งความมืดหม่น และความบิดเบี้ยวของมนุษย์ออกมาได้อย่างลงตัวและสนุก ภายในรูปเล่มที่เล่มกะทัดรัด
เรื่องราวของนกต่อ
“นกต่อ” เป็นเรื่องราวของสาวฟรีแลนซ์ในโลกวงการสีเทาของกรุงโตเกียว เธอแกล้งเป็นโสเภณี บรรจงเลือกแขกที่ดูมั่งคั่งมีชื่อเสียง ก่อนจะวางยาแล้วถ่ายรูปอนาจารเพื่อข่มขู่รีดเงิน เธอไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับองค์กรที่จ้างงาน แต่เธอไม่ได้เดือดร้อน พอใจที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนแท้จริงให้ใครรู้ แต่แล้ววันหนึ่งอดีตของเธอก็โผล่ขึ้นมา และมีคนๆ หนึ่งที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งซึ่งเธอได้สูญเสีย แรงจูงใจต่าง ๆ และการเคลื่อนไหวทั้งหมด เมื่อตกอยู่ในเกมไล่ล่า เธอจะฉลาดพอที่จะหนีชายผู้ซาดิสต์ที่สุดในโตเกียวพ้นหรือไม่
หญิงสาวผู้เป็นนกต่อ
หากยึดตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คำว่า “นกต่อ” มีความหมายว่า คนที่ทำหน้าที่ติดต่อหรือชักจูงหลอกล่อคนอื่นให้หลงเชื่อ ซึ่งเมื่อได้อ่านเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้แล้ว ต้องยอมรับว่าชื่อฉบับภาษาไทยนั้นตั้งได้อย่างถูกต้องและลงตัว เพราะการกระทำของตัวละครเอกในเรื่อง ช่างตรงกับคำว่า “นกต่อ” เสียเหลือเกิน ทั้งยังนำความเป็นนกต่อของตัวเอง มาใช้ในการหลอกล่อผู้มีอำนาจถึงสองฝ่ายเพื่อเอาชีวิตรอดอีกด้วย
“ฉันจะหลอกทั้งคู่ พยายามปัดความรับผิดชอบพร้อม ๆ กับซื้อเวลาเพื่อหาหนทางที่แยบคายพาตัวเองให้หลุดจากที่ทั้งสองฝ่ายและต้องทำทีว่าจะให้ความร่วมมือจนกว่าจะถึงเวลา…”
สงสัย ลุ้นระทึก และเอาใจช่วย
สงสัย ลุ้นระทึก และเอาใจช่วย คือความรู้สึกที่ได้ระหว่างการอ่านหนังสือเล่มนี้
ความสงสัยในอดีตของตัวละครเอก ที่ค่อย ๆ เฉลยที่มาที่ไปเมื่ออ่านไปได้สักครึ่งเล่ม การดำเนินเรื่องในหนังสือเล่มนี้ เน้นไปที่ความคิด ความรู้สึกของตัวละครเอกเท่านั้น เราจะค่อย ๆ ทำความรู้จักกับตัวละครเอกผ่านทางสิ่งที่เธอเห็น สิ่งที่เธอคิด และการหวนระลึกถึงอดีตที่ผ่านมาของตัวเธอ ที่ประกอบร่างจนสร้างเป็นตัวเธออย่างที่เห็นในปัจจุบัน จนกลายเป็นผู้หญิงที่…
“ไม่มีจุดอ่อน คำพูดของยาดะยังค้างคาใจ มันไม่ใช่ความเข้มแข็ง แต่ใกล้เคียงกับความสิ้นหวังและเดียวดายที่แสดงถึงระยะห่างกับชีวิตมากกว่า”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ฉันรู้ตัวว่าจะไม่มีวันได้สิ่งที่อยากได้ที่สุด”
เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ๆ ภารกิจที่ตัวละครเอกได้รับมอบหมาย ซึ่งนำไปสู่การหลอกลวง การหักหลัง ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้เธอรอดพ้นจากสภาวะที่เป็นอยู่ และภาวนาให้เรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี จนเกือบแอบพลิกไปอ่านตอนจบของเรื่องหลายครั้ง
นกต่อและดวงจันทร์
อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้บ่อยครั้งจากหนังสือเล่มนี้ คือ การมีพระจันทร์มาเกี่ยวข้องในทุก ๆ บท ซึ่งน่าจะเป็นการสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกและสถานการณ์ของตัวละครเอกที่กำลังเผชิญอยู่
“ผู้คนในสมัยโบราณมองวัฏจักรการกลับมาใหม่ของดวงจันทร์แล้ววาดหวังถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกตัวเองผ่านการอธิษฐานกับดวงจันทร์ของจริง การเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฉันจะมีโอกาสแบบนั้นไหมหนอ ฉันหัวเราะน้อย ๆ ร่างกายผ่อนคลายลง เอาเข้าจริงคนอย่างฉันจะเป็นอะไรได้หรือ
จันทร์เว้าแหว่งไม่เต็มดวง ฉันรู้สึกเหมือนช่องว่างแห่งความมืดนั้นกำลังเขมือบกลืนบางสิ่งบางอย่างบนพื้นโลก ฉันควรใช้เวลาตามลำพังอย่างไรดีในค่ำคืนอันยาวนาน”
ที่สุดแล้วไม่ว่าเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร หนังสือเล่มนี้ก็นับว่าเป็นผลงานอีกเล่มที่บอกเล่าเรื่องราวและเปิดเผยความมืดมนในจิตใจของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี จนอยากขอแนะนำให้ลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านดู รับรองว่าจะต้องติดใจแบบที่รู้ตัวอีกทีก็อ่านจบเล่มแล้วแน่นอนค่ะ ?
เรื่องแนะนำ :
– เสริมความแข็งแกร่งและใกล้ชิดธรรมชาติให้มากขึ้นด้วยที่กั้นหนังสือที่ทำจากหิน
– ชวนส่อง : ร้านหนังสือเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ
– ปกห่อหนังสือ ที่ทำให้การอ่านมีสีสันมากกว่าที่เคย
– ถ่ายรูปเช็คอินกับงานศิลป์สุดเท่ที่เมือง Inakadate
– ชวนเที่ยว : Hibiya Okuroji ตรอกร้านค้าแห่งใหม่ ใต้รางรถไฟโตเกียว
#ชวนอ่าน : นกต่อ อดีตที่ตามหลอกหลอนและการเอาชีวิตรอดของนางนกต่อ