คนญี่ปุ่นมักจะมองว่า คนไทยรักสบาย ชอบทำอะไรง่ายๆ แต่พอเขาเห็นความตั้งอกตั้งใจของพวกเราในการอาบน้ำเอย รีดผ้าเอย พี่แกก็ซูฮกกันเป็นแถว งานนี้ Thailand วินค้า
ยิ่งเขียนคอลัมน์มานานเท่าไร รู้สึกตัวเองยิ่งตั้งชื่อตอนได้เหมือนพวกหัวข่าวออนไลน์เข้าไปทุกที ขอบคุณที่หลวมตัวเข้ามาอ่านนะคะ 55… เข้าประเด็นดีกว่า ปกติเวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่น เรามักชื่นชมกับความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ขยะแทบไม่มีตกสักชิ้น (แม้ว่าถังขยะจะเป็น rare item ก็ตาม) คนก็ใส่สูทเนี้ยบๆ เดินกันเป็นแถว สวยงามมาก
แต่เพื่อนๆ ทราบไหมคะว่า คนญี่ปุ่นเขาก็ประทับใจแกมตกใจในอาการรักความสะอาดของคนไทยเราเหมือนกัน เช่น
• การอาบน้ำ
คนญี่ปุ่น ปกติอาบน้ำแค่วันละครั้งตอนเย็น แม้ว่าหน้าร้อน ก็อาบแค่ตอนกลางคืนค่ะ ส่วนหน้าหนาว อันนี้แล้วแต่ความขี้เกียจของแต่ละคน บางคนก็ยังอาบทุกวัน บางคนก็ 2-3 วันครั้งก็มีค่ะ ด้วยความที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยอาบน้ำเขาเลยพัฒนาสินค้าที่ช่วยลดอาการเหนียวตัวแทน อย่างถ้าเป็นผู้ชาย จะใช้พวกกระดาษคล้ายๆ wet tissue เช็ดแล้วจะเย็นๆ สดชื่น (ของ Gatsby ดีมาก ควรเอามาขายในเมืองไทยได้แล้ว เวลาตีแบตฯ จะได้เอาไว้เช็ดกาย) ส่วนผู้หญิงญี่ปุ่น เวลาเหงื่อออกเยอะๆ นางๆ มักใช้สเปรย์ดับกลิ่นเหงื่อกันค่ะ เวลาฉีดแล้วก็จะเย็นๆ หอมๆ ตัวไม่เหม็น
คนญี่ปุ่นจึงตกใจมากเวลาเห็นคนไทยอาบน้ำเช้าเย็น แถมบางวัน เวลาเหงื่อออกแล้วเหนียวๆ ตัว คนไทยอย่างเราๆ ก็จะอาบน้ำตอนบ่ายให้ชื่นใจอีกสักรอบด้วย วันหนึ่งอาบน้ำกันเข้าไป 3-4 รอบ บางคนก็โปะแป้งเย็นแถมเข้าไปด้วย
• เสื้อผ้าเป๊ะ
คนญี่ปุ่นที่คุมโรงงานเคยมาบ่นน้อยใจให้ดิฉันฟังว่า ผมโดนลูกน้องแซวครับ เขาบอกว่าเสื้อผ้านายรีดไม่เรียบร้อยเลย แกบอกว่า เสื้อแกก็ไม่ได้ยับอะไรนักหนา ผ้ามันเป็นผ้าไนล่อน ไม่ยับอยู่แล้ว ซักเสร็จแล้วแกก็สะบัดๆ แต่คนไทยบอกว่า ต้องจับจีบให้สวยๆ อะไรก็ไม่รู้ แกยังแซวว่า คนไทยนะ ทีเวลาทำงาน มักพูดว่า “อะไรก็ได้ ไม่เป็นไร หยวนๆนิดเดียว” แต่พอเป็นเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ทำไมเป๊ะจัง (อีนี่….แอบจิกกัดเพื่อนร่วมชาติดิฉัน)
คนญี่ปุ่นตกใจมากที่เห็นคนไทยรีดผ้าทุกอย่างที่ขวางหน้า ตั้งแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ยันผ้าเช็ดหน้า เวลารีดก็ต้องจับจีบ รีดให้เรียบร้อย บางครั้ง เราก็ตั้งอกตั้งใจรีดกันจนผ้าขึ้นเงาเลยทีเดียว (อย่างพวกชุดนักเรียน)
ปกติแล้ว คนญี่ปุ่นแทบไม่รีดเสื้อผ้าเลยค่ะ เสื้อยืดที่นู่นมักเป็นประเภทยับยากอยู่แล้ว กางเกงยีนส์ก็แค่ดึงให้ตึงๆ เวลาตาก จากนั้นก็พับเก็บให้เรียบร้อย ไม่ต้องรีดเนี้ยบเป๊ะเท่าคนไทย ส่วนผ้าเช็ดหน้า คนญี่ปุ่นมักใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื้อผ้าแบบผ้าขนหนู ไม่ใช่ผ้าฝ้าย พวกนี้แค่พับๆ ตามรอยก็อยู่ตัวแล้ว ไม่ต้องรีด คงมีแค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงทำงานเท่านั้นที่อาจจะต้องรีดหน่อย
คนญี่ปุ่นมักจะมองว่า คนไทยรักสบาย ชอบทำอะไรง่ายๆ แต่พอเขาเห็นความตั้งอกตั้งใจของพวกเราในการอาบน้ำเอย รีดผ้าเอย พี่แกก็ซูฮกกันเป็นแถว งานนี้ Thailand วินค้า
(เรื่องแถม…เดี๋ยวมีคนบ่นน้อยใจว่าทำไมบทความนี้สั้นเกิน)
5 ส. vs 3 ส.
ระหว่างเบรค เกตุวดีกับโทโมโกะ เพื่อนสาวญี่ปุ่นยืนเม้าท์มอยหน้าเครื่องทำกาแฟ
เกตุวดี: บริษัทไทยก็ยังบังคับใช้หลัก 5 ส. (สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย) ของญี่ปุ่นกันอยู่นะ พนักงานบริษัทไทยรู้จักหลักการนี้กันดี แต่คงตั้งใจทำไม่เท่าคนญี่ปุ่น
โทโมโกะ: ฉันว่าชีวิตจริง คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือหลัก 3 ส. กันเป็นหลัก
เกตุวดี: สามเองเหรอ ไม่ใช่ห้าเหรอเธอ
โทโมโกะ: สาม-สอ ไม่ผิดหรอก คนไทยน่ะชอบ… “สบาย สนุก สะดวก” ไง อะไรที่มี 3 ส. เนี้ย เอาหมด
นางถือถ้วยกาแฟ ยักไหล่ แล้วสะบัดผมเดินออกไปจาก coffee room อย่างงามๆ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura