คนไทยเป็นยังไงในสายตาคนญี่ปุ่น EP1
วันก่อนเห็นคนญี่ปุ่นที่อยู่เมืองไทย ตั้งท็อปปิคคุยกันเรื่องอยู่ไทย มีเพื่อนคนไทย ทำงานกับคนไทย ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่มีแต่คนไทยเต็มไปหมด คุยถึงเรื่องว่าคนไทยเป็นยังไง มีนิสัยยังไง ฟังแล้วบางเรื่องก็รู้อยู่แล้วบางเรื่องก็เพิ่งรู้เลยนะคะ
ก่อนอื่นขอยกตัวอย่างบทความหลาย ๆ บทความ จากผู้เขียนชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์อยู่ไทยนาน และทำงานร่วมกับคนไทย
1. หากจะให้นิยามนิสัยคนไทย 2 คำ จะนิยามว่า “ไม่เป็นไร” กับ “สบาย”
คนญี่ปุ่นเขาเล่าว่าต้องเข้าใจพฤติกรรมของคนไทยก่อน คนไทยไม่ชอบการทะเลาะวิวาท พยายามจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้นุ่มนวลไม่ให้เกิดความรุนแรง สมมุติว่ามีปัญหากัน ก็จะพยายามไม่ไปจี้ ไม่ถามหาความผิดชอบจากอีกฝ่ายจนเกินไป อะไรช่างได้ก็ช่างมัน ไม่เป็นไรนะ
“ไม่เป็นไร” ยังใช้ได้ทุกสถานการณ์ทุกฉากในชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะทำผิดพลาดก็ไม่เป็นไร
นอกจากนี้คนไทยยังมีบุคลิกที่ชอบความสะดวกสบาย ประมาณว่าคนไทยเป็นคนชิล ๆ นั่นแหละ
เมื่อพยายามวิเคราะห์หาสาเหตุ เขาวิเคราะห์ไว้ว่าเมืองไทยมีอาหารอุดมสมบูรณ์ อากาศอบอุ่น ไม่ได้มีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตเหมือนญี่ปุ่นที่มีฤดูกาล พอเปลี่ยนฤดูที ก็ต้องเตรียมตัวมากมาย แล้วยังมีภัยพิบัติบ่อย ๆ ด้วย ทำให้คนไทยใช้ชีวิตสบาย ๆ ชิล ๆ แต่นี่อาจจะเป็นลักษณะเฉพาะของคนที่เกิดในประเทศเขตร้อนก็เป็นได้
2. คนไทยคิดอะไรก็พูดออกมาเลย
เช่น เห็นเพื่อนอ้วนขึ้นก็ทัก “อ้วนขึ้นรึเปล่า” “หน้ากลมแล้ว” บางทีก็ถามละเอียดไปถึง “อ้วนขึ้นกี่โล” “น้ำหนักเท่าไหร่” แถมคนฟังก็ดูชิลด้วย แบบ เออสิวะอ้วนขึ้น เหมือนไม่คิดอะไรกับคำถามเช่นกัน
ในขณะที่คนญี่ปุ่นไม่กล้าถามตรงขนาดนี้เลย
3. คนไทยชมเก่ง
จากข้อเมื่อกี้ที่คนไทยพูดตรง ๆ จนคนญี่ปุ่นตกใจ แต่กลับกันก็รู้สึกว่าคนไทยชมเก่งมากเช่นกัน
คนที่เล่าเรื่องนี้ทำงานกับคนไทยค่ะ เขาเล่าว่าใครใส่ชุดใหม่มา จะมีคนชมทันทีว่า “วันนี้สวยยย” “อุ๊ย ชุดใหม่” คนเขียนบทความบอกว่าเวลาใส่ชุดใหม่หรือชุดที่คนไทยรอบ ๆ ไม่เคยเห็น คนไทยจะชมทันที
ซึ่งอ่านแล้วก็ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมดนะ เพราะเท่าที่อยู่ในสังคมญี่ปุ่นมาหลายสิบปีก็รู้สึกว่าคนญี่ปุ่นชมเก่งกว่ามาก เลยลองไปถามเพื่อนญี่ปุ่นที่อยู่ไทยมา 10 ปี นางบอกว่าต่างกันนิดนึง คนไทยเวลาชมไม่ได้คิดอะไร เห็นอะไรก็ชมออกมาเลย จริงใจ แต่คนญี่ปุ่นบางทีไม่ได้รู้สึก ชมเป็นมารยาทก็มี ข้อนี้ส่วนตัวมองว่าทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นชมเก่งพอกัน
แต่ที่ตกใจสุด ๆ คือ คนญี่ปุ่นไปทำตา 2 ชั้นมา แล้วเคยเจอคนไทยชมว่า “เธอไปทำตามาหรอ น่ารักมาก ตาใหม่เลิศมาก” สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วตกใจเพราะคนญี่ปุ่นจะไม่กล้าถามเรื่องศัลยกรรม อาจจะกลัวอีกฝ่ายอาย คนญี่ปุ่นถ้าสงสัยจะถามว่า “เปลี่ยนเมคอัพหรือเปล่า” (ประมาณว่าหน้าเปลี่ยนเลยถามอ้อม ๆ)
แต่คนไทยคือชมค่ะ ศัลมาแล้วสวยเลยชม
4. คนไทยอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายมาก
คนไทยแสดงอารมณ์อย่างจริงใจ เวลาเจอสิ่งที่ทำให้มีความสุข คนไทยจะดีใจเอ่อล้นออกมาเผื่อแผ่ถึงคนรอบข้างเลย เวลามีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้น คนไทยตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็กเลย
5. รีแอคชั่นของคนไทยในโรงหนังมันน่าทึ่งจริง ๆ
ตัวอย่างเช่นเวลาไปดูหนังที่โรงหนัง หากเป็นญี่ปุ่นทุกคนจะต้องเงียบให้มากที่สุด แต่โรงหนังไทยต่างกันเลย เวลาปกติก็เงียบนั่นแหละ แต่โรงหนังไทย เวลามีฉากตลกจะมีเสียงหัวเราะ กร๊าก ๆ บางคนถูกใจมากขำไปตบมือไปด้วยความชอบใจ ดูหนังผี คนไทยก็คือกลัวจริงจัง มีเสียงร้องเพราะกลัวออกมา จนคนญี่ปุ่นสงสัยว่ามันต้องขนาดนั้นเลยเรอะ ส่วนฉากร้องไห้คนไทยก็ร้องไห้น้ำตาไหลแบบไม่แคร์สายตาคนรอบข้างเลย
ไปคุยกับคนญี่ปุ่นมาหลายคนทั้งผู้หญิงผู้ชาย ว่าเวลาพวกเธอดูหนังตลกเธอไม่ขำเหรอ เขาบอกว่าเวลาดูหนังตลก พวกเราก็ขำ แต่ในโรงหนังมันห้ามเสียงดัง พวกเราก็จะขำแบบยิ้ม ๆ ถ้าอยากหัวเราะก็หัวเราะ ฮุ ๆ เบา ๆ แต่จะไม่หัวเราะกร๊าก ๆๆ เสียงดัง และเวลาดูหนังเศร้า พวกเราก็จะเศร้าในมุมของพวกเราเอง
6. คนไทยชอบทำบุญ การทำบุญเป็นเรื่องปกติ
ด้วยคำสอนของศาสนาพุทธ คนไทยน้อมนำคำสอนมาช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน มีความเชื่อว่าช่วยเหลือคนก็ได้บุญด้วย คนไทยบริจาคเงินให้วัดเป็นเรื่องปกติ เวลาเจอคนเดือดร้อนกว่า ก็พร้อมยื่นมือช่วยเหลือ
บริจาคเงินให้คนที่ไม่มี เพราะขี้สงสาร คนไทยบางคนบริจาคแม้ตัวเองจะไม่ได้ร่ำรวยไม่ได้อยู่สบาย แต่ก็ช่วย บางทีคนไทยให้เงินคนอื่นยืมแล้วก็ไม่ได้คืน แต่เพราะความสงสาร ก็เลยให้ยืม นี่แหละคนไทย
7. ชอบเล่นโซเชียลที่สุด แต่ไม่ซีเรียสเรื่องไพรเวซี่เลย
คนญี่ปุ่นนี่กว่าคนจะโพสต์หรือจะแชร์อะไรที ต้องคิดแล้วคิดอีก แชร์แล้วจะส่งผลอะไรหรือเปล่า
แต่คนไทยตรงกันข้ามเลย อกหักรักคุดเลิกกับแฟนก็ระบายลงโซเชียล ที่คนญี่ปุ่นตกใจมากคือ ประเด็นอ่อนไหวอย่างความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย แล้วลงโซเชียล แถมเปิดพับลิค สำหรับคนญี่ปุ่นจะรู้สึกว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนตัวมาก ๆ เลยไม่คุ้นชิน
อีกเรื่องคือไพรเวซี่ของเด็ก เห็นคนไทยโพสต์ หรือแชร์รูปเด็กที่เป็นลูกของคนอื่นกันเยอะมาก เหมือนคนไทยจะไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา
ซึ่งตรงนี้ต่างจากญี่ปุ่นค่ะ คนญี่ปุ่นมีความไพรเวซี่ทั้งต่อตัวเองและเด็ก เป็นกฎหมายค่ะ ทุกคนมีสิทธิในภาพถ่ายของตัวเราเอง การแชร์รูปเด็กคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นเรื่องต้องห้าม แม้กระทั่งลูกตนเองก็ต้องถามความสมัครใจของลูกก่อนค่ะ
8. สายเสมอ
อาจจะไม่ใช่ทุกคน แต่ส่วนใหญ่ก็แล้วกัน เลทน้อยสุดตั้งแต่ 10 นาที บางคนเลทเป็นชั่วโมง เหตุผลที่คนไทยบอกคือรถติด และนี่คือเอกลัษณ์หรือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นไทยมาก อาจจะมีชาติเดียวหรือเปล่าที่ใช้เหตุผลแบบนี้ได้ ในญี่ปุ่นอ้างเหตุผลแบบนี้ไม่ได้เลยเพราะมันจะย้อนกลับมาที่ว่าทำไมไม่กะเวลาออกเดินทางในเมื่อรถมันติดเสมอ
แต่ก็มีคนญี่ปุ่นคนนึงเล่าว่า เคยนัดกับคนไทยแล้วผมมาสาย ผมก็บอกว่ารถติด ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นคงโดนต่อว่า แต่เพื่อนคนไทยไม่มีใครโกรธเลย คนญี่ปุ่นจะมองว่าถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเป็นนัดเรื่องงานแล้วมาสายเพราะบอกรถติดเสมอ ๆ มันก็ดูยังไง ๆ อยู่
9. ร้อนไม่ชอบเดิน
คนญี่ปุ่นเล่าว่า คนไทยรอบตัวบอกว่าเมืองไทยมันร้อน เหงื่อออกแล้วต้องเดินมันเหนื่อย ขึ้นมอไซค์เลยง่าย ๆ แม้จะเป็นที่ที่เดิน 5 นาทีถึงก็ตาม พอถามคนไทยว่าทำไมไม่เดินล่ะ ใกล้ ๆ เองนะ คนไทยบอกว่ามัน “สบาย” คือคนไทยไม่ประหยัดกับเรื่องแบบนี้ แต่จะเอาเงินไปแลกความสบาย 5 นาที เราจึงเห็นวินมอไซค์อยู่ทุกมุมเมืองยังไงล่ะ
นี่ก็เป็นมุมมองที่คนญี่ปุ่นมองคนไทยโดยภาพรวมนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่คนไทยทุกคนจะเป็นอย่างที่คนญี่ปุ่นมอง แต่จากที่ได้อ่าน ได้ฟัง ได้ไปพูดคุยกับคนญี่ปุ่นแล้ว ก็รู้สึกว่ามุมมองของคนญี่ปุ่นน่าสนใจดี ด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกัน ความคิดต่างกัน ทำให้นิสัยต่างกัน
ติดตามบทความสนุกๆ แบบนี้ได้อีกที่ >>> WA-Japan
เรื่องแนะนำ :
– – 10 ความแตกต่างร้านสะดวกซื้อไทย VS ร้านสะดวกซื้อญี่ปุ่น
– – แฉด้านมืดของวงการไมโกะ !!!
– – โตเกียว โอซาก้า มหานครแห่งความแตกต่าง
– – เด็กญี่ปุ่นปักชื่อนาม สกุลตัวเองลงไปในชุดนักเรียนหรือไม่?
– – “Victory Bouquet” ช่อดอกไม้แห่งชัยชนะ ที่เปี่ยมด้วยความหมาย
ที่มา
– https://ijuusya.com
– https://thailand-navi.com
– https://hunade.com
#คนไทยเป็นยังไงในสายตาคนญี่ปุ่น EP1