โตเกียว โอซาก้า มหานครแห่งความแตกต่าง
หากปักหมุดจะไปเจิมญี่ปุ่นกันเป็นครั้งแรกแล้ว คำถามที่มักเกิดขึ้นกับใครหลายๆคนก็คือ “จะไปโตเกียวหรือโอซาก้าดีนะ” ถือเป็นคำถามที่ตอบได้อย่างยากเย็นทีเดียวเพราะทั้งคู่เป็นดั่งเมืองหลวงของฝั่งตะวันออกและตะวันตกซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว น่าดึงดูด น่าค้นหาจนยากที่จะขีดฆ่าชื่อใดชื่อนึงทิ้ง ดั่งคำพูดที่ทาทายังเคยกล่าวไว้ว่า ขาดเธอก็เหงาขาดเขาก็คงเสียใจ ไม่อยากจะเลือกใคร อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน (ดักแก่) 🤔
ถึงแม้จะอยู่ประเทศเดียวกัน แต่นับได้ว่า 2 เมืองนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันสุดขั้ว หลายๆ อย่างแทบจะตรงข้ามกันเลยทีเดียว วันนี้ WA-Japan จะพาไปส่องว่าความแตกต่างของทั้ง 2 เมืองนั้นมีอะไรบ้าง คนที่ไปโดนมาแล้วไม่ว่าจะทั้งโตเกียวหรือโอซาก้าก็มาแลกเปลี่ยนกันได้จ้า ว่าแล้วก็ดูรูปถัดไปได้เลย
“ผู้คน”
โตเกียว – มนุษย์โตเกียวโดยภาพรวมจะแต่งกายค่อนข้างคุมโทน สีไม่ฉูดฉาดมาก ลองนึกถึงฝูงซาลารี่มังใส่สูทจำนวนมากที่เดินกันขวักไขว่ตามแยกชิบุย่าสิ ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าไหร่ มีความขี้อาย ดูเชิดๆหยิ่งๆหน่อย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราแล้วมีโอกาสที่จะพบคนที่พูดคุยภาษาอังกฤษได้มากกว่าทางฝั่งโอซาก้าพอสมควร และด้วยประชากรที่ดูมีมารยาทมากจนเกินไปอาจทำให้รู้สึกแปลกๆจนแอบมาเปรียบเทียบกับประเทศบ้านเกิดอยู่บ่อยครั้งในระหว่างเที่ยว
โอซาก้า – มนุษย์โอซาก้ามักมีภาพจำว่า โผงผาง เสียงดัง แต่งตัวมีสีสัน และดูสนุกสนานกว่าฝั่งโตเกียว คนญี่ปุ่นเล่าให้ฟังว่าคนโอซาก้าเนี่ยเค้าไม่ได้ตลกกันมาตั้งแต่เกิดนะ แต่เป็นผลพวงมาจากการฝึกฝนตั้งแต่เด็ก คนในบ้านต้องฝึกรับส่งมุกกันเป็นกิจวัตร ซึ่งการรับส่งที่มีคุณภาพก็ต้องมาพร้อมกับเสียงที่ดังโผงผางไปด้วยมันถึงจะมีอรรถรส ถ้าคนโอซาก้าคนไหนไม่ตลกนี่เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายกันเลยทีเดียว ตัวตนจะจืดจางมาก และเคยมีคำกล่าวไว้ว่า “ถ้าปลามากุโร่ไม่ได้ว่ายน้ำมันก็จะตาย ถ้าคนโอซาก้าไม่ได้พูดก็จะจบลงในสภาพเดียวกัน” แต่ถึงจะดูโผงผางแต่จริงๆแล้วคนโอซาก้านั้นจิตใจดีและเป็นมิตรมากทีเดียว
“บรรยากาศ”
โตเกียว – ด้วยการที่เป็นเมืองหลวงทำให้เป็นแหล่งรวมของออฟฟิศมากมาย เมื่อมีมนุษย์เงินเดือนกองกันอยู่เยอะเลยทำให้โตเกียวมีบรรยากาศที่ดูเร่งรีบไปหมด ทุกคนพยายามเคลื่อนตัวจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งให้ไวที่สุด และการที่เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวรวมตัวกันเยอะมากทำให้สภาพโดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวมากตามเช่นกัน
โอซาก้า – ถึงจะเป็นเมืองหลวงของฝั่งตะวันตก แต่โอซาก้านั้นมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่า ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ด้วยประชากรที่น้อยกว่าพอสมควรทำให้เวลาเราเดินตามท้องถนนจะคล่องตัวมากกว่า ไม่ค่อยหงุดหงิดจากประชากรที่ล้นทะลักเท่าไหร่
“บันไดเลื่อน”
โตเกียว – ยืนชิดซ้ายแล้วปล่อยทางขวาให้คนเดินแซงขึ้นไป แต่พักหลังๆก็เริ่มมีการรณรงค์ให้ยืนมันทั้ง 2 ด้านนี่แหละเพื่อกันการเกิดอุบัติเหตุและเป็นการไม่ทำให้บันไดเลื่อนเสื่อมสภาพเร็วจากการที่มีน้ำหนักไปกองอยู่ข้างเดียวด้วย
โอซาก้า – ตรงกันข้ามกับโตเกียว ที่โอซาก้า ทุกคนจะยืนชิดขวาแซงซ้าย แต่อาจารย์เคยบอกว่า ความจริงคือ เดินฝั่งขวาและวิ่งที่ฝั่งซ้าย!!
“แท็กซี่”
โตเกียว – ตรงข้ามกับสีสันของเสื้อผ้า รถแท็กซี่ที่โตเกียวออกจะฉูดฉาดหน่อย แต่ปัจจุบันเริ่มปรับให้เป็นรถน่ารักๆสีดำเพื่อเตรียมรับมือกับโอลิมปิกในปี 2020
โอซาก้า – ตรงข้ามกับเสื้อผ้า หลายคนอาจจะคิดว่ามันจะทำลายเสือบนแท็กซี่ไหมนะ แต่ไม่เลย รถแท็กซี่ที่โอซาก้าเต็มไปด้วยสีดำ เพราะรู้สึกว่าสีดำมันดูไฮโซ ไฮเอนด์ พรีเมี่ยม น่านั่ง
“ข้าวปั้น”
โตเกียว – ข้าวปั้นของโตเกียวนั้นเป็นรูปทรง 3 เหลี่ยมสวยงามตามแบบฉบับที่เราพบเห็นกันบ่อยๆ
โอซาก้า – ข้าวปั้นของโอซาก้านั้นจะออกไปทางกลมๆซักหน่อย
“ภาษา”
โตเกียว – แน่นอนเป็นภาษาญี่ปุ่นตามปกติที่เราเรียนๆหรือได้ยินกันนี่แหละ
โอซาก้า – เป็นเรื่องปกติของทุกประเทศที่ต่างพื้นที่กันสำเนียงก็จะแตกต่างกันหรือแม้กระทั่งศัพท์พื้นฐานบางอย่างก็ไม่เหมือนกัน ในที่นี้ขอยกตัวอย่างคำที่ใช้บ่อยอย่าง “ขอบคุณ” หรือ arigatou(ありがとう) แต่ทางฝั่งโอซาก้านั้นจะใช้คำว่า ookini(おおきに) แม้แต่การเรียกสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารบางทีก็ไม่เหมือนกันอย่าง Universal Studio Japan นั้น ทางโตเกียวก็จะเรียกบ USJ เหมือนไทย แต่ทางโอซาก้าจะเรียกว่า yuniba เป็นต้น หลายๆ คนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นตามปกติตอนไปแรกๆ ก็อาจจะงงๆ อยู่หน่อย
ติดตามบทความสนุกๆ แบบนี้ได้อีกที่ >>> WA-Japan
เรื่องแนะนำ :
– เด็กญี่ปุ่นปักชื่อนาม สกุลตัวเองลงไปในชุดนักเรียนหรือไม่?
– “Victory Bouquet” ช่อดอกไม้แห่งชัยชนะ ที่เปี่ยมด้วยความหมาย
– คนญี่ปุ่นช็อคอะไรในไทยแลนด์ 15
– คนญี่ปุ่นช็อคอะไรในไทยแลนด์ 14
– คนญี่ปุ่นช็อคอะไรในไทยแลนด์ 13
#โตเกียว โอซาก้า มหานครแห่งความแตกต่าง