“ตุ๊กตาดารุมะ: ล้มแล้วลุกได้ตราบใดที่เรายังมีหวัง”
ช่วงเทศกาลปีใหม่ของชาวญี่ปุ่นมีประเพณีมงคลหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการนำตุ๊กตาดารุมะซึ่งเป็นเครื่องประดับที่เป็นมงคลและใช้ในการขอพระวางไว้บนที่สูง
“ตุ๊กตาดารุมะ” (達磨) เป็นตุ๊กตาไม้ที่ทำมาจากกระดาษวาชิ ด้านในกลวง ตรงส่วนก้นมีน้ำหนักถ่วงคล้ายกับตุ๊กตาล้มลุก ไม่มีแขนและขา มีจุดเด่นคือมีแต่ตาขาวไม่มีลูกตาสีดำ ว่ากันว่าได้รับต้นแบบมาจากภาพวาดของพระโพธิธรรม
เหตุผลที่ตุ๊กตาไม่มีลูกตาดำแต่กลับเป็นดวงตาสีขาวทั้งสองข้าง เพื่อไว้ใช้ในการทำพิธีอธิษฐานขอพร ตามธรรมเนียมจะเริ่มวาดตาดำที่ตาฝั่งซ้ายของตุ๊กตาก่อน เรียกขั้นตอนนี้ว่า “ไคเก็น สุรุ” หมายถึง การเปิดตาเพื่อให้เห็นถึงแก่นแท้ของสัจธรรม คนที่เป็นเจ้าของตุ๊กตาต้องเป็นผู้แต้มสีดำเอง วันที่วาดลูกตาจะเลือกทำในวันมงคลฤกษ์ตามปฏิทินญี่ปุ่น
หากคำขอพรสมหวังตามปรารถนาให้วาดลูกตาฝั่งขวาของตุ๊กตา (มีลูกตาดำครบทั้งสองข้าง) จากนั้นให้นำตุ๊กตาดารุมะที่มีดวงตาครบสมบูรณ์วางไว้บนที่สูง เช่น บนหิ้งบูชา โดยหันหน้าตุ๊กตาดารุมะไปทางทิศใต้
เมื่อขอพรครบหนึ่งปี ไม่ว่าคำอธิษฐานขอพรจะสมหวังหรือไม่ก็ตาม เจ้าของจะต้องส่งตุ๊กตาคืนให้กับศาลเจ้า หรือนำไปเผาในเทศกาลที่จัดขึ้นโดยเฉพาะเพราะถือว่าเป็นของสูงและมีความศักดิ์สิทธิ์
สิ่งที่น่าสนใจ คือ นัยแฝงจากการเป็นตุ๊กตาล้มลุก “ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ก็สามารถลุกกลับขึ้นมาได้เสมอ” ซึ่งตรงกับสำนวนญี่ปุ่นว่า “ล้มเจ็ด ลุกแปด” (ななころびやおき) การทำสิ่งใดแล้วล้มเหลวไม่ใช่เรื่องแปลก หากเรายังมีความหวังและพยายามยืนหยัดลุกขึ้นมาใหม่สิ่งนั้นจะไม่สูญเปล่า ดังนั้น “ความหวัง” จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้เราอดทนผ่านปัญหาและวิกฤติการณ์ต่างๆ ไปได้
>> ว่าด้วยเรื่องของความหวัง
“ความหวัง” คือ สิ่งที่คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อเราได้ตัดสินใจว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยมีเป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึง องค์ประกอบของความหวัง คือ การที่มีอิสระในการตัดสินใจ (Agency) และเส้นทาง (Pathways) การที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ระหว่างทางย่อมมีอุปสรรคเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ความหวังเป็นสิ่งที่ทำให้เราพยายามทำต่อไปและช่วยให้รับมือกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นได้
ความหวังไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึกดี แต่ยังเป็นวิธีคิดที่จูงใจให้เราพยายามต่อไปเรื่อยๆ (Cognitive Motivational System) เกิดการอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย สิ่งสำคัญ คือ ผิดพลาดได้ไม่เป็นไร แต่ต้องเรียนรู้ที่จะไม่ทำผิดพลาดซ้ำ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพความสามารถของตนเอง คนที่มีความหวังมักจะมั่นใจในความสามารถของตัวเองตามความเป็นจริง มองเห็นวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย หากมีอิสระในการตัดสินใจ (Agency) และมองเห็นเส้นทาง (Pathway) จะยิ่งมีความหวังเพิ่มขึ้น
>> วิธีการสร้างความหวัง
@ ดูแลชีวิตตัวเองให้ดีคงที่ก่อน
การที่จะไปต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆได้กายและใจต้องอยู่ในสภาพที่ดีก่อน หนึ่งในวิธีการที่จะช่วยให้มีสิ่งเหล่านี้ คือ
. การทำสิ่งต่างๆเป็นกิจวัตรสม่ำเสมอ (Self-care routines) เพราะการที่เรากำหนดตารางชีวิตเอาไว้แล้วทำตามได้ จะทำให้เราเกิดความมั่นใจว่ายังควบคุมสิ่งต่างๆได้อยู่
. รู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกของตนเอง เพื่อที่จะจัดการได้อย่างเหมาะสมหาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข (ต้องไม่เป็นผลเสียกับตนเอง/ผู้อื่น)
@ รู้เท่าทันความคิดลบแล้วคิดให้อยู่กับความเป็นจริง
ในสถานการณ์แย่ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะมีความคิดลบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของเราที่คิดเพื่อหาทางหนีทีไล่ เตรียมใจรับมือกับเรื่องร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น กรณีที่คิดลบระดับที่ทำให้เอาชีวิตรอดได้โดยไม่เสียสุขภาพจิตถือว่าอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ แต่ถ้าคิดลบมาก จนมองปัญหาไม่ตรงตามความเป็นจริง เช่น กังวลคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่มากจนนำไปสู่เรื่องร้ายแรง แล้วทำให้สมองตื้อ คิดวิธีแก้ปัญหาไม่ออกหรือใช้วิธีที่ทำให้เรื่องพังหนักกว่าเดิม แสดงว่าความคิดลบนี้ไม่ทำให้เกิดประโยชน์
เราต้องรู้เท่าทันความคิดของตัวเอง (self awareness) เมื่อคิดลบแล้วต้องตั้งสติดีๆ พิจารณาจากข้อมูลข้อเท็จจริงว่ามันน่ากลัวขนาดนั้นจริงหรือไม่ แล้วจะมีวิธีการจัดการแก้ปัญหาได้ยังไบ้าง หากไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองให้ลองถามความเห็นจากคนอื่นดู (ควรเลือกถามคนที่มองอะไรตามความเป็นจริง ใช้เหตุผล)
@ ยอมรับว่าปัจจัยที่เราควบคุมได้ในชีวิตมีน้อยมาก
การที่เราจะมีความหวัง เราต้องรู้สึกว่าเราสามารถควบคุมบางอย่างในชีวิตได้ คือ มีอิสระในการตัดสินใจ (agency) แต่เราต้องยอมรับว่ามันมีสิ่งที่เราคุมได้กับคุมไม่ได้ สิ่งดีที่สุดที่เราจะทำได้ คือ เราทำส่วนที่เราควบคุมได้ให้ดี เพื่อที่จะไม่เสียใจทีหลัง แต่หากได้ทำเต็มที่แล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไรต้องทำใจยอมรับ ช่วงแรกๆอาจรู้สึกผิดหวังทำใจไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะเรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลา
@ หาคนที่สามารถปลอบโยนให้กำลังใจเราได้
เวลาที่เรารู้สึกแย่ การที่มีคนรับฟังโดยไม่ตัดสิน (Active listener) เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้เราข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ การที่ยังมีการติดต่อกับคนที่ดีกับเราจะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว และได้รับพลังใจกลับมา
ปี 2020 ที่กำลังจะผ่านไปนับเป็นปีที่มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มีโรค COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก ทุกคนต่างได้รับผลเสียกันหมด ทั้งผู้ติดเชื้อที่ต้องเจ็บป่วยทางกาย หรือถึงแม้จะไม่ได้ติดเชื้อแต่ต้องปรับเปลี่ยนไปใช้วิถีชีวิตแบบใหม่ (New normal) เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อ เช่น การใส่หน้ากาก, การล้างมือ, การแยกอยู่ห่าง (Social distancing) ที่ทำให้ชีวิตดูยุ่งยากและมีข้อจำกัดมากขึ้นจนเกิดความเครียด รวมไปถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจ การเสียโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ บางคนเครียดจนมีการเจ็บป่วยทางจิตใจ เช่น ซึมเศร้า
แต่หมอยังมีความหวังอยู่นะคะว่าปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงน่าจะมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง อย่างน้อยมีบริษัทยาที่ผลิตวัคซีนได้แล้วหลายเจ้า (แม้ต้องลุ้นถึงผลข้างเคียงและข้อเสียก็ตาม) หากประเทศไทยและทั่วโลกเริ่มที่จะคุมการระบาดของเชื้อได้ทุกอย่างน่าจะค่อยๆกลับมาใกล้เคียงเดิม
ขอให้ปีใหม่ที่จะถึงนี้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกท่าน มีทั้งความสุข มีความหวังและสมหวัง มีพลังกายและใจในการผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆ สุขภาพแข็งแรง
ขอบคุณที่ติดตามผลงานของหมอนะคะ แล้วพบกันใหม่ปีหน้าค่ะ:))
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– ความรักมันยากจังอยู่แบบโสดๆ จะดีกว่ามั้ย: เวอร์ชั่นคนญี่ปุ่น
– Sumikko Gurashi: ฉันรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในซอกมุม
– ฉันเป็นติ่งการ์ตูนญี่ปุ่น
– มังงะ : ความสุขที่เกิดจากการอดทนรอคอย
– กาชาปอง: รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#ตุ๊กตาดารุมะ: ล้มแล้วลุกได้ตราบใดที่เรายังมีหวัง