ดิฉันไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมคนต่างชาติมาญี่ปุ่นถึงบอกว่า เขามักจะได้รับบริการขั้นเทพและทำให้รู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญ การบริการของเขาจะใส่ใจในทุกรายละเอียด
ตอนที่ดิฉันไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยจังหวัดนีงาตะของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่บ้านนอกมาก เรียกว่ารอบๆ มหาวิทยาลัยไม่มีอะไรเลยนอกจากทุ่งนาและป่าเขา เวลาจะออกไปไหนทีก็ต้องอาศัยรถตู้บริการของมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็ปั่นจักรยาน
ด้วยความที่เป็นบ้านนอกซะขนาดนั้นจะหางานพาร์ทไทม์ทำก็แสนยาก แต่ดิฉันโชคดีได้งานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย
ในวันแรกที่ได้เริ่มงาน คุณโคจิมะซึ่งเป็นหัวหน้างานห้องสมุดเป็นคนอธิบายงานให้พวกเราฟัง คุณโคจิมะหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอและใจดีมากๆ
คุณโคจิมะถามพวกเราว่า รู้ไหมว่างานบรรณารักษ์ที่เราทำมีประโยชน์ต่อคนอื่นอย่างไร
พวกเราช่วยกันระดมสมองตอบว่า งานบรรณารักษ์เป็นงานบริการให้ความสะดวกกับลูกค้าที่มายืมหนังสือ เราจะต้องทำให้เขาได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดและได้หนังสือที่ต้องการ
คุณโคจิมะยังบอกอีกว่าหน้าที่ของพวกเราเป็นงานที่สำคัญมาก เพราะเราช่วยให้นักศึกษาได้ความรู้จากหนังสือ หากเราไม่ให้บริการหนังสือ เด็กนักศึกษาก็จะเรียนหนังสือไม่ได้ สอบไม่ได้หรืออาจจะเรียนไม่จบเลยทีเดียว ดังนั้นจงภาคภูมิใจในงานที่เราทำและมีใจพร้อมที่จะให้บริการด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส พอส่งมอบหนังสือให้กับลูกค้าแล้วยังต้องกล่าวว่า “ขอให้มีความสุขกับการอ่าน” ดิฉันรู้สึกประทับใจในสิ่งที่คุณโคจิมะสอนและจำมาใช้ในงานทุกวันนี้
ดิฉันไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมคนต่างชาติมาญี่ปุ่นถึงบอกว่า เขามักจะได้รับบริการขั้นเทพและทำให้รู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญ การบริการของเขาจะใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่น เวลาทอนตังค์ จะนับแบงค์ให้เราดูเพื่อป้องกันความผิดพลาด เมื่อเข้าร้านอาหารเราถอดรองเท้าทิ้งไว้ พอกินเสร็จออกมาพนักงานจะจัดเรียงรองเท้าให้ด้วยโดยหันหัวรองเท้าออกสำหรับพร้อมให้เราใส่โดยที่เราไม่ต้องจับเลย


เมื่อเดินเข้าร้านอาหารหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตก็จะมีพนักงานโค้งและกล่าวต้อนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้มตลอด เวลาถามเยอะก็ไม่มีชักสีหน้า ดิฉันเคยดูรายการญี่ปุ่นร้านอาหารหลายๆ ร้านจะต้องมีการฝึกกล่าวคำว่ายินดีต้อนรับและขอบคุณดังๆ ทุกเช้าก่อนเริ่มทำงาน เห็นไหมคะว่าเขาซีเรียสเรื่องนี้แค่ไหน ยิ่งหากไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น โตเกียวทาวเวอร์ ก็จะมีพนักงานแต่งตัวน่ารักๆ โค้งต้อนรับพาขึ้นลิฟท์และอธิบายรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจนทำให้เรารู้สึกได้รับการปรนนิบัติที่ดี เวลาไปซื้อของตามห้างก็สามารถลองได้ตามสบายไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร ซื้อของร้านเพียงร้อยเยน เขาก็ก้มแล้วก้มอีก ต่างจากวันก่อนซื้อหลายพันบาทที่โลตัสบ้านเรา พนักงานหน้าหงิกตลอด ฮ่าๆๆ
สิ่งหนึ่งที่ดิฉันคิดว่าเป็นปัจจัยสำคัญคือประเทศเขาไม่กดขี่แรงงาน งานพาร์ทไทม์เสิร์ฟอาหาร ร้านกาแฟหรือขายขนมเล็กๆ น้อยๆ ก็รายได้ดีอยู่จึงถือเป็นงานสุจริตที่ภูมิใจได้
ประสบการณ์ที่ดิฉันเคยเจอและประทับใจมากมีสามครั้งคือ ครั้งแรกตอนอยู่ญี่ปุ่นดิฉันพบแมลงอยู่ในอาหารที่นำมาเสิร์ฟ พอบอกพนักงานเสิร์ฟปรากฏว่าคนปรุงอาหารตกใจมาก รีบวิ่งออกมาจากครัวกล่าวคำขอโทษนับสิบครั้ง แล้วก็ไม่เก็บค่าอาหารมื้อนั้นค่ะ
อีกครั้งคือเพื่อนดิฉันไปซื้อรองเท้าที่ห้างสรรพสินค้าและถามเรื่องน้ำยาขัดรองเท้า ปรากฏว่าคุณป้าพนักงานขายไปนำยาขัดมาให้และก้มลงไปขัดๆ รองเท้าเพื่อนดิฉันจนสะอาด สุดท้ายเพื่อนดิฉันก็ไม่ได้ซื้อรองเท้า แต่คุณป้าแกยังโค้งแล้วโค้งอีกแบบว่าเต็มใจบริการสุดๆ
อีกครั้งคือเรื่องเกิดที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยแห่งหนึ่งที่เจ้าของเป็นญี่ปุ่น ดิฉันสั่งข้าวหน้าเทมปุระมา พบว่าข้าวที่หุงมาไม่สุกยังแข็งๆ อยู่จึงเรียกพนักงานเสิร์ฟ ไม่ถึงสิบวินาทีพ่อครัวชาวญี่ปุ่นวิ่งออกมาจากในครัวขอโทษแล้วขอโทษอีก พร้อมนำชามเดิมกลับเข้าไปออกมาพร้อมกับช้าวชามใหม่เพิ่มเทมปุระให้อีก เยี่ยมไปเลยใช่ไหมคะ ฮ่าๆๆ