ละครญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นละครที่มีเนื้อเรื่องออกแนวเครียดๆ แต่ก็เป็นแนวที่ใครหลายคนชื่นชอบเอามากๆ วันนี้ก็เลยขอมาแนะนำละครญี่ปุ่น 5 เรื่อง ที่เป็นแนวเครียดๆ หนักๆ แต่สนุกสุดๆ จนหยุดดูไม่ได้ จะมีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้างตามมาดูเลยค่ะ
ละครญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นละครที่มีเนื้อเรื่องออกแนวเครียดๆ แต่ก็เป็นแนวที่ใครหลายคนชื่นชอบเอามากๆ วันนี้ก็เลยขอมาแนะนำละครญี่ปุ่น 5 เรื่อง ที่เป็นแนวเครียดๆ หนักๆ แต่สนุกสุดๆ จนหยุดดูไม่ได้ จะมีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้างตามมาดูเลยค่ะ
1. Byakuyako
เรื่องแรกมาเริ่มกันที่ “Byakuyako” หรือชื่อไทยที่เรารู้จักกันว่า “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” เป็นละครญี่ปุ่นที่สร้างมาจากนวนิยาย ผลงานของ “Keigo Higashino” นักเขียนชื่อดัง ละครเรื่องนี้เขาว่ากันว่าเป็นละครที่เครียดตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ เพราะเนื้อเรื่องที่แสนจะหดหู่ สะเทือนใจ แม้จะมีเรื่องราวความรักมาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง แต่กลับเป็นความรักที่ไม่โรแมนติก
ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องความรักระหว่าง “Kirihara Ryoji” (รับบทโดย Yamada Takayuki ) กับ “Karasawa Yukiho” (รับบทโดย Ayase Haruka) หญิงสาวและชายหนุ่มผู้เติบโตมาท่ามกลางชีวิตอันมืดมน
Ryoji แม้จะเป็นเด็กฉลาด มีความสามารถ ฐานะดี แต่ครอบครัวเขาก็ไม่ได้อบอุ่น มีความสุขเท่าไรนัก เขาต้องมารับรู้ว่า แม่ของตัวเองแอบเป็นชู้อยู่กับเด็กในร้าน แต่ยังดีว่าเขายังมี “พ่อ” อยู่เคียงข้างเขา ส่วน Yukiho เด็กสาวหน้าตาดี แต่เติบโตมากับครอบครัวที่ยากจน มีแม่ขี้เมา และมีหนี้มีสิ้น มิหนำซ้ำยังถูกแม่บังคับให้ขายตัวตั้งแต่อายุ 11 ปี ยังค่ะ ยัง นี่ยังเครียดไม่พอค่ะ ต่อมา Ryoji ได้มารู้ความจริงว่า คนที่กระทำชำเรา Yukiho ก็คือพ่อของเขาเอง! ด้วยความรักที่ Ryoji มีต่อ Yukiho เขาเลยเผลอทำสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป และในระหว่างนั้นเองก็มีเหตุอาชญากรรมปริศนาเกิดขึ้น ไปพร้อมกับความรัก และโศกนาฏกรรมของชายหญิงทั้งสองคนนั้น… ถ้าให้เปรียบชีวิตของทั้งคู่กับอะไรสักอย่าง ก็คงจะบอกได้ว่ามันก็เหมือนการมีชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่แสงอาทิตย์สาดส่องไปไม่ถึง และไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะเดินออกมาจากความมืดมิดนั้นได้อีกครั้ง…
แม้จะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความสตรวองในการดู แต่ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความสนุกมากๆ ค่ะ เสน่ห์ของละครเรื่องนี้คือ มันไม่ได้มีแค่ปริศนาให้เราติดตาม แต่เป็นเรื่องที่ถ่ายทอดจิตใจเบื้องลึกของมนุษย์ให้เราได้เข้าใจกัน ซึ่งละครเรื่องนี้ก็มีรางวัล “Television Drama Academy Award ครั้งที่ 48” การันตีถึงคุณภาพด้วยค่ะ รางวัลที่กวาดมาได้ ก็คือ รางวัลละครยอดเยี่มแห่งปี นักแสดงนำชาย-หญิง และนักแสดงสมทบของเรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยค่ะ และที่สำคัญกว่าจะนำนวนิยายเรื่องนี้มาทำเป็นละครได้ ทีมงานต้องใช้เวลาโน้มน้าวนักเขียนเป็นเวลาถึง 6 เดือนเลยทีเดียว!
และต่อมาในปี 2011 ได้ถูกนำมารีเมคอีกครั้งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ นำแสดงโดย Maki Horikita และ Kengo Kora ค่ะ
คำเตือน: “ถามใจตัวเองก่อนว่า สตรวองพอไหมที่จะนั่งดูจนจบ” แม้จะเครียดๆ หดหู่สักหน่อย แต่ถ้าคุณสตรวองพอ คุณจะสัมผัสได้ถึงความสนุกและแง่คิดในเรื่องนี้ค่ะ
2. Life
เรื่องนี้ก็ขอจัดให้อยู่ในละครญี่ปุ่นที่มีความ “สตรวอง!!” เป็นละครที่สร้างมาจากมังงะค่ะ ที่ถ่ายทอดด้านมืดของชีวิตเด็กนักเรียนญี่ปุ่น นั้นก็คือ… “ปัญหาการกลั่นแกล้งกัน” ภายในโรงเรียน หลายคนคงอาจเคยได้ยินปัญหาการกลั่นแกล้งที่รุนแรงของเด็กนักเรียนญี่ปุ่นมาแล้ว ถ้าดูเรื่องนี้ก็จะเข้าใจมากขึ้นค่ะว่า มันเป็นยังไง
เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากชีวิตของ “Shiiba Ayumu” (รับบทโดย Kitano Kii) เด็กสาวจิตใจดีคนหนึ่ง สมัยม.ต้น เธอเป็นเด็กที่เรียนแย่มาก แต่โชคดีที่ได้เพื่อนสนิทช่วยติวให้ จนสามารถสอบเข้าโรงเรียนม.ปลายชื่อดังได้ แต่…นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาค่ะ ก็เพื่อนสนิทของเธอกลับอิจฉาตาร้อน อารมณ์ประมาณว่า “ฉันอุตส่าห์ติวให้ทั้งที ทั้งๆ ที่ฉันเก่งกว่าด้วย ทำไมเธอสอบผ่านคนเดียวล่ะ!!!” นั่นเป็นเหตุให้มิตรภาพขาดสะบั้น แล้วเพื่อนของ Ayumu ก็ตัดสินใจฆ่าตัวตาย…
จากเหตุการณ์วันนั้นทำให้ Ayumu รู้สึกผิดกับตัวเองมาก และชีวิตเธอก็เปลี่ยนไป จากที่เป็นเด็กร่าเริง ก็กลายเป็นคนเก็บตัว แต่…ยังค่ะ ยังไม่จบ นี่เป็นเพียงการเกริ่นๆ ของเนื้อเรื่องเท่านั้น เรื่องมันจะมาพีคขึ้นไปอีก ก็ตอนที่ Ayumu ได้มารู้จักกับ “Manami” (รับบทโดย Fukuda Saki)สาวสวย สุดจะแอ๊บแบ๊วของห้อง Manami สนใจในตัวเธอ ก็เลยเข้ามาตีสนิท เป็นเพื่อนด้วย มิตรภาพครั้งใหม่ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เรื่องราวกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที เมื่อ Manami เข้าใจ Ayumu ผิดไปว่า กำลังจะแย่ง “Katsumi” (รับบทโดย Hosoda Yoshihiko) แฟนของเธอไป
แต่หารู้ไม่ว่า แฟนของเธอมีปัญหาทางจิตค่ะ ชอบถ่ายรูปโป๊ผู้หญิง และจับผู้หญิงมาทรมาน และ… Ayumu ก็เป็นหนึ่งในนั้น…

เรียกได้ว่า เธอทั้งถูกแก๊ง Manami กลั่นแกล้ง ทั้งลากเข้าห้องน้ำและเอาน้ำสาด หรือโยนโต๊ะเรียนลงมาชั้นล่าง และอื่นๆ อีกมากมาย แถมยังต้องถูก “Katsumi” ทำร้ายอีกทางหนึ่งด้วย ดูไปเรื่อยๆ ดีกรีการกลั่นแกล้งจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่อยากจะเชื่อว่า “ทั้งๆ ที่เราเป็นเพื่อนกัน แต่ทำไมต้องทำร้ายกันถึงขนาดนี้”
แต่…เรื่องนี้ Ayumu ไม่ได้อ่อนแอ บีบน้ำตาแบบนางเอกละครไทยอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะคะ เมื่อเธอถูกกลั่นแกล้งแล้ว เธอก็ฮึด ลุกขึ้นมา “สตรวองงง” ค่ะ เธอแกล้งฉันใช่ไหม ได้! งั้นมาเลย ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
คำเตือน: เรื่องนี้พอดูๆ ไป มันจะชวนให้เรารู้สึกกดดันไปตาม Ayumu ค่ะ อารมณ์แบบชีวิตฉันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ละวันต้องคอยระวังว่าจะถูกทำร้ายอะไรบ้าง จะมีชีวิตรอดไหม เด็กๆ วัยใสที่เห็น กลับมีจุดมืดมนกว่าที่คิดค่ะ แต่อีกแง่ มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้เราได้เห็นถึงปัญหาเหล่านี้ค่ะ และหันมาช่วยกันแก้ไขมากขึ้น
3. Last Friends
ละครเรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในละครแนวความรักค่ะ แต่ในขณะเดียวกันก็ขึ้นชื่อว่า เป็นละครที่เครียดสุดๆ ต้องจิตแข็งพอสมควรเหมือนกันถึงจะดูจนจบได้ ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างคนหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่ง ที่มีความแตกต่างทั้งเรื่องภูมิหลังชีวิต ปมปัญหาขัดแย้งในตัวเอง และลักษณะนิสัย เรื่องราวเริ่มต้นจากชีวิตของคู่รักคู่หนึ่ง “Aida Michiru” (รับบทโดย Nagasawa Masami ) กับ “Oikawa Sosuke” (รับบทโดย Nishikido Ryo) ที่รักกันมานานจนตัดสินใจจะมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่…พอได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว Michiru กลับค้นพบอีกตัวตนหนึ่งของ Sosuke ที่เป็นคนมีพฤติกรรม DV ชอบใช้ความรุนแรง
และในขณะเดียวกัน Michiru ก็ได้มาพบกับ “Kishimoto Ruka” (รับบทโดย Ueno Juri) สาวห้าว เพื่อนสนิทสมัยมัธยม ที่แอบชอบ Michiru อยู่ห่างๆ มาเป็นเวลานาน! เมื่อเกิดเรื่องขึ้น Ruka เลยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ และพาไปรู้จักกับเพื่อนๆ ในบ้านแชร์เฮ้าส์หลังหนึ่งที่แต่ละคนต่างมีเรื่องราวชีวิต ความรัก ทั้งสมหวัง ไม่สมหวัง สามเศร้า สี่เศร้า ให้เราได้เรียนรู้ถึงความหมายของคำว่า “รัก”
คำเตือน: แม้จะเป็นละครความรัก แต่ก็เต็มไปด้วยเรื่องที่เครียดมากมายค่ะ ดูๆ ไปก็จะหน้านิ่วคิ้วขมวดนิดๆ พร้อมอาการสั่นกลัวกับพฤติกรรมของพระเอก ขอบอกว่าพระเอกในเรื่องนี้ก็น่ากลัวกว่าที่คิดค่ะ และยังสะท้อนปัญหาสังคมที่ส่งผลทำให้เกิดปมในจิตใจในแต่ละคน แม้การกระทำบางอย่างจะโหดร้าย ไม่สุดแสนจะโรแมนติก แต่ทุกการกระทำมันมาจากเหตุผลที่เรียกว่า “ความรัก”
4. Hanzawa Naoki
มาที่ละครเรตติ้งสูงสุดในวงการละครญี่ปุ่นค่ะ สำหรับเรื่องนี้แค่เห็นตัวอย่างละคร พล็อตเรื่องคร่าวๆ ก็เครียดแล้ว เป็นเรื่องราวของ “Hanzawa Naoki” นายธนาคารคนหนึ่งที่ต้องต่อกรกับความอยุติธรรมในองค์กร ความอยุติธรรมที่ว่านี้มันเกิดขึ้นก็ตอนที่ จู่ๆ หัวหน้าของ Hanzawa สั่งให้ปล่อยเงินกู้จำนวน 500 ล้านเยน อย่างเร่งด่วนกับลูกค้ารายหนึ่งที่ส่อแววว่าจะล้มละลาย แม้ Hanzawa จะไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ แต่เขาก็ต้องทำตามคำสั่ง และแล้วเรื่องก็เกิดขึ้นจริงๆ ลูกค้ากับเงิน 500 ล้านเยนที่ปล่อยไปได้หายไป แถมหัวหน้าตัวดีก็โยนความผิดนี้ให้ Hanzawa รับผิดชอบไปเต็มๆ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เต็มใจจะทำตั้งแต่แรก การที่นายธนาคารทำเงินหาย จะนำมาสิ่งปัญหาหลายอย่างรวมถึงชีวิตของเขาด้วย ด้วยเหตุนี้ Hanzawa เลยต้องตามหาเงินก้อนนั้นกลับคืนมาให้ได้ และเอาคืนคนที่เคยทำร้ายเขาเป็น “2 เท่า”!!!
พอพูดถึงอาชีพ “นายธนาคาร” เราก็จะนึกถึงเรื่อง “การเงิน” ตามมาใช่ไหมคะ แค่เรื่องการเงินก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนดูต้องกุมขมับแล้ว ไหนจะต้องมาดูกับความดราม่าของเรื่อง การฟาดฟัน ต่อสู้กับความอยุติธรรมในองค์กร แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่สนุกมาในละครญี่ปุ่น เพราะเนื้อเรื่องเนี่ย ดูๆ ไป ก็ดูจะใกล้ตัวเหล่ามนุษย์เงินเดือน ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงการธนาคารอย่างเดียว
คำเตือน:
1.สำหรับตอนแรก ระวังดูแล้วจะไม่กล้าลุกไปไหนเลยตลอด 2 ชั่วโมง และสำหรับตอนอื่นๆ ก็ระวังว่า ดูแล้วจะไม่เป็นอันหลับอันนอน ต้องติดอยู่แต่หน้าจออย่างปฏิเสธไม่ได้…
2. สำหรับใครที่เครียดจากงาน ก็ต้องสตรวองพอที่จะดู จะต้องเห็นอะไรต่างๆ ที่ชวนให้กลับไปนึกถึงที่ทำงาน แต่…มันก็กลับทำให้เราได้พลังอยากจะไปทำงานในวันต่อไปค่ะ
5. 1 Litre of Tears
มาสตรวองกันที่เรื่องสุดท้ายค่ะ “1 Litre of Tears” หรือชื่อเรื่องที่คนไทยรู้จักกันดีว่า “บันทึกน้ำตา 1 ลิตร” ละครที่สร้างจากชีวิตจริงของ “Aya Kito” (รับบทโดย Sawajiri Erika) เด็กหญิงวัย 15 ปี ที่ต้องมาป่วยเป็นโรค “กล้ามเนื้อเสียการประสานงานจากสมองน้อยและไขสันหลัง” (spinocerebellar degeneration) ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ แม้ตอนแรกเธอจะมีร่างกาย สุขภาพที่แข็งแรง และเป็นถึงนักกีฬาของโรงเรียน แต่กลับต้องมาเป็นโรคร้ายนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ทำไมโรคนี้ถึงต้องเลือกฉัน” Aya ได้แต่ครุ่นคิด

แม้ Aya ต้องเผชิญกับโรคร้าย อนาคตของเด็กสาวที่กำลังจะไปได้ไกล กลับต้องชะงักลง แต่นั่นกลับทำให้เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งกว่าเดิม ใช้ช่วงเวลาชีวิตที่เหลือกับครอบครัว คนที่รักให้ดีและคุ้มค่าที่สุด มองโลกอย่างเข้าใจ เป็นกำลังใจให้คนที่เหลืออยู่ พร้อมจากไปอย่างมีความหมาย…
คำเตือน: ดูเรื่องนี้แล้ว ระวังจะต้องเสียน้ำตาไปกว่า 1 ลิตร…
และนี่ก็คือตัวอย่างละครญี่ปุ่น 5 เรื่อง ที่อยากจะแนะนำสำหรับคนที่อยากดูแนวแบบสตรวองๆ มีเนื้อเรื่องเครียดๆ หดหู่ใจ หรือดราม่าน้ำตาท่วมจอ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเคร่งเครียดขนาดนั้น แต่เรื่องที่นำมาเสนอนี้ก็เป็นละครที่ติดอันดับ “ความสนุก” ในใจของคนที่ดูละครญี่ปุ่นค่ะ
ก็เพราะว่าชีวิตคนเราไม่ได้มีเรื่องที่ดี หรือความสวยงามตลอดเวลา ละครเองก็จำเป็นที่ต้องถ่ายทอดโลกที่เป็นอยู่ให้ครบทุกด้าน ให้เราทุกคนได้เรียนรู้ และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้
ชีวิตจริงนั้นบางทีก็โหดร้าย เราจึงจำเป็นต้อง “สตรวอง!!!” เข้าไว้ค่ะ
หมายเหตุ: คำว่า “สตรวอง” มาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Strong” ที่มีความหมายว่าเข้มแข็ง แข็งแกร่ง แข็งแรง เป็นคำที่มาจากเมนเทอร์ลูกเกด ในรายการ The Face Thailand ค่ะ เอาไว้ใช้สำหรับเวลาที่เราต้องเจอกับเรื่องอะไรที่หนักๆ และต้องสู้ต่อไปอย่างแข็งแกร่ง แบบสตรวองๆ
ทักทายพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ที่ >>> Facebook Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– รีวิว 5-ji Kara 9-ji Made เมื่อพระมาตกหลุมรักฉัน!
– ละครที่ถูกเข้าใจผิดว่าไม่ใช่ละครญี่ปุ่น!
– วิธีจัดการฉากต้องห้ามในละครญี่ปุ่นแบบไม่ต้องเซ็นเซอร์
– ละครแนวแซ่บๆ แบบญี่ปุ่น
– พลังของละครญี่ปุ่นที่มีต่อสังคม!
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก:
-http://wiki.d-addicts.com/Byakuyako
-http://asianwiki.com/Into_the_White_Night_(2011-Japan)
-http://wiki.d-addicts.com/LIFE
-http://wiki.d-addicts.com/Last_Friends
-http://lostinmybook.canalblog.com/archives/2011/07/11/21589232.html
-http://drama-max.com/2014/03/utb-los-angeles-premieres-record-setting-japanese-drama-hanzawa-naoki/
-http://japandailypress.com/hit-tv-banking-drama-hanzawa-naoki-to-air-in-taiwan-hong-kong-0437129/
-http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nobutawoproduce&month=06-2012&date=28&group=1&gblog=43