วันนี้เราจะพาไปเที่ยว Sanrio Puroland สวนสนุกที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่น อยู่แถวย่าน Tama Center ในโตเกียวนี่เอง ไม่จำเป็นต้องเป็นสายมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งก็สนุกได้
วันนี้เราจะพาไปเที่ยว Sanrio Puroland สวนสนุกที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่น อยู่แถวย่าน Tama Center ในโตเกียวนี่เอง ไม่จำเป็นต้องเป็นสายมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งก็สนุกได้ เพราะเมื่อเข้าไปแล้วเดี๋ยวก็โดนวิญญาณความน่ารักมุ้งมุ้งเข้าสิงเอง เพราะด้านในมีเหล่าคาร์แรกเตอร์คอยส่งความน่ารักอยู่ทั่วสวนสนุก จนไม่ว่าใครก็ต้องเผลออมยิ้มออกมาอย่างแน่นอน
Sanrio Puroland เป็นสวนสนุกในร่ม แปลว่าจะแดดออกฝนตกยังไงก็ไม่อาจทำลายช่วงเวลาความสนุกความน่ารักของสวนสนุกแห่งนี้ได้ สวนสนุกแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ชั้น ทางเข้าออกจะอยู่ที่ชั้น 3 ส่วนชั้น 2 และชั้น 1 จะรอให้เราไปสนุกอยู่ด้านล่าง
ขั้นแรกที่เราจะต้องทำคือเดินไปซื้อบัตรด้านหน้า เมื่อซื้อบัตรเสร็จก็รับแผนที่มาสำรวจกันก่อน ข้างในมีทั้งเครื่องเล่น ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร เรียกว่ามีครบ ถ้าอยู่ได้ทั้งวันคงอยู่ไปแล้ว แต่ที่นี่เขาเปิด 10 โมงถึง 5 โมงเย็น ทีแรกคิดว่าอยู่สัก 3-4 ชั่วโมงก็น่าจะเที่ยวครบหมดละ เอาเข้าจริง ๆ อยู่จนแทบจะโดนปิดประตูไล่ซะงั้น
พูดเกริ่นมาขนาดนี้แล้ว เราไปพบกับความน่ารักมุ้งมิ้งของสวนสนุก Sanrio Puroland กันเลยดีกว่า!



เมื่อลงมาเราก็จะพบกับดินแดนแห่งความฝัน! ชั้น 2 ที่เรามาถึงจะเป็นเหมือนระเบียงตามขอบของห้องโถง ตรงกลางเป็นที่สำหรับให้สามารถมองลงไปส่องชั้น 1 ได้ เพราะหลังจากนี้จะมีขบวนพาเหรดที่ชั้นนี้นี่เอง นอกจากนี้มุมที่เราสามารถถ่ายรูปน่ารัก ๆ ก็มีเยอะมาก อย่างต้นไม้ที่เห็นในภาพด้านล่างก็สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปสวย ๆ ของดินแดนแห่งนี้ได้เหมือนกัน
แต่เราจะขอวาร์ปจากชั้นล่างขึ้นมาชั้น 4 กันก่อน เพราะหากพูดถึงซานริโอ้แล้วล่ะก็ ไม่ว่าใครก็จะต้องนึกถึงเด็กหญิงคิตตี้ที่โด่งดังไปทั่วโลกเป็นอันดับแรกแน่นอน และใช่แล้ว ชั้นนี้มีสถานที่ที่เรียกว่า Ladykittyhouse หรือบ้านของท่านหญิงคิตตี้นั่นเอง โดยตรงนี้จะจัดคิวให้เข้าเป็นรอบ ๆ จำนวนคนที่เข้าได้ในรอบนึงน่าจะประมาณ 20 คนได้
เข้ามาก็จะเป็นห้องโถงให้ถ่ายรูปรอ สักแป๊บเดียวท่านหญิงคิตตี้ก็ออกมาต้อนรับเชิญให้เข้าไปด้านใน เมื่อกล่าวคำทักทายจบ ประตูก็เปิดออกให้เราได้เข้าไปสำรวจกันแล้ว
เมื่อเข้าไปก็จะพบกับมุมให้เราได้ถ่ายรูปสุดน่ารัก
ที่อยากแนะนำคือเจ้าเครื่องนี้ เพียงแค่เราไปยืนอยู่หน้ากล้อง ที่จอก็จะชุดสุดน่ารักมาให้เราสวมใส่ถ่ายรูปกันแล้ว ミ☆( *uωu人)+゚.
หลังจากที่ถ่ายรูปกันหนำใจแล้ว ประตูต่อไปก็จะเปิดออก แต่หลังจากผ่านประตูนี้ไปแล้วเขาห้ามให้เราถ่ายรูปใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อย่าเพิ่งเศร้าใจไป ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ได้รูปเก็บไปเป็นที่ระลึกเลย จริง ๆ แล้วในห้องนี้เขามีบริการถ่ายรูปเรากับท่านหญิงคิตตี้ตัวเป็น ๆ ให้นั่นเอง! (´⌣`ʃƪ)
และนี่คือรูปที่เราได้ไปถ่ายกับท่านหญิงคิตตี้มา ซึ่งด้านในเขาเป็นบริการถ่ายรูปให้ฟรี ส่วนรูปที่ถ่ายมาเราจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ โดยรูปที่เราได้ก็จะมีทั้งแบบรูปปริ้นท์ และเราสามารถสแกน QR code เซฟภาพเก็บไว้ในมือถือได้ด้วย ส่วนราคาสำหรับภาพนี้คือ 1500 เยน
เอาล่ะ เรากลับมาหาความมุ้งมิ้งที่ชั้น 1 กันดีกว่า ก่อนอื่นเราไปหาเจ้าไข่กวน Gudetama กันก่อนเลย โดยเครื่องเล่นประจำตัวเจ้าไข่นี้ก็คือ Gudetama Airline! (´◇ `*)
ก่อนอื่นก็ไปตรวจคนเข้าเมือง(?) กันก่อนเลย! เราจะได้รับบัตร Gudetama Passport มา โดยเราต้องนำบัตรนี้ไปแตะที่เช็คพ้อยต์ต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งเครื่องเล่นสนุก ๆ และมุมถ่ายรูปกับเจ้าไข่ไปเป็นที่ระลึก เมื่อพร้อมกันแล้ว สายการบิน Gudetama Airline ก็ขอพาผู้โยสารทุกท่านไปชมความกวนความน่ารักของเจ้าไข่กันเลยค่ะ! (´◇ `*)ゝ”


และภาพด้านล่างก็จะเป็นตัวอย่างของสถานที่ถ่ายรูปเช็คพ้อยต์ที่ต้องแตะบัตรเพื่อถ่ายรูป โดยรูปที่ถ่ายเราสามารถเลือกที่จะซื้อหรือไม่ซื้อได้เหมือนกับรูปคิตตี้ด้านบนเลย เพียงแต่ราคาจะถูกกว่า โดยรูปนี้จะอยู่ที่ราคา 600 เยน
แล้วก็มาถึงเครื่องเล่นกันแล้ว! อย่างที่บอกไป ถ้าอยากเล่นเกมนี้ เพียงแค่ต่อแถวเอาบัตรพาสปอร์ตแตะติ๊ดเดียวก็สนุกกันได้แล้ว กฎกติกาเกมนี้ก็ง่าย ๆ แค่ตอกไข่ให้ลงกระทะก็ได้คะแนนแล้ว ปัญหาคือกระทะมันจะเลื่อนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ นี่สิ แต่นั่นก็ทำให้มันไม่ง่ายไปไม่ยากไป สนุกกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย
นี่ก็เป็นเครื่องเล่นอีกอย่างที่ให้เราได้ออกกำลังขยับตัวกันสักเล็กน้อย ใช่แล้ว นี่คือเกมเต้นนั่นเองค่ะ 〜(꒪꒳꒪)〜
ส่วนนี่ก็เป็นเกมโบว์ลิ่งที่เหมือนจะธรรมดา เพราะพินที่เราต้องกวาดนั้นไม่มีอยู่จริง แต่จะปรากฏอยู่บนจอแทน ซึ่งบนพินก็จะมีหน้าเจ้าไข่กวนที่เห็นแล้วมันน่าสไตรค์ให้ล้มไปให้หมดเลยจริง ๆ
เมื่อกวาดล้างเจ้าไข่กันแล้วด้านข้างก็มีกาชาปองให้หมุนเก็บกลับไปเป็นของที่ระลึกเพียบเลย
หลังจากลงเครื่องจาก Gudetama Airline เรียบร้อยแล้ว ใกล้ ๆ กันก็มี Mymeroaddrive เป็นรถรางที่จะพาเราท่องไปสู่โลกของ Mymelody เมื่อรถเริ่มออกเดินทางแล้วก็จะมีเสียงบรรยายเล่าเรื่องราวประวัติของเจ้ากระต่ายน่ารักตั้งแต่เกิด ชีวิตการเป็นอยู่ต่าง ๆ โดยด้านในก็จะมีบอกจุดถ่ายรูปเป็นระยะ ๆ

เสร็จแล้วก็มาเลือกหารูปเราแล้วซื้อกลับไปเป็นที่ระทึก เอ้ย! ที่ระลึกได้เหมือนเดิม
นอกจากรถ MyMelody แล้ว ยังมี Sanriocharacter Boatride ทัวร์เรือที่จะพาเราเข้าไปพบกับเหล่าซานริโอ้คาร์แรกเตอร์ที่รอส่งมอบความน่ารักให้เราอยู่ตลอดทาง



ว่าแต่ ทำไมออกมาแล้วเจอคนนั่งรออะไรกันอยู่เต็มเลย เขารออะไรกันนะ…
คำใบ้คือนี่เป็นที่นั่ง VIP ราคา 2000 เยน มีทั้งแบบนั่งเก้าอี้และนั่งพื้น
ขอแนะนำว่าถ้าอยากสนุกกับการแสดงนี้มากกว่าเดิมล่ะก็ ต้องซื้อ Penlight มาถือเป็นพร็อพประกอบความน่ารักด้วย และแน่นอน นี่ไม่ใช่ Penlight ธรรมดา ๆ เวลาปกติมันสามารถเป็นสีเป็นสีต่าง ๆ ได้ แต่หากการแสดงเริ่มขึ้นแล้วล่ะก็… ขอเก็บไว้ก่อนแล้วกันเนอะヽ(:3ノ ヽ)ノ โดยราคาอยู่ที่ 1500 เยน หากเพิ่มสายคล้องก็เพิ่มไปอีก 500 เยน
คิดว่าคงจะเดากันได้แล้วเนอะ ใช่แล้ว การแสดงนี้เริ่มตอนประมาณ 2 โมง หรือก็คือพาเหรดนั่นเอง! ก่อนอื่นก็พบกับช่วง Gudetama พบปะประชาชน ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า Penlight ที่เปลี่ยนสีได้เมื่อกี้ กลายเป็นสีเดียวกันหมดเลย แน่นอนว่าไม่ใช่คนดูใจตรงกันพอดี แต่เมื่อพาเหรดเริ่มขึ้นสีของ Penlight ก็จเปลี่ยนเป็นสีเดียวกันและเข้ากับโชว์แต่ละอย่างที่มีในพาเหรดนั่นเอง



หลังจากเดินสำรวจทั่วจนเริ่มเหนื่อยแล้ว ก็ได้เวลาเติมพลังกันสักที โดยที่นี่จะมี Character Food Court ขายอาหารของเหล่าคาร์แรกเตอร์ที่รับรองได้เลยว่าน่ารักจนไม่กล้ากินกันเลยทีเดียว

แต่นแต๊น และนี่คือเมนูที่เราสั่งมา เป็นไงล่ะ น่ารักจนไม่กล่ากินเลยใช่ไหม


ที่เด็ดคือถ้วยคิตตี้อันนี้ เพราะเมื่อเรากินหมดแล้ว เราสามารถพาคิตตี้กลับบ้านไปอยู่กับเราได้ด้วย!
นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ประจำคาร์แรกเตอร์ต่าง ๆ ด้วย! จะน่ารักกันไปไหนเนี่ย! (๑♡⌓♡๑)



และสุดท้ายก็มาถึงโซนของฝากกันแล้ว! มีของฝากน่ารัก ๆ เต็มไปหมดจนเลือกไม่ถูกเลย! ด้านในมีทั้งตุ๊กตา ขนม พวงกุญแจ ฯลฯ แถมบางชิ้นยังเป็นของลิมิเต็ดที่หาซื้อได้แค่ที่ Sanrio Puroland แห่งนี้เท่านั้น!
สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ถ้าซื้อของด้านในทุกอย่างรวมกันได้ 5000 สามารถนำไปลดหย่อนภาษี 8% ได้ด้วยนะ เคาน์เตอร์จะอยู่บนชั้น 4
สำหรับค่าบัตรวันธรรมดาอยู่ที่ 3300 เยน วันหยุดเสาร์อาทิตย์ 3800 เยน (แอบมากระซิบสักเล็กน้อยว่ามีคูปองส่วนลดอยู่ในเว็บไซต์ของ Sanrio Puroland ด้วยนะ) เปิด 10.00 น. ถึง 17.00 น. สำหรับวันเปิดปิดต้องเข้าไปเช็คในเว็บอีกที จะได้ไม่ต้องไปเสียเที่ยวกัน รวมถึงรายละเอียดการเดินทาง หรือข้อมูลอื่น ๆ สามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ https://th.puroland.jp/
เป็นยังไงกันบ้างกับสวนสนุก Sanrio Puroland น่ารักอย่างที่บอกเลยใช่รึเปล่า ถ้าใครไปล่ะก็จะต้องได้ของฝากความน่ารัก และรอยยิ้มติดไม้ติดมือกลับมามากมายเหมือนกันแน่ ๆ
ความจริงแล้วที่เราเอานำมาสปอยล์เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กส่วนน้อยของที่นี่เท่านั้นเอง ของจริงยังมีความสนุกความน่ารักต่าง ๆ อีกเพียบ ขออุบให้ทุกคนไปสัมผัสกันเองดีกว่า