再生エネルギー [ไซเซเอะเนะรุกี] พลังงานหมุนเวียนบนเกาะญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นนี้ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีปริมาณการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมพลังงานน้ำ) เป็นอันดับ 5 ของโลก จากสถิติเมื่อปีค.ศ. 2018 โดยมีอันดับที่ 1-4 คือ จีน, อเมริกา, เยอรมัน, อินเดีย
คำว่า พลังงานหมุนเวียน นั้นภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า
再生エネルギー
さいせいエネルギー
[ไซเซ เอะเนะรุกี]
พลังงานหมุนเวียน
Renewable energy
เรามาดูรากศัพท์กัน
再 [ไซ] แปลว่า “อีกครั้ง”
ตัวอย่างเช่น
再試合
さいしあい
[ไซชิไอ]เกมแข่งขันกันใหม่อีกรอบ
Rematch
生きる
いきる
[อิคิรุ]มีชีวิต
再+生=再生 [ไซเซ] นั้นแปลว่า “Recycle”
ส่วน
エネルギー
[เอะเนะรุกี]เป็นคำทับศัพท์จากคำว่า Energy
แล้ว Energy ไฉนจึงอ่านเป็นว่า [เอะเนะรุกี]
หากแยกเป็น E-ne-r-gy แล้วอ่านว่า [เอะเนะรุกี] ได้
ก็แลดูสมเหตุสมผลดี
กลับมาคุยกันว่าแล้วอะไรจึงเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นเป็นอันดับ 5 ของโลกในปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
สำหรับญี่ปุ่นแล้วจากปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด มีไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน 14% ซึ่งแบ่งเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ 6.36% และ ไบโอแมส อีก 4.49%
พลังงานแสงอาทิตย์
ญี่ปุ่นมีอัตราการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์อยู่มากเพราะเหตุการณ์ วิกฤตน้ำมันครั้งที่ 1 ปีค.ศ.1973 กระตุ้นให้ญี่ปุ่นตั้งโครงการ “ซันไชน์” (サンシャイン計画: New Sunshine Project ) เพื่อเป็นการพัฒนาวิจัยเทคโนโลยีสำหรับพลังงานแบบใหม่ ซึ่งโครงการนี้ยาวนานตั้งแต่ปีค.ศ.1974 – 2000
เป็นที่น่าสังเกตว่าชื่อโครงการ “ซันไชน์” ในภาษาญี่ปุ่นไม่มีคำที่มีความหมายว่า new = ใหม่ แฝงอยู่ เป็นไปได้ว่าตัวคาตาคานะ (サンシャイン=sunshine= ซันไชน์) ก็อาจจะให้ความรู้สึกว่า “ใหม่” ได้
ณ ตอนที่เริ่มต้นโครงการซันไชน์ ค่าใช้จ่ายในการผลิตโซลาร์เซลอยู่ที่หลักหมื่นเยนต่อ 1 w
แต่ ณ ปัจจุบัน (ปีค.ศ. 2021) อยู่ที่หลักร้อยเยนต่อ 1 w
เพื่อการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์นั้น ยิ่งมีเวลากลางวันนานเท่าไรยิ่งดี ด้วยเหตุนี้ฝั่งทะเลญี่ปุ่น (ฝั่งซ้ายของเกาะญี่ปุ่น) ที่ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมจากแผ่นดินทวีปเอเชียในช่วงฤดูหนาว ทำให้มีปริมาณฝนตกเพิ่มสูง จึงไม่เหมาะที่จะผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ รวมไปถึงทางภาคเหนือของญี่ปุ่นด้วย
ด้วยเหตุฉะนี้ ปริมาณการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์จะเพิ่มมากขึ้นในทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค (ฝั่งขวาของเกาะญี่ปุ่น) และจังหวัดที่มีปริมาณฝนตกตลอดปีที่น้อยอย่างจังหวัดยามานาชิ, นากะโนะ, กุนมะ ก็มีปริมาณการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
ปัญหาของญี่ปุ่นด้านพลังงานคาร์บอน, นิวเคลียร์, ไบโอแมส และ ความร้อนใต้พิภพ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรคาร์บอนอย่างน้ำมัน, ถ่านหิน, ก๊าซธรรมชาติ จึงทำให้ญี่ปุ่นต้องดำเนินการจัดหาอุปทานเพื่อความสม่ำเสมอ และ พยายามพัฒนาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่โทโฮกุเมื่อปีค.ศ.2011 ทำให้เกิดความจำเป็นที่ต้องมานั่งทบทวนใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ (ความขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ, ความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์) จึงทำให้พลังงานหมุนเวียนเป็นความหวังของญี่ปุ่น
นอกจากพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว ญี่ปุ่นก็มีการใช้พลังงานชีวมวล (ไบโอแมส) ซึ่งก็ยัง… ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ก็เรียกไม่ได้ว่าอ่อนโยนกับโลกใบนี้
เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่บนวงแหวนไฟ ซึ่งประกอบด้วยแผ่นเปลือกโลก 4 แผ่น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุนี้ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีปริมาณทรัพยากรความร้อนใต้พิภพมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ถัดจากอเมริกา และ อินโดนีเซีย แต่ทว่าญี่ปุ่นกลับใช้ประโยชน์จากตรงจุดนี้เพียงแค่ 2%
สาเหตุที่การพัฒนาด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพไม่คืบหน้า เพราะญี่ปุ่นเลือกที่วางแผนใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นหลัก และ มีเสียงเรียกร้องให้พิจารณาให้ดีจากผู้ประกอบการบ่อน้ำร้อนออนเซ็น
พลังงานลม
การผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของญี่ปุ่นนั้นมีเพียงแค่ 1 % เป็นเพราะว่าการส่งผ่านสายไฟฟ้าถูกจำกัดจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่
การผลิตไฟฟ้าพลังงานลมของญี่ปุ่นไม่เพิ่มมากขึ้น เพราะว่า “ราคาที่ถูกของมัน” จะไปขัดแข้งขัดขากับ “ขาใหญ่อย่างบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อย่างพลังงานคาร์บอนหรือนิวเคลียร์”
แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์เริ่มเป็นที่ตระหนัก ซึ่งก็ต้องดูต่อกันว่าญี่ปุ่นจะพัฒนาการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมไปในทิศทางใด
ส่งท้าย
จากบทความนี้ได้พูดถึงสถานการณ์ของพลังงานหมุนเวียนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผมเองก็หวังอย่างยิ่งที่โลกเราจะพัฒนาหันมาใช้พลังงานที่ “สะอาด” กันมากขึ้นครับ
ท้ายที่สุดจริงๆ
จากเวบไซต์ของสหพันธ์ผู้ประกอบการไฟฟ้าแห่งประเทศญี่ปุ่น (The Federation of Electric Power Companies of Japan) มีภาพการ์ตูนมังงะเป็นบทสนทนาของตัวละครสองคนคุยกัน
“ถึงขึ้นชื่อว่านั่งรถไฟฟ้า แต่ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปลดปล่อยออกมาจากการผลิตไฟฟ้านั้น, มากยิ่งกว่าที่รถยนต์ทั้งญี่ปุ่นปล่อยออกมา”
“แล้วจะให้ทำอย่างไร? ให้เลิกนั่งรถไฟฟ้างั้นเหรอ?”
「ちがう。CO2を出さない発電方法にシフトしていけばいいんだ。」
“ไม่ใช่นะ เราเพียงเปลี่ยนไปใช้วิธีการผลิตไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิด CO2 ก็พอ”
ทักทายพูดคุยกับวสุ ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– 床屋 [โตะโคะยะ] ร้านตัดผมที่มีคำว่า “พื้น” อยู่ในรากศัพท์
– 暗闇 [คุระยะมิ] ความมืดที่มีเสียงนำทาง
– โอลิมปิกและชื่อคัมภีร์ห้าห่วงของมุซาชิ
– “เทนคะมุโซ” ก็เป็นเพียงแค่คำพูดหนึ่ง
– บัตโตไซ ของเคนชิน
อ้างอิง
– ญี่ปุ่นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็นอันดับ 5 ของโลก https://diamond.jp/
– โครงการซันไชน์ https://en.m.wikipedia.org/
– พลังงานลม https://www.tokyo-np.co.jp/
– เว็บไซต์ของสหพันธ์ผู้ประกอบการไฟฟ้าแห่งประเทศญี่ปุ่น https://www.fepc.or.jp/
#再生エネルギー [ไซเซเอะเนะรุกี] พลังงานหมุนเวียนบนเกาะญี่ปุ่น