สำหรับแฟนมวยปล้ำแล้ว ถ้าพูดถึงในช่วงยุค 90 ถึงตรงช่วงยุค 2000 นั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักค่ายมวยปล้ำชื่อดังอย่าง Pro Wrestling Noah ค่ายมวยปล้ำญี่ปุ่นที่สืบทอดตำนานมวยปล้ำสไตล์หนักหน่วงรุนแรง (King Road) มาจาก All Japan Pro Wrestling อดีตค่ายมวยปล้ำอันดับหนึ่งของโลก
สำหรับแฟนมวยปล้ำแล้ว ถ้าพูดถึงในช่วงยุค 90 ถึงตรงช่วงยุค 2000 นั้น คงไม่มีใครไม่รู้จักค่ายมวยปล้ำชื่อดังอย่าง Pro Wrestling Noah ค่ายมวยปล้ำญี่ปุ่น ที่สืบทอดตำนานมวยปล้ำสไตล์หนักหน่วงรุนแรง (King Road) มาจาก All Japan Pro Wrestling อดีตค่ายมวยปล้ำอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งได้ยกนักมวยปล้ำกว่าครึ่งย้ายมาที่สมาคมแห่งนี้ โดยสมาคมแห่งนี้มีผู้ก่อตั้งคือ Mitsuharu Misawa นักมวยปล้ำระดับตำนานผู้ล่วงลับ และมี “สำเขียว” เป็นสีประจำสมาคม ซึ่งทางสมาคมเองก็ได้นำสีนี้เป็นสีหลักของเวทีอีกด้วย
ความสำเร็จของ Pro Wrestling Noah เกิดจากแนวคิดที่ต้องการต่อยอดความสำเร็จเดิมของสมาคม และเปลี่ยนแปลง พัฒนาในส่วนที่เดิมนั้นขาดหาย และทำให้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเลยก็คือสมัยก่อนนั้นที่ญี่ปุ่นค่อนข้างจะมีระบบแบบแผนที่ชัดเจน ระบบรุ่นพี่ ระบบการผลักดัน ฯลฯ ทำให้นักมวยปล้ำรุ่นใหม่ไม่ได้เกิด ตลอดจนความนิยมในนักมวยปล้ำรุ่นใหญ่นั้นจับสื่อในแขนงหลักได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแฟนมวยปล้ำเองนั้น เป็นเรื่องปกติที่เมื่อพวกเขาเห็นอะไรมานานจนเริ่มชิน ก็จะเริ่มเบื่อ ต้องหาอะไรใหม่ๆมาเพิ่มเติม สิ่งนี้คือสิ่งที่สมัยก่อนในยุค 90 นั้นขาดหายครับ แน่นอนว่า “ตัวของแมตช์” จะสนุก อันนั้นไม่มีใครเถียง แต่ในยุคเก่า จะมีการทำอะไรแบบ “สามทหารเสือ” ของสมาคม หรือให้มี “กลุ่ม Ace” ของแต่ละสมาคมมาเป็นตัวหลัก และเรื่องราวสตอรี่ไลน์ต่างๆ หรือเข็มขัดแชมป์ ก็จะวนอยู่ในแถบพวกนั้นแหละ สิ่งนี้มีข้อดีในทางธุรกิจคือมันเพิ่มมูลค่าของ “ตัวบุคคล” ได้มาก ขายของได้มาก ขายบัตรได้มาก แต่ข้อเสียคือคนอื่นจะไม่ได้เกิดกันน่ะสิ (ปัจจุบันผู้บริหารสมาคม New Japan Pro Wrestling สมาคมมวยปล้ำอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ก็บอกว่าจะหันมาใช้กลยุทธ์นี้ คือการดันนักมวยปล้ำตัวหลักสามสี่คนเป็นหลัก)
“สิ่งที่ขาดหาย” ที่ผมพูดถึงในช่วงยุค 90 ของสมาคม AJPW ที่ครองญี่ปุ่นอยู่ ณ เวลานั้น คือการขาดหายของนักมวยปล้ำรุ่นเล็ก หรือรุ่นเล็กกึ่งใหญ่ (Junior Heavyweight) และจุดนี้เองที่สมาคม Noah (ซึ่งได้นักมวยปล้ำเดิมของ AJPW มาเกือบทั้งหมด) ได้พยายามผลักดันนักมวยปล้ำรุ่นเล็ก จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “Junior Ace” นั่นคือมีนักมวยปล้ำรุ่นเล็กที่กลายเป็นหน้าเป็นตาของสมาคม ยกตัวอย่างเลยเช่นนักมวยปล้ำอย่าง KENTA , Naomichi Marufuji ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักมวยปล้ำระดับแนวหน้าของสมาคมและได้รับการผลักดันมาจากสมาคมนี้
สิ่งที่พีคที่สุดของสมาคมแห่งนี้ ก็คือการจัดอีเวนท์มวยปล้ำในสังเวียนใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง Tokyo Dome ต่อหน้าผู้คนกว่า 5 หมื่นคน ซึ่งถิเป็นหนึ่งในอีเวนท์ที่มีผู้ชมสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวยปล้ำญี่ปุ่น (ทำยอดผู้ชมได้ห้าหมื่นในปี 2004 และ ห้าหมื่นสองพัน ในปี 2005) นักมวยปล้ำหลายรายกล่าว่า พวกเขาเริ่มหัดเป็นนักมวยปล้ำหลังจากได้ชมอีเวนท์ของสมาคมในครั้งนี้ และสองปีดังกล่าวถือว่าเป็นปียอดเยี่ยมของสมาคม เพราะนอกจากจะประสบความสำเร็จในแง่การขายแล้ว พวกเขายังได้รับรางวัล “สมาคมมวยปล้ำที่ดีที่สุดในโลก” ติดต่อกันถึง 2 ปีอีกด้วย
แต่วิกฤติของสมาคมมาเกิดขึ้นในปี 2009 เมื่อต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสมาคม หลังจากประธาน “Mitsuharu Misawa” เกิดเสียชีวิตกลางเวที ทำให้เกิดคำถามถึงระบบความปลอดภัยของสมาคมว่าเตรียมพร้อมขนาดไหน รวมถึงในปี 2010 สมาคมก็มีข่าวพัวพันว่ามีส่วนร่วมกับขบวนการยากูซ่า ทำให้สมาคมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ทั้งในแง่ของการบริหาร ตลอดจนความเชื่อถือของแฟนๆ ที่ต้องสร้างกันใหม่ทั้งหมด
เหตุนี้ยอดผู้ชมของสมาคมก็ลดลงเรื่อยๆ ลองนึกภาพดูว่าจากสมาคมที่จัดในโตเกียวโดม และมีผู้ชมหลายหมื่น ค่อยๆลดลงเหลือหมื่นต้นๆ เหลือพันต้นๆ ไปจนถึงหลักร้อยต้นๆ มันจะวิกฤติขนาดไหน และสมาคมต้องพยายามอย่างไรถึงจะเรียกศรัทธาจากแฟนๆ กลับมาได้
ในที่สุดสมาคมก็ถูกเข้ามาดูแลโดย Bushiroad บริษัทที่ปัจจุบันได้เข้ามาดูแลกิจการของ New Japan Pro Wrestling เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับ Noah นั้น แฟนๆหลายคนมองว่า กำลังค่อยๆถูกทำให้กลายเป็นค่ายรอง และขายได้ด้วยชื่อเสียงเก่าๆเท่านั้น… มีการนำนักมวยปล้ำของ NJPW ไปขึ้นปล้ำใน Noah และไปเป็นใหญ่ในสมาคม แต่บางครั้งนักมวยปล้ำตัวหลักของ Noah กลับถูกนำไปขึ้นปล้ำในค่ายพัฒนาทักษะของ NJPW ซึ่งถือเป็นความย้อนแย้งและความแตกต่างอย่างชัดเจน
ล่าสุด Noah จัดอีเวนท์ที่มียอดผู้ชมเพียง 138 คน และจัดในสนามโคระคุเอน ฮอลล์ โดยมียอดผู้ชมเพียง 800 กว่าคน น้อยกว่าค่ายอิสระบางค่ายด้วยซ้ำ สิ่งนี้คือสิ่งที่ต้องจับตามองให้ดีว่า สุดท้ายสมาคมนี้จะเป็นอีกหนึ่งตำนานที่ต้องล้มหายตายจากไปจากโลกแห่งมวยปล้ำรึเปล่า
ตอนนี้แฟนๆ ก็ต่างหวังว่า สมาคมจะมี “แผนการณ์” อะไรบางอย่างมาแก้ไขปัญหาบ้าง เพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาที่วิกฤติเริ่มเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน ดูเหมือนว่าสมาคมจะไม่มีความพยายามอะไรมาแก้ไขเลย ทำให้แฟนๆ เริ่มตีตัวออกห่าง เพราะในความจริงแล้ว โลกของมวยปล้ำนั้น สมาคมอื่นๆ ต่างแข่งขันกันพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครมาหยุดรอให้ Noah ปรับปรุงตัวอีกต่อไป
แฟนๆ เชื่อมั่นกันว่าในอีกสองถึงสามปี หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราก็เตรียมบอกลา Noah ที่เรารู้จักได้เลย โดยหากสมาคมไม่ปิดตัวลง ก็น่าจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบ หรือลดขนาดลงไปจากที่เราเคยคุ้นเคยกัน จนไม่อาจจะเปรียบเทียบได้กับชื่อ “สมาคมที่ดีที่สุดของโลก” ในอดีตครับ
เรื่องแนะนำ :
– มิติใหม่ของมวยปล้ำญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา
– Masked World League โอลิมปิคของนักมวยปล้ำหน้ากากทั่วโลก
– DDT Ironman Heavymetalweight เข็มขัดแชมป์มวยปล้ำที่แม้แต่ไก่ย่างก็เป็นแชมป์มาแล้ว!?
– เวทีมวยปล้ำเป็นอย่างไร
– STARDOM ค่ายมวยปล้ำหญิงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น