ชายผู้สร้างแบรนด์ “Onitsuka Tiger” กล่าวไว้ว่า… “แรกเริ่มที่ดูเหมือนไม่มีอะไรนอกจากความคิด แต่ฉันเชื่อว่า แค่สิ่งนี้ก็สามารถทำให้คุณสร้างสิ่งที่เหมือนจะไม่มี ให้เกิดขึ้นได้ เพียงแค่….คุณพยายามที่จะทำมัน”
“In the beginning there was nothing, only an idea. But I believe that you could build anything out of almost nothing. You just have to strive for perfection.”
ในแรกเริ่มที่ดูเหมือนไม่มีอะไรนอกซะจาก “ความคิด” แต่ฉันเชื่อว่า แค่สิ่งนี้ก็สามารถทำให้คุณสร้างสิ่งที่เหมือนจะไม่มีให้เกิดขึ้นได้ เพียงแค่….คุณพยายามที่จะทำมัน
นี้คือ คำพูดของชายที่ชื่อ Kihachiro Onitsuka ผู้สร้างแบรนด์รองเท้า “Onitsuka Tiger” ที่โด่งดังไปทั่วโลก ชายที่มีเพียงแค่ความคิดและความเชื่อมั่นที่จะทำให้สำเร็จ


ย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ. 1949 ณ เมืองโกเบ ที่ที่ชายผู้นี้อาศัยอยู่และที่นั่นคือ จุดเริ่มต้นขณะที่คุณKihachiro Onitsuka นั่งทาน “สลัดญี่ปุ่น” ที่แม่เขาทำให้ เมื่อสลัดเริ่มหมดจนเหลือเพียงหนวดปลาหมึกชิ้นสุดท้ายอยู่ก้นชาม เขาใช้ตะเกียบเพื่อหยิบมันขึ้นมาดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก ณ ตอนนั้น ทำให้เขาเกิดไอเดียว่า ทำไมเราไม่เอาวิธีการนี้มาใส่ในรองเท้าที่เราจะทำล่ะ? (ตอนนั้นกีฬาบาสเกตบอลกำลังเป็นที่สนใจ โดยในช่วงนั้นญี่ปุ่นเพิ่งผ่านสงครามมาและทุกคนเชื่อว่า กีฬาจะสามารถฟื้นฟูจิตใจประชาชนให้ดีขึ้นได้) และในปีเดียวกันก็เกิดบริษัท Onitsuka Co., Ltd. ขึ้นเพื่อสร้างสรรค์รองเท้าที่ดีให้กับเยาวชน

เวลาผ่านไปเขาพยายามพัฒนารองเท้าที่มาจากแค่ความคิดและความเชื่อมั่น สุดท้ายก็สำเร็จในปี 1950 รองเท้าคู่แรกมีชื่อว่า “OK Basket Ball Shoes” (คำว่า OK มาจากชื่อของคุณ Kihachiro Onitsuka) รองเท้านี้ผลิตขึ้นมาสำหรับนักกีฬาบาสเกตบอลผสมผสานเทคนิค “Octopus Suction Technology” มาเป็นรองเท้าบาสเกตบอลที่ทำให้รองเท้ามีแรงดูดในการหยุดกะทันหันและสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว (รองเท้าคู่แรกนี้มีโลโก้รูปเสืออยู่ตรงกลางรองเท้าจากนั้นจึงกลายเป็นชื่อ Onitsuka Tiger ทั้งยังต้องการสื่อว่าเราห่วงใยและปกป้องข้อเท้าของผู้สวมใส่)
นับเป็นก้าวแรกที่ทำให้ Onitsuka Tiger ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายรองเท้า (Nike ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรองเท้า Onitsuka Tiger ในตอนเริ่มต้น) และทำการริเริ่มสร้างสรรค์รองเท้าสำหรับนักกีฬาในแต่ละประเภทขึ้น ไม่ว่าจะรองเท้าสำหรับกีฬาฟุตบอล, มวยปล้ำ, สกี, กอล์ฟ, เทนนิส หรือแม้แต่รองเท้าวิ่งที่เมื่อสวมใส่แล้วไม่ทำให้เกิดแผลผุพองจากการเสียดสีเป็นเวลานาน เพราะเขาได้คิดค้นพัฒนานำเทคนิค Air – cooling System Engine ที่ระบายความร้อนออกจากรองเท้าและดูดอากาศข้างนอกเข้าไปแทนที่ จึงทำให้รองเท้าที่ผลิตขึ้นส่งผลให้นักกีฬาสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น แถมยังทำให้ไม่เกิดแผลพุพองอีกด้วย จะมีก็เพียงแต่รอยแดงเท่านั้น

แต่ที่ทำให้รองเท้า Onitsuka Tiger โด่งดังสุดๆ ก็เมื่อตอนที่ Onitsuka Tiger ผลิตรองเท้าวิ่งให้กับKenji Kimihara นักกีฬาวิ่งมาราธอนชาวญี่ปุ่นผู้ได้รับเหรียญเงินในปี 1968 Mexico Olympic Marathon ในตอนท้ายเขาได้บอกกับทุกคนว่าที่เขาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ได้ก็เพราะ “รองเท้าของ Onitsuka Tiger” (มันโด่งดังมากจนต้องออกรองเท้า Onitsuka Tiger รุ่น Mexico 66 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จในชัยชนะและการเปลี่ยนรูปแบบลายเส้นใหม่ของรองเท้า Onitsuka Tiger)
จากนั้นไม่ว่าจะมีการแข่งขันอะไรนักกีฬาทั้งหลายล้วนมาขอให้ Onitsuka Tiger ผลิตรองเท้าที่ต้องการให้ตามรูปแบบการใช้งานที่ต้องการ แม้แต่ Lasse Viren นักกีฬาวิ่งผู้เป็นเจ้าของเหรียญทองวิ่งระยะ 5 k. และ 10 k. Meters ในปี 1976 Montreal Olympic สวมใส่รองเท้า Onitsuka Tiger ที่พัฒนาขึ้นเพื่อความต้องการของเขาโดยเฉพาะ ส่งผลให้นักกีฬาทั้งหลายเริ่มให้การยอมรับและสวมใส่รองเท้า Onitsuka Tiger กันมากขึ้น

Onitsuka Tiger ทำการพัฒนาเรื่อยมาแบบไม่หยุดยั้งจนในปี 1977 Onitsuka Co., Ltd. ก็ทำการควบรวมกับ GTO Co., Ltd. และ Jelenk Co., Ltd. เพื่อก่อตั้งบริษัท ASICS Corporation แม้จะเปลี่ยนชื่อไปแต่รองเท้าแนว Vintage ของ ASICS ยังคงผลิตและขายในชื่อ Onitsuka Tiger อยู่และด้วยคอนเซปที่ว่า “Anima Sana In Corpore Sano – sound mind, sound body” แปลเป็นไทยคือ “จิตที่แข็งแกร่ง ย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง” ส่งผลทำให้ผู้คนชื่นชอบในตัวของ ASIC มากขึ้นและขยายสาขาออกไปทั่วโลก

และถึงแม้จะผ่านมานานแล้วกับจุดเริ่มต้นและความสำเร็จของ Onitsuga Tiger แต่คุณ Kihachiro Onitsuka ก็ยังคงคิดและส่งต่อเจตนารมณ์ “The Never Ending Innovation” สู่คนรุ่นต่อไปและนั้นทำให้รองเท้า Onitsuga Tiger ยังคงเป็นที่หนึ่งในดวงใจของใครหลายๆคน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ:
http://corp.asics.com/en/
http://www.onitsukatiger.com/au/en-au/about
http://www.virtualjapan.com/wiki/Onitsuka_Tiger
http://mynameishadif.blogspot.com/
http://www.afew-store.com
http://kaiiwong.blogspot.com/2012/01/history-of-onitsuka-tiger.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Onitsuka_Tiger
http://www.onitsukatigerclub.com/forums/index.php?showtopic=5448
http://hotproshop.com/
กีฬาน่ารู้ : ที่มาของชื่อและสัญลักษณ์ของ ASICS-Onitsuka Tiger
http://enjoy-articles.blogspot.com/2009/08/onitsuka-tiger.html
http://www.youtube.com
http://www.coroflot.com
http://www.enmodefashion.com/en/meeting-the-onitsuka-legends
http://www.trainerstation.com/onitsuka-tiger-brand-history.html
http://cargocollective.com/maitealbuquerque/Made-of-Japan-Onitsuka-Tiger-2
http://www.prodirectselect.com/history/onitsuka-tiger-mexico-66-trainers.aspx
http://global.rakuten.com/en/store/katsuboya/item/otta0203/?s-id=borderless_recommend_item_en