เที่ยวคิวชูด้วยรถไฟ JR Kyushu …ในตอนนี้เราจะไปเที่ยวกันต่อที่จังหวัด Saga ไปกันในแต่ละจุดที่น่าสนใจทั้งนั้น มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง (^^)/
ในตอนที่ 2 เที่ยวคิวชู (เหนือ) ด้วยรถไฟ JR Kyushu ตอนที่ 2 เรานั่งรถไฟไปเที่ยวทางตอนบนของเกาะคิวชู แถบ Kitakyushu กันหลายจุดเลย ในครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวกันต่อด้วยรถไฟ JR Kyushu เช่นเดิม แต่คราวนี้ เราจะไปเที่ยวกันในแถบจังหวัด Saga!!
สำหรับการมาเที่ยวจังหวัดซากะในครั้งนี้ของเรา ก็ประหนึ่งว่ามาตามรอยละครนั่นเอง เพราะมีละครไทยและญี่ปุ่นหลายเรื่องไปถ่ายทำที่จังหวัดซากะ และสถานที่ที่เราไปเยือนกันในครั้งนี้นั้น ก็มักจะเป็นฉากในหนังหรือละครดังเหล่านั้นด้วย
Yutoku Inari Shrine
และสถานที่แรกในจังหวัดซากะที่เราอยากจะแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาดไปเที่ยวชมกัน นั่นก็คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมอย่างศาลเจ้าโยโทคุ อินาริ
Yutoku Inari Shrine อยู่ไม่ไกลจากสถานี Hizenkashima นัก การนั่งรถไฟมาเที่ยวจึงค่อนข้างสะดวก ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1687 เพื่อเป็นที่ประทับแห่งเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ผู้ประทานผลเก็บเกี่ยวอันอุดมสมบูรณ์ (เทพอินาริ) คล้ายศาลเจ้าฟุชิมะอินะริในเกียวโต ถือเป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 รองมาจากศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushi-mi Inari Shrine) และศาลเจ้าคะซะม่าอินาริ (Kasama Inari Shrine) ในอิบาระกิ ปัจจุบันมีผู้คนนิยมมาที่นี่เพื่อสักการะขอพรให้การเพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจการค้า และขอให้มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุทั้งปวง
โดย Yutoku Inari เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละคร “Gata no kuni kara” ละครที่ถ่ายทำที่ซากะ ออกอากาศ 160 ประเทศทั่วโลกช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2017 มีคุณธิติ มหาโยธารักษ์ (แบงค์) นักแสดงชาวไทยร่วมแสดงด้วย และศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละคร “กลกิโมโน” ด้วยนะ
และศาลเจ้า Yutoku Inari ยังเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าบนเกาะคิวชูที่สามารถมาชมความงามของซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็ได้ มาชมใบไม้แดงช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ดีนะ
สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดี ไม่ต่างจากตัวศาลเจ้าก็คือถนนคนเดินที่นำพวกเราไปยังตัวศาลเจ้านั่นเอง เพราะร้านรวง ร้านขนม ร้านของฝากที่มีอยู่มากมาย ช่างน่าแวะเวียน เข้าไปชมสินค้ากันซะทุกร้านเลยทีเดียว
Yutoku Inari Shrine
ที่ตั้ง : Furueda, Kashima, Saga Prefecture 849-1321
เปิดบริการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน (มีเวลาเปิด-ปิด ในส่วนของสวนและพิพิธภัณฑ์)
ค่าเข้าชม : ฟรี (มีค่าเข้าชม ในส่วนของสวนและพิพิธภัณฑ์)
การเดินทาง : สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ JR Hizen Kashima ต่อ Taxi ไปประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : https://www.yutokusan.jp/en/
Karatsu Castle
มาต่อกันที่อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ในจังหวัดซากะ ที่มาแล้วต้องขอบอกเลยว่าสวยงามไม่น้อยหน้าที่ไหนๆ … ปราสาทงามสีขาว นามว่าปราสาท Karatsu
ปราสาทคารัทสึนั้น ตั้งอยู่บนเนินเขากลางเมือง Karatsu จากหอคอยชั้นบนสุด เราจะสามารถมองเห็นวิวของเมือง Karatsu ได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว โดยปราสาทแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกน่ารักๆ ว่า Maizurujo หรือปราสาทนกกระเรียนเริงระบำ ด้วยลักษณะของปราสาทที่คล้ายปีกนกกำลังสยายกว้าง และหอคอยก็มีลักษณะคล้ายหัวนกกระเรียน
ปราสาทคารัทสึสร้างขึ้นในปี 1602 แต่น่าเสียดายที่ถูกทำลายลงในปี 1872 อย่างไรก็ตาม ก็มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1966 จนสวยงามอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดยกลายเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยุคซามูไร
Karatsu Castle
ที่ตั้ง : 8-1 Maizuru Koen, Higashijonai, Karatsu-shi, Saga Prefecture 847-0016
เปิดบริการ : 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันหยุดสิ้นปี)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก 200 เยน
การเดินทาง : สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ JR Chikusen Karatsu ต่อ Taxi ไปประมาณ 5 นาที (นั่งรถบัส 7 นาที ลงป้าย Karatsujo Iriguchi / เดิน 20 นาที)
เว็บไซต์ : http://www.karatsu-bunka.or.jp/shiro.html (ภาษาญี่ปุ่น)
Niji no Matsubara (Rainbow Pine Grove)
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ศาสนสถาน และสถาปัตกรรมที่งดงามแล้ว ที่ซากะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ เป็นป่าสนชายเลนที่หาได้ยากยิ่งในโลกนี้ ที่นี่เรียกว่า Niji no Matsubara หรือ Rainbow Pine Grove
Niji no Matsubara เป็นป่าสนชายเลนแห่งจังหวัดซากะ (#Saga) ซึ่งถือว่าเป็น Top 3 ของป่าประเภทนี้ในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมอ่าว Karatsu โดยป่ามีลักษณะเป็นรูปโค้งเลาะเลียบอ่าว คล้ายกับสายรุ้ง จึงได้ชื่อว่าป่าสายรุ้งนี้มา มีต้นสนดำขึ้นอยู่ถึงราวหนึ่งแสนต้น สามารถป้องกันการพังทลายของดินริมอ่าวได้เป็นอย่างดี ในช่วงน้ำขึ้น น้ำลง และช่วงที่ลมพายุรุนแรง
ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม…
และถ้าใครได้มาเยือนที่นี่ แนะนำว่าต้องแวะกิน Karatsu Burger อร่อยจริงจังมาก ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 😉
เป็นรถขายอาหารแบบเคลื่อนที่ แต่ขายประจำอยู่ที่ป่าสนชายเลนแห่งนี้ เรามากี่ที ก็ขอให้ได้แวะซะทุกที … ก็มันอร่อยจริงๆ
Niji no Matsubara
ที่ตั้ง : 1-1 Nishijonai, Karatsu-shi, Saga Prefecture 849-5131
การเดินทาง : สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ JR Nijinomatubara (Chikuhi Line)
เว็บไซต์ : https://www.welcomekyushu.com/event/?mode=detail&id=9999900051960&isSpot=1&isEvent=
Daiwa Royal Hotel (Hotel & Resorts SAGA KARATSU)
และก่อนที่ได้ไปเที่ยวในจังหวัดซากะกันต่อ ก็ถึงเวลาต้องพักซะแล้ว เราเข้าพักกันที่โรงแรม Hotel & Resorts SAGA-KARATSU (Daiwa Royal Hotel)
Hotel & Resorts SAGA-KARATSU (Daiwa Royal Hotel)
ที่ตั้ง : 4-9-20 Higashikaratsu, Karatsu-shi, Saga 847-0017
การเดินทาง : ถ้านั่งรถไฟมาลงสถานี JR Higashi-Karatsu นั่ง Taxi ประมาณ 3 นาที แต่ถ้ามาลงที่สถานี JR Karatsu นั่ง Taxi ประมาณ 10 นาทีก็ถึง
Yobuko Morning Market Street
ในตอนเช้า เราก็เริ่มออกเดินทางกันต่อไปยัง ตลาด Yobuko (Yobuko Morning Market Street) ซึ่งเป็นตลาดเช้าที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดซากะ ตั้งอยู่บริเวณเมืองท่า Yobuko ทางเหนือของคาบสมุทร Matsuura ที่เคยเป็นเมืองท่าจับปลาวาฬ ปัจจุบันกลายเป็นตลาดเช้าที่ขายอาหารทะเล ปลาสด ปลาแห้ง และของเด่น ของดัง ของตลาดเช้าแห่งนี้ก็คือปลาหมึกสดๆ คุณภาพดี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตอนที่เราได้ไปเยือน จึงมีโอกาสได้เห็นผู้คนแวะเวียนมาเข้าคิวหาซื้อปลาหมึกสดๆ กันที่ตลาดแห่งนี้กันเยอะเชียว
โดยปลาหมึกโยะบุโกะ (Yobuko Squid) นิยมนำมาทานเป็นซาซิมิ และถ้าอยากกินซาซิมิปลาหมึก Yobuko ให้อร่อย ก็ต้องมาเยือนตลาด Yobuko กันนะ 😉
นอกจากนี้ ที่นี่เรายังจะได้เห็นความน่ารัก ของพ่อค้าแม่ค้า ที่เป็นคนในท้องถิ่น ที่นำสินค้าหลากหลายมาวางจำหน่าย พวกเขามีความเป็นกันเองแบบชาวบ้านแท้ๆ น่ารักดีนะ ^^
Yobuko (Yobuko Morning Market Street)
ที่ตั้ง : Asaichi Street Yobuko, Yobuko cho, Karatsu City, Saga Prefecture
เปิดบริการ : 07.30 – 12.00 น. (ปิดบริการวันที่ 1 มกราคม)
การเดินทาง : จากสถานี JR Karatsu นั่ง Taxi ไปประมาณ 30 นาที แตค่ก็สามารถนั่ง Bus ไปได้ลงที่ป้าย Yobuko ใช้เวลาราวๆ 30 นาทีเช่นกัน แต่ประหยัดกว่าแน่นอน!!
เว็บไซต์ : https://www.karatsu-kankou.jp/en/spots/detail/52/
Cape Hado
มาชมความงดงามทางธรรมชาติของจังหวัดซากะกันอีกสักหนึ่งแห่ง ที่ แหลมฮะโดะ (Cape Hado)
แหลม Hado หรือชื่อเต็มๆ Hadomisaki เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดซากะ หลายคนอาจจะคุ้นตากันบ้างจากซีรีย์ Stay ซากะ ที่นี่เป็นแหลมเล็กๆ ที่ยื่นออกมาจากคาบสมุทร Higashimatsuura ซึ่งเป็นบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยสดงดงามมาก และเป็นจุดถ่ายรูปที่เหมาะสำหรับคู่รักและเหมาะกับการพักผ่อนเป็นที่สุด ห่างจากหินเกลียวคลื่นไปนิด จะมีประภาคารให้ได้ไปเที่ยวโลกใต้ทะเลกันด้วย นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันในรูปแบบของกิจกรรมเอ้าท์ดอร์ อย่างเช่น เดินเท้าท่องเที่ยว ตกปลา ตั้งแคมป์ ว่ายน้ำ เป็นต้น เรียกได้ว่ามาชิลกันได้อย่างเต็มที่ และสิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนแหลม Hado ก็คือการได้ชิมหอยซาซาเอะ (Sazae) เมนูดังของที่นี่ โดยเฉพาะหอยซาซาเอะย่างเกลือ… บอกเลยว่าต้องลอง!!
Cape Hado
ที่ตั้ง : 1082 Chinzeimachi, Hado, Karatsu-shi, Saga Prefecture 847-0404
เปิดบริการ : บางจุดมีเวลาเปิดปิด เช่น Underwater Observation Tower เปิดระหว่าง 09.00 – 18.00 น. เป็นต้น
ค่าเข้าชม : บางจุดมีค่าเข้าชม เช่น Underwater Observation Tower ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 270 เยน เป็นต้น
การเดินทาง : นั่ง Showa Bus ที่มุ่งหน้าไป Hado Misaki จากที่ Karatsu Oteguchi Bus Center ลงที่ป้าย Hado Misaki แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : https://www.welcomekyushu.com/event/?mode=detail&id=9999900051965&isSpot=1&isEvent=
Saga เป็นจังหวัดที่มีทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติ ทริปเที่ยวคิวชู (เหนือ) ด้วยรถไฟ JR Kyushu ในครั้งนี้ก็ได้ไปเยือนสถานที่เด่นๆ ของจังหวัดนี้ที่น่าไปเที่ยวชมทั้งสิ้น หวังว่าเพื่อนๆ จะสนใจไปเที่ยวชมกันบ้าง หากมีโอกาสกันนะ และสำหรับในตอนหน้า ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้แล้วนั้น จะเที่ยวกันใน Fukuoka แล้วมาติตตามกันต่อนะ (^^)/
[ad id=”24438″]
เรื่องแนะนำ :
– เที่ยวคิวชู (เหนือ) ด้วยรถไฟ JR Kyushu ตอนที่ 4
– เที่ยวคิวชู (เหนือ) ด้วยรถไฟ JR Kyushu ตอนที่ 2
– เที่ยวคิวชู (เหนือ) ด้วยรถไฟ JR Kyushu ตอนที่ 1
– เที่ยวคิวชู ตอน Amakusa เกาะสวรรค์แห่งคุมาโมโตะ 1
– เที่ยวคิวชู ตอน Amakusa เกาะสวรรค์แห่งคุมาโมโตะ 2