วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (8) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การรู้ซึ่งความดีของตัวอักษรสองตัว เฮียวโฮ (兵法 พิชัยสงคราม)
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน อาทิตย์นี้เราก็กลับเข้าสู่เนื้อหาของ “คัมภีร์แห่งปฐวี” กันต่อนะครับ ตัวผมเองไม่มีไรมากครับแค่หลังจากขึ้นสายน้ำเงินแล้วก็โดนจัดหนักไปหน่อย (ฮา) ไหนจะ shark tank ไหนจะวันก่อนโดนทุ่มแบบหลังกระแทกพื้น ตูม! จนต้องกลับไปกิน (แคปซูล) ใบบัวบกที่บ้าน ชีวิตก็แบบนี้แหละครับ ไม่พูดเยอะละมาเข้าเนื้อหากันเลยนี่
คำแปลข้อความต้นฉบับ
地の巻
คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน)
七 一 兵法二ツの字の利を知事
เจ็ด การรู้ซึ่งความดีของตัวอักษรสองตัว เฮียวโฮ (兵法 พิชัยสงคราม)
`此道に於て太刀を振得たる者を `兵法者 `と世に言伝へたり `武芸の道に至て弓を能く射れば `射手 `と云鉄砲を得たる者は `鉄砲打 `と云ふ `槍を遣ひ得ては `槍遣 `と云ひ長刀を覚えては `長刀遣 `と云ふ `然るに於ては太刀の道を覚えたる者を `太刀遣 `脇差遣 `といはん事也 `弓 鉄砲 槍 長刀 皆是武家の道具なればいづれも兵法の道也 `然共太刀よりして `兵法 `と云事道理也
ในวิถีนี้ เรียกกันในโลกซึ่งผู้ที่แกว่งไกวทะจิได้ ว่า “นักพิชัยสงคราม” (เฮียวโฮฉะ 兵法者) ถึงในวิถีแห่งยุทธศิลป์ หากยิงธนูได้ดี ก็เรียกว่า “นายขมังธนู” (อิเตะ 射手) เรียกผู้ที่สามารถในปืนว่า “นักแม่นปืน” (เท็ปโปอุจิ 鉄砲打) ใช้หอกได้เรียกว่า “ผู้ใช้หอก” (ยาริซึคาอิ 槍遣) รู้จำ (วิชา) ง้าวได้ เรียกว่า “ผู้ใช้ง้าว” (นางินาตะซึคาอิ 長刀遣) ทว่า ไม่มีการเรียกผู้จำได้หมายรู้ซึ่งวิถีแห่งทะจิว่า “ผู้ใช้ทะจิ” “ผู้ใช้วากิซาชิ” เลย ธนู ปืน หอก ง้าว หากล้วนเป็นเครื่องมือของนักรบนั้นไซร้ ไม่ว่าอันไหนก็เป็นวิถีแห่งพิชัยสงคราม กระนั้น เป็นหลักการ (และเหตุผล) ที่ถือเอาจากทะจิ เรียกว่า “พิชัยสงคราม”
`太刀の徳よりして世を納め身を納る事なれば太刀は兵法のおこる所也 `太刀の徳を得ては一人して十人に勝事也 `一人にして十人に勝なれば百人して千人に勝千人にして万人に勝 `然るによつて我一流の兵法に一人も万人も同じ事にして武士の法を残らず `兵法 `と云所也
โดยถือเอาจากคุณความดีของทะจิ หากเป็นเรื่องการสยบโลกสยบตน ทะจิคือบ่อเกิดแห่งพิชัยสงคราม เมื่อได้ซึ่งคุณความดีของทะจิแล้ว จึงเอาคนเดียวชนะสิบคน หากเอาคนเดียวชนะสิบคนได้ ก็เอาร้อยคนชนะพันคน เอาพันคนชนะหมื่นคนได้ ดังนั้น ในพิชัยสงครามของสายสำนักของข้าฯ จึงถือว่าจะหนึ่งคนหรือหมื่นคนก็เหมือนกัน จึงได้เรียกหลักการแห่งนักรบว่า “พิชัยสงคราม” หมดไม่เหลือเลย
`道に於て儒者 仏者 数寄者 しつけ者 乱舞者此等の事は武士の道にはなし `其道に有らざると云ふ共道を広く知れば物事に出あふ事なり `何れも人間に於て我道我道を能みがく事肝要也
ในวิถีนั้น เรื่องของปราชญ์ขงจื๊อ ชาวพุทธ นักชงชา ครูสอนกิริยามารยาท นักเต้นระบำ เป็นต้นนั้น ไม่มีอยู่ในวิถีของนักรบ แม้จะกล่าวว่าไม่มีในวิถีดังกล่าว หากรู้ให้กว้างจะได้พบพานเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตาม การขัดเกลาบ่อยๆ ซึ่งวิถีของตนๆ ในหมู่ผู้คนนั้น เป็นข้อใหญ่ใจสำคัญ
การตีความและอภิปราย
ก่อนอื่นจะขออภิปรายก่อนว่า ทำไมมูซาชิถึงยกให้ทะจิ หรือ “ดาบ” นั้น เป็นบ่อเกิดแห่งพิชัยสงคราม หากท่านผู้อ่านท่านใดชอบดูสารคดีหรือหนังละครอิงประวัติศาสตร์สงครามและการต่อสู้ของฝรั่งยุคกรีกหรือโรมันโบราณ ไม่ว่าจะ 300 หรือ SPARTACUS หากลองนึกตามดูจะเข้าใจได้ไม่ยากครับ พวกกรีกโบราณหากรบแบบเกาะกลุ่มเป็นกองทัพ ยุทธวิธีที่ใช้ประจำคือ เอาโล่กำบัง เสร็จแล้วเอาหอกแทงสวน แต่หอกมันเป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้ในฐานะ “ส่วนหนึ่งของกองกำลัง” เสียมากกว่าครับ ซึ่งสงครามอย่างคนโบราณนั้น พอเข้าจังหวะสุดท้าย จะกลายเป็นการเข้าห้ำหั่นพัลวันแบบตัวใครตัวมัน (melee) ซึ่งตอนนี้แหละที่จะต้องพึ่งดาบ! นักรบสปาร์ตาเองก็พกดาบไว้ติดตัวแบบถ้าไม่มีหอก (เพราะเอาหอกพุ่งไปแล้ว) ก็ชักดาบออกมาสู้เลย พอถึงยุคโรมัน ดาบกลาดิอุสของพวกโรมันเป็นที่น่าพรั่นพรึงยิ่ง เพราะทำจากเหล็ก (ยุคก่อนโรมันดาบยังเป็นสำริด ดาบเหล็กแข็งแรงกว่า) ขนาดมาถึงยุคกลาง ผมยังเคยเห็นวิดีโอสาธิตวิชาดาบที่ใช้สู้เวลาที่ใส่เกราะเหล็กเลย คือการที่ “ดาบ” เป็นอาวุธที่ต้องพึ่งมันมากที่สุดเวลาเข้าห้ำหั่นประชิดตัว มันก็เลยทำให้ต้องมีการคิดค้นเทคนิค กระบวนท่า ลูกเล่นต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ดาบ (รวมถึงการรับมือคนใช้ดาบ) ตามไปด้วย และในบริบทของญี่ปุ่นโบราณนั้น ดาบนี่หละครับที่ทำให้เกิดวิชายูยิตสู! ทำยังไงจะเอาให้คู่ต่อสู้ล้มลงพื้นแล้วเอาดาบแทงซ้ำให้ตาย ทำยังไงถ้าเราไม่มีดาบ แต่คู่ต่อสู้มี ทำยังไงจะหลบการฟันของคู่ต่อสู้ หรือคุมข้อมือคู่ต่อสู้ไม่ให้ชักดาบได้ถนัด วิชาทุ่ม วิชาข้อต่อ ก็เกิดมาจากแนวคิดที่ว่าทำยังไงจะรับมือกับคนมีดาบอยู่ในมือ ฉะนี้แล
ฉะนั้น อะไรที่มันมีที่ใช้บ่อย มันก็จะมีลูกเล่นต่างๆ พัฒนามากขึ้นไปกว่าสิ่งอื่นๆ จนมาถึงจุดหนึ่งอาจสกัดมันออกมาเป็นหลักการทั่วไปที่เอาไปประยุกต์ใช้กับสิ่งอื่นๆ ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่มูซาชิย้ำก็คือ ความสำคัญของการเรียนรู้สิ่งอื่นๆ ที่อยู่นอกวงของตัวเราออกไป เราจะต้องรู้จักและเข้าใจคนอื่น สิ่งอื่น ที่ต่างไปจากเรา ด้วย ถึงจะเข้าใจตัวเอง เข้าใจสิ่งที่ตัวเราเองเป็นได้อย่างสมบูรณ์ เพราะถ้าในมุมมองของผมแล้ว ไม่ว่าจะเป็น “ตัวเราเอง” หรือ “คนอื่น” ต่างก็เป็น “ส่วนหนึ่ง” ของภาพรวมที่ใหญ่กว่าด้วยกันทั้งสิ้น การจะเข้าใจภาพใหญ่ภาพรวมนั้น จึงต้องเรียนรู้คนอื่นสิ่งอื่นที่นอกไปจากตัวเองด้วย ผมขอไม่พูดเยิ่นเย้อละ ท่านผู้อ่านลองมองรูปนี้แล้วคิดตามถึงสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้ละกันนะครับ
อ่ะ ครับ ก่อนที่ บก. จะแอบบ่นว่าไอ้เจ้า Lordofwar Nick เนี่ย มันเขียนอะไรของมัน เดี๋ยวก็โรมัน เดี๋ยวก็หยินหยาง มันของจีนไม่ใช่เหรอ 555 เพื่อให้เข้ากับธีมของเว็บว่า marumura.com เป็นเว็บเกี่ยวกับญี่ปุ่น ผมก็ลงรูปอาหารญี่ปุ่นเพื่อให้บทความของผมกลายเป็นญี่ปุ่นนะครับ (ฮา)
ท่านผู้อ่านบางท่านอาจจะเบื่อซูชิแล้ว งั้นเอาข้าวแกงกะหรี่ละกันครับ (ฮา)
ข้าวแกงกะหรี่ห่อไข่ใส่คามามาริ (หมึกชุบแป้งทอด) อร่อย ครับ
ก่อนที่จะโดน บก. ค้อนหนักไปกว่านี้ ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (7) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การตั้งชื่อสายสำนักนี้ว่านิโต (สองดาบ)
– เซนกับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู (ตอนพิเศษ) ยูยิตสูเพื่อชีวิตที่ดีกว่า (จริงๆ นะ)
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (6) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การแต่งคัมภีร์ทั้งห้าม้วนแห่งพิชัยสงครามนี้
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (5) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): วิถีแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (4) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): ยกตัวอย่างวิถีแห่งพิชัยสงครามกับช่างไม้
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (8) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การรู้ซึ่งความดีของตัวอักษรสองตัว เฮียวโฮ (兵法 พิชัยสงคราม)