“Miso Drop” เมื่อมีโซะ-ตอ-รี่ (Story) มิโซะก็ไม่ได้เป็นแค่มิโซะ
จากการจัดอันดับคำขอแต่งงานที่เป็นที่นิยมมากในหมู่ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่น โดยเว็บไซต์ Japanalalyze.com หนึ่งในคำขอแต่งงานที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ “ช่วยทำซุปมิโซะให้ผมกินทุกเช้าได้ไหม” หลายคนอาจสงสัยว่าซุปมิโซะเกี่ยวอะไรกับความรักและการขอแต่งงาน
ในสังคมสมัยเก่าของญี่ปุ่น ภาพที่ผู้หญิงญี่ปุ่นเป็นแม่บ้านทำอาหารให้สามีกินนั้นเป็นที่คาดหวัง ซุปมิโซะหรือซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในอาหารหลักที่คนญี่ปุ่นกินบ่อยมาก ดังนั้นการคาดหวังให้ใครมาทำซุปมิโซะให้กินทุกเข้า คือการหวังว่าจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันนั่นเอง
อาหารชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์ ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เป็นอย่างดี
ทั้งๆ ที่เป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นกินเป็นประจำ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า โรงหมักเต้าเจี้ยวในญี่ปุ่นหลายโรง โดยเฉพาะโรงหมักเล็กๆ ในท้องถิ่น กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่ว่าขายสินค้าได้น้อยลงเรื่อยๆ โดยเว็บไซต์ kyodonews.net วิเคราะห์ว่าอาจมีสาเหตุมาจากการที่คนญี่ปุ่นเริ่มมีครอบครัวที่จำนวนสมาชิกในครอบครัวน้อยลง สมาชิกในครอบครัวไม่ได้กินข้าวเช้าพร้อมกัน และเริ่มกินอาหารตะวันตกเพิ่มมากขึ้น จึงลดการบริโภคซุปมิโซะลงไปโดยปริยาย นอกจากนี้โรงหมักเล็กๆในท้องถิ่นยังประสบปัญหาในการหาผู้สืบทอดธุรกิจอีกด้วย
เพื่อช่วยกอบกู้สถานการณ์ดังกล่าว คุณโมโตมิ ทาคาฮาชิ จึงเข้ามามีบทบาทในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อช่วยให้อาหารชนิดนี้มีความน่าสนใจและขายดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์นี้เป็นเต้าเจี้ยวปั้นกลมเป็นลูกบอลตกแต่งหน้าตาสวยงามเหมือนขนม ตั้งชื่อว่า Miso Drop โดยส่วนผสมหลักคือเต้าเจี้ยวหมักจากโรงบ่มในท้องถิ่น 47 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ลูกค้าได้สนุกกับการลิ้มลองเต้าเจี้ยวรสชาติที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด โดยโปรเจ็คการคัดสรรเต้าเจี้ยวจากแต่ละจังหวัดนี้มีชื่อว่าโปรเจ็ค Miso Drop47
คุณทาคาฮาชิ ผู้ซึ่งเคยล้มป่วยเนื่องจากภาวะเครียดสะสมจากการทำงานหนัก รู้สึกประทับใจในรสชาติของเต้าเจี้ยวที่มาจากโรงหมักแบบถังไม้โบราณของญี่ปุ่นในจังหวัดโทคุชิม่า ซึ่งเธอได้มีโอกาสนำมาทำซุปเต้าเจี้ยวกินในช่วงที่กำลังป่วย จริงอยู่ที่ว่าซอสเต้าเจี้ยวสำเร็จรูปจากโรงงานมีวางขายทั่วไปเพื่อนำมาทำซุปมิโซะ แต่เธอคิดว่ารสชาติและคุณภาพเทียบไม่ได้เลยกับเต้าเจี้ยวแท้ๆแบบดั้งเดิมจากโรงหมักท้องถิ่น การกินซุปมิโซะที่คุณภาพดีและอร่อยทำให้ร่างกายของเธอแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อหายป่วยแล้วจึงได้เกิดแรงบันดาลใจทำ Miso Drop ขึ้นมา
ใน Miso Drop นอกจากจะมีส่วนประกอบหลักคือเต้าเจี้ยวแล้วก็มีส่วนผสมน่าอร่อยและดีต่อสุขภาพอื่นๆเช่น ข้าวเกรียบ งาดำ มะเขือเทศอบแห้งเป็นต้น
ซุปมิโสะแบบออริจินัลนั้นมีส่วนประกอบคือน้ำซุปดาชิที่ทำจากปลาแห้ง ซึ่งทางคุณทาคาฮาชิเป็นห่วงว่าลูกค้ากลุ่มที่เป็นมังสวิรัติจะทานไม่ได้ จึงได้ปรับสูตรเป็นใส่ส่วนผสมที่ทำจากพืชแทน
วิธีการปรุงก็ง่ายมาก เพียงหย่อน Miso Drop ลงในน้ำร้อน รอ 30 วินาที คนให้ส่วนประกอบต่างๆละลายเข้ากันกับน้ำร้อนแล้วทานได้เลย โดยคุณทาคาฮาชิแนะนำว่าลูกค้าสามารถใส่ส่วนประกอบอื่นๆลงไปเพิ่มได้เองเพื่อให้อิ่มท้องและอร่อยมากขึ้นเช่น กล้วยอบแห้ง ไข่ต้ม ซีเรียล ถั่ว นมถั่วเหลือง เป็นต้น โดย Miso Drops จะตอบโจทย์ลูกค้าที่รักสุขภาพแต่ไม่ต้องการเสียเวลาทำน้ำซุปเองทุกวัน จะทานเป็นมื้อไหนของวันก็อิ่มอร่อย เป็นอาหารเช้าก็ได้ เป็นของว่างยามดึกก็ดี ซื้อให้เป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษก็ไม่ผิดกติกาเพราะมาพร้อมแพ็คเกจจิ้งที่สวยงาม
Miso Drops ได้รับกระแสการตอบรับดีจากลูกค้าหลายประเทศ หลายภูมิภาคทั่วโลก ทันทีที่คุณทาคาฮาชิแนะนำสินค้าลงอินสตาแกรม ก็มีลูกค้าจากเยอรมันและแอฟริกาใต้มาแสดงความคิดเห็นในด้านบวก ความฝันของเธอคือการผลักดันให้ Miso Drop เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ตลาดโลกได้ ไม่เฉพาะแต่ในตลาดญี่ปุ่นเท่านั้น
เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ และทำให้คนเขียนบทความนี้หิว อยากได้ซุปมิโซะหอมๆ ร้อนๆ สักถ้วย ^^
ทักทายพูดคุยกับ คอลัมน์นิจ ได้ที่ >>> Facebook คอลัมน์นิจคิดandไรท์
เรื่องแนะนำ :
– ช่องทางรวยใหญ่กับอาชีพใหม่ เป็นดีไซเนอร์ขายกิโมโนทิพย์ในเกมออนไลน์
– โกะโยคิคิ (Goyokiki) อาชีพที่ทำทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ
– Starbucks กับแคมเปญ “47 Jimoto Frappucino” เมื่อทุกจังหวัดในญี่ปุ่นล้วนมีเอกลักษณ์แฟรบปูชิโน่ของตัวเอง
– งานพิเศษที่คนญี่ปุ่นอยากทำมากที่สุดคืองานอะไร เค้าคิดเหมือนคนไทยหรือเปล่านะ?
– เหยื่อระเบิดปรมาณู ชีวิตที่ไม่ตายก็เหมือนตาย มรดกฝันร้ายส่งต่อถึงลูกหลาน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:
– https://japanalyze.com
– https://www.scmp.com
– https://english.kyodonews.net
– https://th.anngle.org
#“Miso Drop” เมื่อมีโซะ-ตอ-รี่ (Story) มิโซะก็ไม่ได้เป็นแค่มิโซะ